วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2557

อีกศพเซ่นยิ่งลักษณ์! ยิงถล่ม‘คปท.’บนทางด่วน/‘ประยุทธ์’ฮึ่มกฎอัยการศึก2 April, 2014

อีกศพเซ่นยิ่งลักษณ์! ยิงถล่ม‘คปท.’บนทางด่วน/‘ประยุทธ์’ฮึ่มกฎอัยการศึก2 April, 2014


ชั่วชาติ! ลอบยิงขบวนรถ "คปท." บนทางด่วน ระหว่างกลับจากศูนย์ราชการฯ การ์ดเสียชีวิต 1 ผู้ชุมนุมหญิง-ชายเจ็บ 4 ราย แกนนำจี้ "รัฐบาล-ตร." รับผิดชอบ เฟซบุ๊ก "ลุงยิ้ม เสื้อแดง" โพสต์ล่วงหน้า บอกฝีมือทีมงานโกตี๋ขนขนมจากชายแดนดักรอสุเทพ "กำนัน" ลั่นเดรัจฉานสมุนโจรห้าร้อยลงมือ "ประยุทธ์" รับกำลังศึกษาข้อกฎหมาย ประกาศกฎอัยการศึก "ปู" สั่งหน่วยมั่นคงดูแลม็อบเท่าเทียมทุกกลุ่ม "ปึ้ง" ฟุ้ง ครม.แดงมาเกินแสน "นปช." ยึดถนนอักษะชุมนุมใหญ่ 5 เม.ย. "จตุพร" โวเกิน 5 แสนคนแน่ "ภราดร" ยอมรับไปป์บอมบ์มีนบุรีโยงชุมนุมการเมือง
    ตั้งแต่ช่วงเช้าวันอังคาร นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) นำมวลชน กปปส.เคลื่อนด้วยรถบัสและรถยนต์ส่วนตัวออกจากเวทีสวนลุมพินี ไปศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อเรียกร้องให้ข้าราชการเลิกเป็นเครื่องมือรับใช้ระบอบทักษิณ 
    เช่นเดียวกับกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ  และนายอุทัย ยอดมณี แกนนำ คปท. นำมวลชน คปท.จากสะพานชมัยมรุเชฐ เดินทางไปที่ศูนย์ราชการฯ ร่วมรณรงค์ด้วย
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อมาถึงศูนย์ราชการฯ กลุ่มกปปส. โดยนายสกลธี ภัททิยกุล และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ แกนนำ กปปส. แยกนำมวลชนส่วนหนึ่ง เคลื่อนมาที่อาคารบี ฝั่งประตูทางเข้าทิศตะวันออก ชั้น 2 ศูนย์ราชการฯ เพื่อเจรจากับเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ขณะนั้น เนื่องจากอาคารดังกล่าวเป็นพื้นที่ควบคุม ขอให้ผู้ชุมนุม 20 คน เข้าไปแจกสารของมวลมหาประชาชนให้กับข้าราชการ ซึ่งทหารยินยอมให้ตัวแทน กปปส.เข้าไปแจกสารให้แก่ข้าราชการได้ด้วยความสงบเรียบร้อย
    ส่วนนายนิติธรก็นำกลุ่ม คปท.เข้าไปในอาคารเอ เพื่อติดพระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานเนื่องในโอกาสวันข้าราชการพลเรือน
    ขณะที่นายสุเทพพร้อมแกนนำได้เดินทางไปกราบนมัสการและถวายภัตตาหารเพลพระพุทธะอิสระที่เวที กปปส. แจ้งวัฒนะ ซึ่งพระพุทธะอิสระได้มอบผ้ายันต์ความมั่นคงสีม่วงเพื่อชัยชนะให้แกนนำ กปปส.ทุกคน พร้อมให้พรขอให้ปิดเกมภายในเมษายนนี้ เพราะอยากกลับวัดอ้อน้อยแล้ว
     นายสุเทพปราศรัยบนรถขยายเสียง เรียกร้องให้ข้าราชการร่วมกับมวลมหาประชาชนลุกขึ้นต่อสู้เพื่อไล่ระบอบทักษิณออกไปจากประเทศ เพื่อเร่งปฏิรูปเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งถือเป็นภัยร้ายต่อสังคม และส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งประเทศ
