ขอปฏิบัติ 10 อย่างของผู้ปกครองนักกีฬาว่ายน้ำ
ความเป็นคุณพ่อคุณแม่ของนักกีฬาว่ายน้ำ จะมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นเป็นอันมากกว่าคุณพ่อคุณแม่ทั่ว ๆ ไป โดยเฉพาะเรื่องความสามารถ และความสำเร็จของเด็ก ๆ ความตั้งใจที่จะผลักดัน เด็ก ๆ ให้ไปสู่เป้าหมายที่ ได้เลือกหรือตั้งใจไว้ โดยละเลยความเป็นจริงตามธรรมชาติ อาจทำให้เด็ก ๆ ตกเป็น'' เหยื่อ'' ของความท้าทาย ที่สูงเกินไปกว่าธรรมชาติของเด็กธรรมดาคนหนึ่งที่อายุเพียง 7-11 ปี เท่านั่นเอง ผมอยากให้คุณพ่อคุณแม่ของนักว่ายน้ำที่มีบุตรอายุดังกล่าว คำนึงถึงอยู่เสมอ ๆ ว่า ลูกของเรานั้นก็เป็นเด็ก ๆ ธรรมดา ๆ หรืออาจจะเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ได้เท่า ๆ กัน ซึ่งคุณ Rose Snyder ได้เขียนถึงเรื่องนี้ไว้ว่า 1. การเปรียบเทียบเป็นสิ่งที่ดี แต่จะใช้ในการเปรียบเทียบอดีตกับปัจจุบันเท่านั้น และการว่ายน้ำ เป็นกิจกรรมเสริมในชีวิตประจำวันอย่างหนึ่ง การพัฒนาความสามารถของแต่ละคนมี อัตราการก้าวหน้าที่แตกต่างกัน แม้จะอยู่ในรุ่นอายุเดียวกันก็ตาม และกรุณาอย่าประเมินความสามารถ ของลูกของคุณกับลูกของคนอื่น เพราะไม่ ว่าจะดีกว่าหรือแย่กว่าก็จะไม่มีผลดีเลยในอนาคต 2. การสนับสนุนในสิ่งที่ควร มีคำถามเดียวที่น่าจะถามเกี่ยวกับการว่ายน้ำ ก็คือ '' เป็นอย่างไรบ้าง สนุกดีไหม '' และถ้าการแข่งขันและการฝึกซ้อมไม่สนุกแล้ว ท่านก็ไม่ควรฝืนลูกให้เข้ากิจกรรมว่ายน้ำนั้นอีก สำหรับเรื่องนี้อาจมีหลายท่านถามมากกว่านั้นหรือไม่ได้ถามข้อนั้น สำหรับเด็กเยาวชนแล้ว การถามอย่างอื่น เช่น ชัยชนะ คู่แข่ง ความเร็วและอื่น ๆ น่าจะเป็นการเติมสาระก่อนเวลาอันควรเป็นแน่ คิดดูสิครับหากลูกหลาน สนุกกับการว่ายน้ำและการแข่งขัน เราไม่จำเป็นต้องให้พวกเขาว่ายน้ำให้เร็วกว่าใครด้วยซ้ำ พวกเขาจะว่ายน้ำได้เร็ว กว่าที่เราคิดโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย 3. อย่าสอนด้วยตัวคุณ คุณอาจจะพาเด็ก ๆ ไปไว้กับผู้ฝึกสอนอาชีพได้ แต่อย่าพยายามสอน ( COACH ) ลูกของคุณเองอีก งานของคุณคือการสนับสนุนแบบต่าง ๆ เช่น การให้ความรัก การให้กำลังใจ ไม่ว่ายามแพ้หรือชนะ หรืออย่างไรก็ตาม ผู้ฝึกสอนจะเป็นผู้ถ่ายทอดเทคนิคท่าว่ายในรายละเอียดต่าง ๆ เพราะนั่นจะทำให้นักว่ายน้ำสับสน 4. พูดแต่สิ่งดี ๆ ในวันแข่ง ถ้าคุณต้องการที่จะแสดงออกในวันแข่งขันว่ายน้ำ คุณควรจะเตรียมตัวเชียร์หรือ ให้กำลังใจด้วยวิธีต่าง ๆ ไม่ใช่พูดกดดันนักว่ายน้ำ 5. ความกลัวของเด็ก ๆ การแข่งขัน ฟรี 400 เมตร หรือ เดี่ยวผสม 400 เมตร เป็นการสร้างความกังวลให้ เด็ก ๆ หากจะต้องเข้าแข่งขันในบางรายการ เมื่อถึงเวลาของช่วงอายุ กรุณาอย่ากลัว ผู้ฝึกสอนจะเป็นผู้พิจารณา และแนะนำ เมื่อถึงเวลานั้น ความกลัวในทำนองนี้กับเด็ก ๆ ก็จะเกิดขึ้นได้เช่นกัน เราควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ ผู้ฝึกสอนว่าจะต้องลงแข่งในรายการหรือท่าว่ายใด ถึงแม้เราจะเห็นว่าลูกของเราน่าจะลงว่ายน้ำในรายการอื่นก็ตาม เพราะนั่นเป็นเรื่องของนักว่ายน้ำกับผู้ฝึกสอนของเขา 