วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เจาะเส้นทาง...มือระเบิด เมื่อ 15 ก.พ.55


เมื่อวันแห่งความรักต้องอบอวลด้วยควันระเบิด ส่งผลให้ทุกอณูของสังคมไทย ต่างตกอยู่ในอาการตื่นตระหนกและหวาดกลัว เมื่อ "ทูตแห่งความชัง" ปรากฏกายแทนที่ "ทูตแห่งความรัก" ?!!
        ราวบ่าย 2 โมงของวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เสียงกัมปนาทจนแสบแก้วหูดังขึ้นบริเวณตู้โทรศัพท์สาธารณะ ภายในซอยปรีดีพนมยงค์ 31-33 หน้าโรงเรียนเกษมพิทยา และริมถนนสุขุมวิท 71 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ พร้อมกับร่างชุ่มเลือดของชายชาวต่างชาติ เนื้อขาส่วนล่างทั้งสองแหลกละเอียด นอนร้องโอดโอย เลือดกระฉูดนองพื้น รอบกายของเขา ปรากฏเศษซากของวัตถุสังหารที่เรียกว่า "ระเบิดมือ" เกลื่อนกระจายปะปนกับเศษซากของกระจก และวัตถุที่ไม่อาจต้านทานแรงระเบิดได้

        เหยื่อระเบิดที่อาการสาหัสรายนี้ คาดว่าเป็นมือระเบิด คือ "ซาอิด โมราบิ" (Saeid Morabi) อายุ 28 ปี ซึ่งเพิ่งเดินแยกทางกับเพื่อนอีก 2 คน ซึ่งพวกเขาทั้ง 3 คน มาเช่าห้องบ้านพักอยู่ภายในซอยปรีดีพนมยงค์ 31 เมื่อเดือนก่อนนั้น จะมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายของ "อาทิส ฮุสเซน" อายุ 47 ปี สัญชาติสวีเดน แต่เป็นชาวชายเชื้อสายเลบานอน ซึ่งเคยสร้างความหวาดหวั่นพรั่นพรึงให้แก่คนไทยทั่วประเทศเมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมาหรือไม่ ?!!
        เบื้องต้นแนวทางการสืบสวนสอบสวนคาดว่า กลุ่มดังกล่าวน่าจะพัวพันกับเครือข่าย "อาทิส อุสเซน" แต่ต้องสืบสวนขยายผลให้ชัดเจนกว่านี้ ทั้งนี้ หลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุยังไม่ตรงกับหลักฐานที่พบในบ้านเช่าหลังหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่เก็บสารประกอบระเบิดจำนวนมาก แต่หลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุล่าสุดนี้ เป็น "ระเบิดซีโฟร์"
          การสืบสวนสอบสวนคดีนี้ สรุปในเบื้องต้นว่า เมื่อช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ชายชาวอิหร่าน ยังไม่ทราบชื่อนามสกุล อายุประมาณ 30 ปี และผู้หญิงชาวอิหร่าน มาขอเช่าบ้านหลังดังกล่าว เมื่อตรวจสอบจึงพบว่าตรงกับเอกสารที่พบในที่เกิดเหตุ เธอชื่อ "อีร์เลีย โรฮานี" หมายเลขพาสปอร์ต M 20305600 เธอเคยเข้ามาประเทศไทยหลายครั้ง และเดินทางออกนอกประเทศไทยไปแล้วเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ส่วนชายชาวอิหร่านที่ยังไม่ทราบชื่อนั้น เคยเข้าๆ ออกๆ บ้านหลังนี้พร้อมกับ "อีร์เลีย โรฮานี" เป็นประจำในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา และมีชายชาวอิหร่านรูปร่างอ้วน อายุประมาณ 50 ปี มาพักเพิ่มเติม หลังจากนั้นมีมาเพิ่มเติมอีก 3 คน รวมเป็น 6 คน