    "ขอเชิญชวนพี่น้องข้าราชการทั้งหลายให้ออกมายืนเคียงข้างมวลชน เพื่อที่จะได้รับชัยชนะเร็วขึ้น หากมีอธิบดี ปลัดกระทรวง หรือข้าราชการคนใดห้ามข้าราชการออกมาร่วมชุมนุม ผมขอให้เก็บหลักฐานไว้ วันไหนที่ชนะ เราจะคิดบัญชี ผมและแกนนำได้หารือกันแล้วเห็นว่าเราจะเอาอำนาจอธิปไตยกลับมาเป็นของประชาชนให้ได้ภายในสิ้นเดือนเม.ย.นี้" นายสุเทพกล่าว
ลอบกัด 'คปท.' ตาย 1 เจ็บ 4 
    กระทั่งเวลา 14.30 น. ระหว่างที่กลุ่ม กปปส.และคปท.แยกย้ายกันเดินทางกลับ โดยขบวนรถบัส คปท. ได้ขึ้นทางด่วนแจ้งวัฒนะ เพื่อเดินทางกลับสะพานชมัยมรุเชฐ เมื่อรถวิ่งมาประมาณ 1 กิโลเมตร ถึงบริวเณทางขึ้นทางด่วนงามวงศ์วาน หน้าปากทางเข้าวัดบัวขวัญ จ.นนทบุรี ปรากฏว่าได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่รถปราศรัยและขบวนรถบัส คปท. ทำให้มีผู้บาดเจ็บเบื้องต้นเป็นชาย 2 ราย หญิง 3 ราย โดยมี 2 รายถูกยิงบริเวณศีรษะและแขน นำส่งโรงพยาบาลรามาธิบดี 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลรามาธิบดี คือ ส.อ.วสันต์ คำวงศ์ อายุ 52 ปี อดีตทหารสังกัดกองการสัสดี หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน เสียชีวิต หลังถูกยิงที่บริเวณศีรษะ 
    นายนัสเซอร์ ยีหมะ หัวหน้าการ์ด คปท. กล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ประกอบด้วย ส.อ.วสันต์ ถูกยิงที่ศีรษะเสียชีวิต อีก 4 คนได้รับบาดเจ็บ คือ นางพิไลจิตต์ คุณากรกอบกิจ ถูกยิงที่แขน, นายเกียรติภูมิ สมชอบ, นางมาณี บุญจูง และนางสุนีย์ ศุภฤกษ์ 
    นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท. กล่าวว่า ส.อ.วสันต์เป็นชาว จ.ปทุมธานี การ์ดอาสา คปท. ถูกยิงบนรถปราศรัยเข้าที่ศีรษะเสียชีวิตที่ รพ.รามาฯ หลังจากที่แพทย์พยายามปั๊มหัวใจ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตได้
    นายพานสุวรรณ ณ แก้ว ทีมโฆษก คปท. ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีทีมการ์ดของ  กปปส.แจ้งวัฒนะได้ขึ้นมาเคลียร์พื้นที่บริเวณด่านแจ้งวัฒนะ โดยมีกระแสข่าวกลุ่มเสื้อแดงจะมาลอบก่อเหตุ ซึ่งเมื่อขบวนขึ้นผ่านพ้นแนวการ์ด ตนคิดว่าน่าจะปลอดภัย ทางทีมโฆษกซึ่งประกอบไปด้วยตนและนายอมรพร้อมทีมการ์ดจึงขึ้นไปอยู่บนรถปราศรัย เพื่อควบคุมขบวนในขณะเดินทาง แต่เมื่อขึ้นทางด่วนมาได้ไม่ถึง 2 นาที ได้ยินเสียงปืนจำนวนหลายนัด จึงพบว่ามีการ์ด คปท. บาดเจ็บ 2 คน 
    "คนแรกยืนอยู่บนระหว่างลำโพงเครื่องขยายเสียงด้านหน้ารถ ทำหน้าที่สังเกตการณ์ ได้ล้มลงเนื่องจากโดนยิงเข้าที่ศีรษะ ส่วนอีกคนยืนอยู่ด้านหลังของคนแรกเยื้องมาทางซ้าย ซึ่งถูกยิงที่บั้นท้าย จากนั้นคนที่เหลือต้องรีบหมอบลง เชื่อว่าวิถีกระสุนของการยิงน่าจะบริเวณอาคารสูงก่อนถึงวัดบัวขวัญ" ทีมโฆษก คปท.กล่าว
    เวลา 17.00 น. นายนิติธรพร้อมนายอุทัยและนายนัสเซอร์ขึ้นเวที คปท.สะพานชมัยมรุเชฐ ปราศรัยถึงเหตุการณ์คนร้ายซุ่มยิงผู้ชุมนุม คปท. โดยนายนิติธรกล่าวว่า ขอประณามผู้ที่ก่อเหตุครั้งนี้ และเรียกร้องให้ตำรวจภูธรภาค 1 หาตัวผู้ที่กระทำผิดโดยเร็ว รวมทั้งรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบในการกระทำดังกล่าวที่เกิดขึ้นด้วย ไม่อย่างนั้นเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง 
