บั้งไฟพญานาคกลางลำน้ำโขงชุดแรกอุบัติแล้ว 3 ลูก ที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ขณะเจ้าหน้าที่ 1,000 นาย เข้มปลอดภัย ขณะที่ ประชาชนหลายจังหวัด แห่ชมปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง
ผู้สื่อข่าวจาก จ.หนองคาย รายงานว่า เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ได้เกิดปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคกลางลำน้ำโขง ขึ้นชุดแรกแล้ว จำนวน 3 ลูก
ที่บ้านหนองแก้ว ต.กุดบง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ท่ามกลางประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างประเทศจำนวนหลายพันคนที่ต่างร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้น ซึ่งคาดว่าจะเกิดปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคตามมาอีกหลายลูก อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ได้บูรณาการแผนงานและกำลังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ สาธารณสุข ขนส่ง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประชาสัมพันธ์ อปพร. และ หน่วยกู้ภัยต่างๆ จำนวนกว่า 1,000 คน ดูแลเรื่องความปลอดภัยและด้านการจราจรอย่างเต็มที่
ชาวโคราชเห็นจันทรุปราคาแล้ว 18.35 น.
นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ต่างเข้าคิวรอส่องกล้องโทรทรรศน์ ชมปรากฏการณ์ “จันทรุปราคาเต็มดวง” หรือ พระจันทร์สีเลือด อย่างใจจดใจจ่อ แต่เวลาผ่านไปถึง 18.15 น. ก็ต้องรู้สึกผิดหวังเพราะมีเมฆมาบดบังจนไม่สามารถมองเห็นได้ จนกระทั่งเวลา 18.35 น. เมื่อเงาโลกเริ่มเคลื่อนตัวออกจึงเห็นเพียงพระจันทร์เสี้ยวสีส้มเท่านั้น ที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา
ปราจีนบุรีฝนกระหน่ำฟ้าปิดอดชมพระจันทร์สีเลือด
นายวรวิทย์ ตันวุฒิ บัณฑิตย์ปราชญ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านดาราศาสตร์ไทย ร่วมกับคณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้นำนักเรียนสตรีโรงเรียนดัดดรุณี อ.เมืองฉะเชิงเทรา รวม 320 คน เข้าค่ายดาราศาสตร์ตั้งกล้องดูดาว (กล้องโทรทรรศน์) รวม 5 ตัว เพื่อชมปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง ที่แต่ไม่สามารถชมได้เช่นกันเนื่องจากช่วงเย็นมีฝนตกสภาพท้องฟ้าปิดแต่ยังมีการให้ความรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์ด้านอื่น ๆ แทน อาทิ การรู้จักระบบสุริยะจักรวาล การเตรียมฝนดาวตกเปอร์เซอิด,ฝนดาวตกเจมินิดส์ และรวมถึงสุริยคราส ที่จะมาเยือนในเร็ว ๆ นี้ต่อไป ทั้งนี้ มีสามเณร แกนนำด้านดาราศาสตร์จากโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดโสธรวรารามวรวิหาร มาร่วมสังเกตการณ์ชมด้วย
สุรินทร์ต่างพากันออกมาดูจันทรุปราคาเต็มดวง
วันนี้เป็นวันที่เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติ จันทรุปราคาเต็มดวง หรือที่ชาวบ้านเรียก ราหูอมจันทร์ โดยบรรยากาศที่จังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่ช่วงเย็นที่ปรากฏการณ์ดังกล่าวได้เริ่มขึ้น พบมีผู้คนต่างออกมาเฝ้าดูปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนมากจะออกมาเฝ้าดูที่หน้าบ้านของตนเอง จนกระทั่งกว่า 2 ชั่วโมง หรือประมาณ 20.00 น. พระจันทร์จึงเริ่มปรากฏให้เห็นจนเต็มดวง
ในขณะเดียวกันตามความเชื่อของชาวบ้านถึงปรากฏการณ์ธรรมชาติดังกล่าว หรือที่เรียกว่า ราหูอมจันทร์ และกบกินเดือน ต่างพากันนำของดำรวม 12 อย่าง มาตั้งหน้าบ้าน และจุดธูปเทียนบูชาพระราหูตามความเชื่อ เพื่อความเป็นสิริมงคล ในวันดังกล่าว ประกอบกับเป็นราหูอมจันทร์ ทั้งดวงครั้งแรกในรอบปี ชาวบ้านจึงพากันออกมาตั้งเครื่องเซ่นไหว้ดังกล่าว
ขณะเดียวกันตามวัดต่างๆ ในจังหวัดสุรินทร์ พุทธศาสนิกชนต่างพากันเข้าวัดฟังธรรม เนื่องในวันออกพรรษาประกอบกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ หรือ ราหูอมจันทร์ เกิดขึ้นตรงกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา จึงมีผู้คนเขาวัดฟังธรรมมากขึ้นตามไปด้วย
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น