         สำหรับ "ซาอิด โมราบิ" เข้ามาพักอาศัยอยู่ที่นี่ พร้อมชาวอิหร่านอีก 2 คน  โดยที่ชายชาวอิหร่านไม่ทราบชื่อ 2 คน ที่มาพักอยู่ก่อนหน้านั้นได้หายตัวไป และระหว่างนี้ จู่ๆ ก็เกิดเหตุระเบิดขึ้น บนชั้น 2 ของบ้านหลังดังกล่าว จากนั้นไม่นานชายชาวอิหร่านทั้ง 3 คนนี้เดินทางออกจากบ้าน โดยกล้องวงจรปิดละแวกใกล้เคียง สามารถบันทึกภาพชายทั้ง 3 คนไว้ได้ รวมถึงบันทึกภาพการเดินแยกย้ายหลบหนี

        ผู้ชายชาวอิหร่าน 2 คน หลบหนีด้วยการเดินเลี้ยวซ้าย ส่วนชายชาวอิหร่านอีก 1 คน สะพายเป้เดินเลี้ยวขวา ซึ่งชายชาวอิหร่านคนนี้ได้พยายามเรียกแท็กซี่ แต่แท็กซี่ไม่จอดรับ จึงโยนระเบิดไป 1 ลูก จนทำให้คนขับแท็กซี่ได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นไม่นาน ตำรวจสายตรวจ สน.คลองตัน ได้เข้ามาตรวจสอบ พร้อมทั้งเรียกชายชาวอิหร่านต้องสงสัยให้หยุด แต่ชายคนนี้กลับโยนระเบิดใส่ตำรวจ แต่ระเบิดทำงานก่อนจนได้รับบาดเจ็บขาขาดทันที 1 ข้าง และรุ่งริ่งอีก 1 ข้าง นั่นคือ "ซาอิด โมราบิ" รับบาดเจ็บสาหัส
       จากการตรวจสอบประวัติการเข้าเมืองของ "ซาอิด โมราบิ" หมายเลขพาสปอร์ต WO 17959  ได้เพิ่งเดินทางเข้าไทยครั้งแรก เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 โดยเดินทางจากเมืองปูซาน ประเทศเกาหลี เที่ยวบินที่ TG 655 มาลงที่ จ.ภูเก็ต

       ทั้งนี้ ยังมีหลักฐานบางส่วน ที่ทำให้เชื่อว่าหนึ่งในสองชาวอิหร่านที่เดินเลี้ยวซ้าย คือ "มูฮัมหมัด คซาซาอิ" (Mohammad Kzazaei) ซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับคดีนี้ด้วย โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับได้ ชุดสืบสวนจึงส่งรายชื่อให้ตรวจคนเข้าเมือง ที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ตรวจสอบ และเมื่อเวลา 17.45 น. ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สามารถล็อกตัว "มูฮัมหมัด คซาซาอิ" ได้ขณะกำลังเดินทางออกนอกประเทศ โดยมีเป้าหมายเดินทางไปที่เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
        "มูฮัมหมัด คซาซาอิ" เคยเดินทางเข้ามาในประเทศไทย 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2554 และเดินทางออกนอกประเทศไทยเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2555 เดินทางเข้ามาประเทศไทยอีกครั้ง เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555


        จากพฤติกรรมของคนร้ายและหลักฐาน "ระเบิดซีโฟร์" ที่พบในที่เกิดเหตุ ทำให้ชุดสืบสวนตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะคล้ายคดีก่อการร้ายที่เคยเกิดขึ้น 18 ปีก่อน เมื่อเดือนมีนาคม 2537 คนร้ายชาวอิหร่าน ขับรถบรรทุกหกล้อ บรรทุกแท็งก์น้ำ ซึ่งภายในบรรจุระเบิดซีโฟร์ 2 ลูก และแอมโมเนียมไนเตรท พร้อมเชื้อปะทุอีกจำนวนมาก หวังบุกพุ่งชนสถานทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย หรือสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย โชคดีเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์รับจ้างเสียก่อน
      หรือว่าปฏิบัติการแก้แค้นกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง!?!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น