    "จากนี้ไป คปท.มีความจำเป็นต้องติดเครื่องป้องกันตัว เพื่อความปลอดภัยในชีวิตที่สูงกว่า ด้วยการตอบโต้ที่เท่ากัน เพื่อป้องกันชีวิตของผู้ชุมนุมที่ชุมนุมด้วยความสงบและสันติ ตามรัฐธรรมนูญที่ให้ประชาชนมีสิทธิ์ป้องกันชีวิตตัวเอง ถือเป็นการแสดงความชอบธรรมสูงสุด และในวันที่ 2 เม.ย.นี้ จะไปรับศพ ส.อ.วสันต์ ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี มารดน้ำที่วัดโสมนัสฯ ตั้งแต่เวลา 11.00 น." นายนิติธรกล่าว
    ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทวิตเตอร์ @satittrang1 ของนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส. เผยแพร่ภาพข้อความหน้าเว็บไซต์เฟซบุ๊ก ลุงยิ้ม ตาสว่าง โดยเขียนก่อนเกิดเหตุครั้งนี้ว่า "วันนี้อย่าเข้าใกล้ลุงกำนัน ได้ข่าวทีมงานโกตี๋ขนขนมจากชายแดนไปรอตอนขากลับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กลับทางด่วนสงสัยจะงานเข้า"
กำนันลั่นเดรัจฉานซุ่มยิง
    เวลา 20.20 น. นายสุเทพขึ้นเวที กปปส.สวนลุมพินี ปราศรัยตอนหนึ่งว่า เรายืนยันเดินหน้าพบปะข้าราชการทุกกระทรวง เพื่อชักชวนให้ออกมาร่วมต่อสู้เพื่อบ้านเมือง ถ้าวันไหนข้าราชการพร้อมใจเดินออกมาเคียงข้างประชาชน วันนั้นชัยชนะเป็นของพวกเราทันที ทั้งนี้ เมื่อเรายกระดับการต่อสู้ เราจะเริ่มขยายวงออกไปให้กว้างขวางยิ่งขึ้น วันที่ 2 เม.ย. จะเคลื่อนไปยังกระทรวงที่พี่น้องข้าราชการมีความตื่นตัวและเห็นถูกผิดชัดเจน เพื่อชักชวนร่วมมือกับเรา 
    "ขอนัดหมายกับมวลมหาประชาชนว่า เตรียมตัวให้พร้อม เวลา 09.30-10.00 น. เพื่อไปหาข้าราชการของเรา แต่จะไม่บอกเป้าหมาย เพราะพวกเราต่อสู้มันเป็นโจรห้าร้อย โหดร้าย มันทำได้ทุกอย่าง มันลอบกัด ลอบสังหารประชาชน วันนี้พวกเราไปศูนย์ราชการฯ  มันลอบทำร้ายประชาชน ผมได้รับทราบข่าวการถูกลอบทำร้ายของขบวน คปท. ขอแสดงความเสียใจและอาลัยของนายวสันต์ คำวงศ์ ที่ต้องเสียชีวิตจากน้ำมือของเดรัจฉานสมุนของนางโจรห้าร้อย เราจะช่วยดูแลลูกสาวของนายวสันต์ด้วย ไม่ทอดทิ้งดูแลตามกฎเกณฑ์ เราไม่สามารถไปร่วมไว้อาลัยที่เวที คปท.ได้ทัน แต่ขอเชิญชวนพี่น้องลุกขึ้นยืนสงบนิ่งไว้อาลัยให้นายวสันต์ที่เป็นหนึ่งในวีรชนของพวกเรา" นายสุเทพกล่าว 
    วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส.จะนัดหารือกับ ผบ.เหล่าทัพ เพื่อหาทางออกให้บ้านเมืองว่า เห็นแต่ข่าว แต่ยังไม่มีการแจ้งมาอย่างเป็นทางการ ซึ่งตามปกติคุยกันอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องประชุมกันบ่อย แต่หากเห็นว่ามีความจำเป็น จึงนัดประชุมกัน เพราะทุกเหล่าทัพมีแนวทางการปฏิบัติอยู่แล้ว  