6. อย่าวิจารณ์กรรมการ (ตอนนี้ฝรั่งเขียนไว้แรงกว่าที่ผมเรียบเรียงต่อไปนี้ โดยจะให้ความหมายเหมือนกัน) การแข่งขันจะมีผู้ทำหน้าทีตัดสิน ผู้ว่ายน้ำ และผู้เชียร์ แต่ละคนมีหน้าที่แตกต่างกันออกไปตามตำแหน่ง ของตน อย่าก้าวกายหน้าที่และจงทำหน้าทีของตนให้ดีที่สุด 7. การให้เกียรติผู้ฝึกสอน ความผู้พันระหว่างผู้ฝึกสอนว่ายน้ำกับนักกีฬาว่ายน้ำเป็นสิ่งพิเศษบางอย่าง และ สิ่งที่ ช่วยให้เกิดความสำเร็จแก่นักว่ายน้ำคือ ความสนุกสนาน อย่าวิจารณ์ผู้ฝึกสอนต่อหน้าเด็กหรือให้เด็กรับรู้ เพราะ การทำสิ่งนั้นจะไม่มีผลดีเลย ถึงตอนนี้หากนึกถึงสิ่งเก่า ๆ ลองนึกดูซิครับตอนเรียนหนังสือในวัยเด็กในโรงเรียน หากวิชาใดเราหรือเพื่อนไม่ชอบคุณครู ผมรับรองได้ว่าวิชานั่นน่าที่จะมีผลการเรียนได้ไม่เท่ากับวิชาที่ชอบหรอกครับ 8. อย่ากระโดดออกจากทีม ไม่มีความสมบูรณ์ของทีมว่ายน้ำทีมใด ๆ ก็ตามที่จะรองรับความต้องการของ ทุกคนได้ ทีมว่ายน้ำทุก ๆ ทีมจะมีปัญหาภายในของเขาเองด้วยการทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นทีมใหญ่หรือทีมเล็กก็ตาม ทีมทุกทีมต้องการผลิตผู้ชนะ เด็กที่ออกจากทีมจะถูกเนรเทศให้ห่างไกลจากเพื่อนรักที่เคยร่วมทีมของเขาและบาง ครั้ง เด็กเหล่านั้นไม่เคยทำสิ่งที่ดีกว่าอีกเลย สำหรับข้อนี้น่าจะพิจารณากันมากหน่อย เพราะอาจมีเหตุผลอื่น ๆ อีกมาก แต่ผมก็ยังเห็นด้วยกับความคิด ข้างต้นอยู่ดี 9. เป้าหมายที่นอกจากชัยชนะ ความพยายามหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่าสำคัญกว่าชัยชนะ มีจริง ! ดังที่นักกีฬา โอลิมปิคท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า '' เป้าหมายของฉันได้ตั้งไว้ที่ การบันทึกสถิติโลก และฉันก็ได้ทำแล้วและมีคนอื่น ๆ ทำได้ดีกว่า เพียงแค่แต่เขาทำได้เร็วกว่าที่ฉันทำเพียงนิดเดียว ฉันได้ทำสำเร็จแล้ว และเสียไปแล้ว แต่สิ่งนั่นไม่ได้ ทำให้ฉันล้มเหลวเลย จริง ๆ แล้วฉันภูมิใจในการว่ายน้ำในครั้งนั้นด้วยซ้ำ'' ( กรุณาอ่านช้า ๆ สองครั้ง ) 10. อย่าคาดหวังให้เด็ก ๆ เป็นทีมชาติ มีเหรียญทองเพียงเหรียญเดียวในแต่ละรายการ และมีเวลาอีก ยาวไกลที่เด็ก ๆ เยาวชนของท่านจะต้องเดินทางในการที่จะเป็นนักว่ายน้ำ อย่ากดดันเขาโดยต้องให้เขาเป็นทีมชาติ ยกเว้น เขาจะตั้งใจและตั้งเป้าหมาย ด้วยตัวของเขาเอง ลองถามผู้ฝึกสอนของคุณดูซิว่า '' ทำไมเขาจึงเป็นโค้ช '' ทั้ง ๆ ที่บางทีหรือบางคนไม่เคยเป็นนักกีฬา'' ทีมชาติ '' เลย ก็อาจเป็นเพราะความผูกผันกับการว่ายน้ำและต้องการ จะถ่ายทอดความรักนั้นสู่ผู้อื่น และเชื่อมั่นว่าการกีฬานั้นดีและทำให้เด็กได้รับสิ่งที่ดีและจำเป็นสำหรับเขา และทั้ง หมดเป็นพื้นฐานที่นักกีฬาเก่ง ๆ อย่างทีมชาติ หรือโอลิมปิคไม่เคยมีใครขาดพื้นฐานนั้นเลย ขออภัยท่านผู้ปกครองที่ได้อ่านแล้วรู้สึกว่าตนได้ทำสิ่งต่าง ๆ ที่ขัดแย้งกันทั้ง 10 ข้อ แต่สุดท้ายท่านจะพบว่า แต่ละข้อจะมีความหมายที่ชัดเจนมากและมากขึ้น กว่าวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่ท่านได้อ่านวันแรก โชคดีครับ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น