วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

พบเด็กชาวเขา อายุ 4 ขวบ กำพร้าอยู่บ้านตามลำพังนานนับปี เมื่อ 24 ก.ค.57



พบเด็กชาวเขา อายุ 4 ขวบ กำพร้าอยู่บ้านตามลำพังนานนับปี
 
ผู้สื่อข่าว  ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ไปพบ "น้องแกะแก๋" เด็กชายชาวเขาเผ่าลาหู่ (หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า มูเซอ) กำพร้าพ่อแม่ อาศัยอยู่ในบ้านคนเดียวมานานนับปี ในหมู่บ้าน จะนู ต.แม่ยาว อ.เมือง เชียงราย ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบ นายนัฐกานต์ ศรีกุนา ผอ.สำนักยานยนต์ วัดห้วยปลากั้ง ม.3 ชุมชนห้วยปลากั๊ง ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย ผู้ที่เดินทางไปพบ น้องแกะแก๋ ตามที่ชาวบ้านบอกเล่ามา

นายนัฐกานต์ ระบุว่า เด็กน้อยน่าสงสารรายนี้ชื่อจริงว่า ด.ช.จะอือ แสนท้อน บัจจุบันอายุ 4 ขวบ ชาวบ้านในหมู่บ้านเรียกว่า น้อง "แกะแก๋ " เป็นภาษาลาหู่ ตั้งแต่เกิดมาแม่ก็เสียชีวิตไปตอนที่น้องแกะแก๋ยังแบเบาะ ส่วนพ่อก็สติไม่สมประกอบเพราะเสพยาเสพติด กลายเป็นคนเร่ร่อนเดินหากินไปทั่ว ไม่สนใจลูก ไม่กลับมานอนบ้าน บางทีหายไปนานหลายเดือน นานๆ ทีจะกลับบ้านมาทีก็จำลูกตัวเองไม่ได้ ไม่ใส่ใจดูแล 

ชาวบ้านในหมู่บ้าน ที่สงสารเด็กก็จะแบ่งอาหารให้น้องแกะแก๋ กินตามมีตามเกิด การเป็นอยู่แบบ อดมื้อกินมื้อ ปล่อยวิ่งเล่นในหมู่บ้านตามประสาเด็กไปวันๆ โดนเด็กในหมู่บ้านล้อประจำว่า เป็นลูกคนบ้า หนังสือไม่ได้เรียน น้ำไม่ได้อาบ เวลาง่วงนอน ก็จะกลับเข้าไปนอนในบ้าน เช้าก็ออกมาขอข้าว ชาวบ้านใกล้เคียงกิน ชีวิตเป็นแบบนี้มานานนับปี ตั้งแต่ อายุ 2 ขวบกว่า ซึ่งพอเดินได้บ้าง ก็ดิ้นรนปากกัดตีนถีบด้วยตัวเองมาตลอด เสื้อผ้าก็ได้จากชาวบ้านในหมู่บ้านแบ่งให้ใส่ นาน ๆ ทีก็จะถูกจับตัดผม หรือมาอาบน้ำในลำธาร เล่นน้ำกับเด็กในหมู่บ้านบ้าง

นายนัฐกานต์ บอกต่ออีกว่า ตนเองทราบเรื่องดังกล่าวจากชาวบ้านที่มาทานข้าวที่โรงทานของวัด และชาวบ้านเห็นว่า ที่วัดรับเลี้ยงเด็กกำพร้า จึงเล่าเรื่องของน้องแกะแก๋ให้ จากนั้นตนจึงเดินทางโดยรถจักรยานยนต์ ขี่ไปหาตัวน้องแกะแก๋ที่หมู่บ้าน ตามที่ได้รับข้อมูลจากชาวบ้านมา ซึ่งเป็นเส้นทางลัดเลาะไปตามป่าเขาสูงชันใช้เวลาเดินทางนานนับชั่วโมง 

โดยหมู่บ้านมีชื่อว่า "จะนู" เป็นหมู่บ้านเล็กๆ กลางป่า มีประชากรไม่มาก ส่วนใหญ่ทำการเกษตร บ้างก็มาขายแรงงานในเมือง ครั้งแรกที่เจอน้องแกะแก๋ ก็เป็นเด็กธรรมดา วิ่งเล่นในหมู่บ้าน แต่พอเข้าไปดูในบ้านของเด็ก เป็นบ้านสร้างด้วยไม้ไผ่ มุงหญ้าคา สภาพเก่า ทรุดโทรม พอบังแดดบังฝนได้เท่านั้น เข้าไปก็มีที่นอนเก่าๆ มุ้ง ผ้าห่ม ซึ่งเป็นของใช้เก่าของพ่อแม่ที่ทิ้งใว้ ไฟฟ้าไม่มี ไม่มีแม้แต่จานข้าว หรือเครื่องครัวใดๆ สภาพน่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง 

สำหรับ น้องแกะแก๋ ก็สามารถพูดจาโต้ตอบได้เป็นอย่างดี ฟังภาษาไทยรู้เรื่อง ถึงแม้ว่าหลายครั้ง น้องแกะแก๋จะโต้ตอบเป็นภาษาลาหู่ ก็ตาม แต่ก็พอสื่อสารกันเข้าใจ 

ล่าสุด นายนัฐกานต์ ได้นำเรื่องไปบอกกล่าวกับพระครูพบโชค เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั๊งเรียบร้อยแล้วและเตรียมรับตัว น้องแกะแก๋ มาเลี้ยงดูที่วัด ซึ่งทางวัดมีสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า และเด็กยากไร้อยู่แล้ว
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น