    "ได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีอยู่ แต่ไม่ได้มีอะไร ไม่ได้มีการปรึกษา เพราะนายกรัฐมนตรีไม่ต้องปรึกษาใคร ท่านสามารถสั่งการผมได้ในเรื่องงานในหน้าที่" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    ถามว่าจะมีการหารือเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์การชุมนุมในวันที่ 5 เม.ย.หรือไม่ ผบ.ทบ.กล่าวว่า  คิดว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เป็นการชุมนุมของทุกพวกทุกฝ่ายตามปกติเหมือนตลอดหลายปีที่ผ่านมา หน้าที่ของทหารคงไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงื่อนไขความขัดแย้ง หรือการชุมนุมฝ่ายต่างๆ  เพราะหน้าที่ของเราคือการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินไม่ให้เกิดอันตราย บาดเจ็บ หรือสูญเสีย
    “เรามีการพูดคุยและหารือกันตลอดผ่านทุกกลไก ทั้งการประชุมประชาคมข่าวกรอง การประชุมของสำนักนโยบายและแผน การประชุมทุกหน่วยงานของกองทัพ จากแนวทางที่เราได้คุยกันแล้วจึงได้พยายามกำหนดบทบาทให้ชัดเจนขึ้น โดยเน้นหนักเรื่องการดูแลพื้นที่โดยรวม ทั้งพื้นที่จุดตรวจ พื้นที่เฝ้าระวัง พื้นที่ปฐมพยาบาล ที่ผ่านมายังไม่มีปัญหาอะไร" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว 
    ผบ.ทบ.กล่าวว่า สิ่งที่ได้เสนอศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) คือการที่เรามีกำลังพลไปอยู่จำนวนมากในหลายจุดเพื่อป้องกันเหตุในทุกสถานที่ เป็นการป้องกันอย่างครบวงจร ควบคุมดูแลถนน เส้นทางการเคลื่อนที่และกลุ่มเป้าหมาย เพราะประชาชนไม่ได้มีแค่ผู้ชุมนุม แต่มีประชาชนที่มีภูมิลำเนาและสัญจรไปมาอยู่บริเวณนั้น อย่าไปมองว่าเราไปวางกำลังให้กลุ่มไหน จะเห็นได้ว่าเราวางกำลังให้ทั้งสองพวก
    ถามว่า กรณีตำรวจพบระเบิดจำนวนมากในพื้นที่เขตมีนบุรี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตำรวจได้หารือกับหน่วยข่าวและประชุมร่วมกับ ศอ.รส. ทราบว่ามีความเกี่ยวโยงกับประเด็นใดบ้าง  ซึ่งตำรวจพยายามหาทางสืบหาต่อไป ส่วนกองทัพได้นำข้อมูลของเราไปเสนอ คิดว่าน่าจะเชื่อมโยงกับคดีแรกๆ ที่ตำรวจมีการจับกุมผู้ต้องหารวม 4 คนในพื้นที่เขตบางนาเมื่อช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมาด้วย
ผบ.ทบ.ศึกษากฎอัยการศึก
    ซักว่า มีแนวโน้มการประกาศกฎอัยการศึกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอไปศึกษากฎหมายดูว่าหากเกิดกรณีใดจึงจะประกาศได้ แต่ขออย่าให้เกิดเหตุ สำหรับที่เกรงว่าวันที่ 5 เม.ย.จะเกิดจลาจลนั้น ขออย่าให้เกิด ซึ่งเรื่องนี้จะมาสมมุติไม่ได้
    ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน จ.นครปฐม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงหลังประชุม ครม. ถึงการชุมนุมของนปช.และ กปปส.ในวันที่ 5 เม.ย.ว่า ห่วงสถานการณ์ต่างๆ จึงได้ฝากนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.การต่างประเทศ ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ดูแลความปลอดภัยของประชาชนและผู้ชุมนุมทุกกลุ่มทุกฝ่าย และในฐานะเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานความมั่นคง ต้องดูแลทุกกลุ่มทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน และพยายามอย่าให้เกิดการปะทะกันจนนำไปสู่ความรุนแรง เชื่อว่าทุกคนจะช่วยกัน ก็ต้องขอร้องทุกฝ่ายลดการเผชิญหน้ากันดูแลอย่างเท่าเทียมกัน
    ซักว่า ได้พูดคุยกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ในฐานะเลขาธิการ นปช.บ้างหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ขอร้องทุกฝ่ายทางสาธารณะอยู่แล้ว อะไรที่ทำได้ก็ขอร้องอยู่แล้ว 
    "การดูแลความปลอดภัยไม่ให้มีการกระทบกระทั่งกัน ต้องระวังอยู่แล้ว ความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน การสัญจร ก็หวังว่าทุกฝ่ายจะไม่นำมวลชนมาปะทะกัน" น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
    ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ในที่ประชุม ครม. นายสุรพงษ์แจ้ง ครม.ว่าได้หารือกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศอ.รส. เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ที่จะชุมนุมในวันที่ 5 เม.ย.นี้ โดยคาดว่าจะมี นปช.เข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ไม่ต่ำกว่าแสนคน เนื่องจากคนเสื้อแดงน้อยใจความไม่เป็นธรรมจากสังคม และถูกท้าทายจาก กปปส.และพรรคประชาธิปัตย์ ว่าการชุมนุมของมวลชนเสื้อแดงที่ผ่านมามีคนเข้าร่วมน้อย 
    "ศอ.รส.เตรียมจับตาการชุมนุมของ นปช.เป็นพิเศษ และกำชับเจ้าหน้าที่ ทั้งตำรวจ ทหาร ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยแบบเดียวกับที่ดูแล กลุ่ม กปปส. เพื่อไม่ให้สังคมเข้าใจผิดว่า ศอ.รส.เข้าข้างผู้ชุมนุมฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด" รองโฆษกรัฐบาลกล่าว
    นายสุรพงษ์กล่าวว่า ศอ.รส.จะใช้เพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ไม่มีการเสริมกำลังทหาร และเชื่อมั่นว่าการใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งทราบว่า ร.ต.อ.เฉลิมได้พูดคุยกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ในฐานะเลขาธิการกลุ่ม นปช.แล้ว ว่าขอให้การชุมนุมของกลุ่ม นปช.เป็นไปโดยสงบ ส่วนการที่เขาออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย เป็นสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนอยู่แล้ว  
แดงยึดถ.อักษะชุมนุมใหญ่
    ด้านกลุ่ม นปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. แถลงความพร้อมการชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดงวันที่ 5 เม.ย.ว่า พวกเรานัดหมายชุมนุมกันในวันเสาร์ 5 เม.ย. ที่ถนนอักษะ ย่านพุทธมณฑล หากพื้นที่ดังกล่าวไม่ติดการจัดงาน แต่ถ้าติดการจัดงานจะใช้สถานที่สำรองอีกที โดยหวังว่าจะมีผู้มาชุมนุม 5 แสนคน 
    นายจตุพรกล่าวว่า วันที่ 5 เม.ย. จะเป็นวันฉีกหน้านายสุเทพ จะทำให้รู้ว่าประชาชนที่มาชุมนุมมากกว่าเป็นอย่างไร ถ้าสุเทพไม่ยุ่งกับเรา เราก็ไม่ยุ่ง ต่างคนต่างอยู่ เราเลือกจุดที่อยู่ห่างไกลจาก กปปส. ไม่อยากให้เกิดการปะทะอย่างที่บางพวกอยากให้เกิดแล้วจะได้เข้าฮอส เราหนีไม่พ้นต้องเข้ากรุงเทพฯ ถ้าไม่เข้ามากองเชียร์คงหมดกำลังใจ การเคลื่อนไหวของนายสุเทพหมดมุก ไม่รู้จะทำอย่างไร เดินขบวนเดินแล้วก็เดินอีก ไม่มีอะไรใหม่ วันนี้คนขายของมากกว่าผู้มาชุมนุม
    ประธาน นปช.กล่าวว่า หากเกิดการเปลี่ยนนายกฯ โดยที่ไม่ได้มาจากประชาชน จะเป็นวันที่แรงที่สุด ถ้าอำมาตย์อยากเห็นให้รีบดำเนินการ จะทำโดยรัฐประหารหรือกลไกอื่น อำมาตย์ต้องการเห็นนรกวันไหนให้รีบทำ คนไทยจะจัดให้ เราต้องเตรียมพร้อมอย่างถึงที่สุด เรื่องขี้ขลาดตาขาวไม่มี เราสู้กับคนเจ้าเล่ห์ หน้าตาพูดธรรมะทุกคำ แต่อำมหิตเหลือเกิน ถ้าเราสู้แบบพาซื่อ เขาก็จะจัดการเหมือนเดิม เราต้องต่อสู้อย่างเท่าทัน
    "วันที่ 2 เม.ย. ผบ.สส.และ ผบ.เหล่าทัพจะนัดพูดคุยหาทางออกวิกฤติประเทศ ขอเรียนไปยัง ผบ.ส.ส. ที่ดูแล้วสมาธิยังดีกว่า ผบ.ทบ. ซึ่ง ผบ.สส. ก็รู้ใครอยู่เบื้องหลังสุเทพ นายสุเทพวันนี้หาจุดจบไม่ได้ คิดว่าจะจัดการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้แล้วจะมีนายกฯ คนกลาง ขอเรียนให้ ผบ.สส.ทราบ ทางออกมีทางเดียวคือหนทางประชาธิปไตย ให้ประชาชนได้ตัดสิน ไม่ใช่ให้อำมาตย์ตัดสิน" ประธาน นปช.กล่าว
    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ออกมาตำหนินายสุรพงษ์ และ ร.ต.อ.เฉลิมที่เชิญชวนให้ประชาชนออกมาชุมนุมกับคนเสื้อแดงวันที่ 5 เม.ย.ว่า เป็นเรื่องที่ใช้ไม่ได้ และเป็นตัวบ่งชี้ได้ชัดเจนว่า ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคง รัฐบาลไม่ได้มุ่งรักษาความสงบเรียบร้อย แต่มุ่งจะบดขยี้คนที่เห็นแตกต่างจากตัวเอง
    นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายของพรรคกำลังตรวจสอบการกระทำของนายสุรพงษ์และ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นการกระทำที่ขัดกฎหมายความมั่นคงหรือไม่ เพราะเห็นว่าทั้งสองคนต้องรับผิดชอบทางการเมืองนอกเหนือจากทางกฎหมายด้วย
    สำหรับความคืบหน้าคดีระเบิดไปป์บอมบ์ย่านมีนบุรี พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน ผบก.น.3 กล่าวว่า ผบ.ตร.มอบหมายให้ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้ช่วย ผบ.ตร. มาดูแลการสืบสวน ซึ่งเบื้องต้นพบว่าคนร้ายมีลักษณะทำเป็นขบวนการ โดยชุดสืบสวนจะหาข่าวเชิงลึกว่าเป้าประสงค์คนร้ายคืออะไร และมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มใด 
    พ.ต.อ.กัญชล อินทราราม ผกก.สน.มีนบุรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตรวจพบใบเสร็จร้านสะดวกซื้อ 7-11 ก่อนที่จะเกิดเหตุเพียง 2-3 ชม.นั้น ขณะนี้สืบทราบร้านสะดวกซื้อเเล้วว่าเป็นร้านในละเเวกนั้น ซึ่งทางฝ่ายสืบสวนจะลงพื้นที่ประสานไปยังร้าน 7-11 ดังกล่าว เพื่อขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดเปรียบเทียบรูปพรรณผู้ร่วมขบวนการนี้ รวมทั้งตรวจสอบเพิ่มเติมพบในช่วงเวลาเกิดเหตุมีรถตู้มารับบุคคลที่เหลือภายในบ้านหลบหนีไปจริง ซึ่งทราบว่าเป็นรถตู้สีขาว ไม่มีกระจก ลักษณะเหมือนรถตู้ขนเงินของธนาคาร เเต่ยังไม่สามารถระบุเลขทะเบียนได้
    พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ยอมรับว่า เหตุระเบิดนี้เชื่อมโยงกับประเด็นทางการเมืองและการชุมนุม ซึ่ง ผบ.ตร.กำลังพยายามเร่งรัดอย่างเต็มที่.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น