วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ชีพจรสาธารณะ เมื่อ 7 พ.ค.57

ชีพจรสาธารณะ


มีสัญญาณที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี และพี่ชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  ต้องพินิจให้ถี่ถ้วน ในช่วงโค้งสุดท้ายของรัฐบาลเพื่อไทย และชะตากรรมของน้องสาวตัวเอง โดยเฉพาะการเปิดหูเปิดตาให้กว้างจับกระแสชีพจรสาธารณะ เพื่อใช้ในการพินิจตรึกตรองสัญญาณอันตราย ที่มีต่อรัฐบาลและตระกูลชินวัตรในการดำรงอยู่ในประเทศไทย 
    ชีพจรสาธารณะ ที่ทักษิณและมวลพรรคนักการเมืองพรรคเพื่อไทย กลุ่มแกนนำ นปช.ได้เห็นเป็นที่ประจักษ์แจ้งที่สำคัญคือ การรวมตัวกันของประชาชนจากทั่วสารทิศเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่มวลชน กปปส.มารวมตัวกันบริเวณสวนลุมพินีเพื่อรอเวลาเดินเท้าไปที่วัดพระแก้วและสนามหลวง
     เพื่อทำพิธีวางพานพุ่มและกล่าวถวายพระพรชัยมงคล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล และทำพิธีสัตยาธิษฐานก่อนการนัดต่อสู้ครั้งสุดท้าย โดยเป็นการรวมตัวกันจากทุกภาคส่วนของคนในสังคม ทั้งสถาบันการศึกษา กลุ่มบุคคลหลากหลายวิชาชีพ 
    นอกเหนือจากเป็นการรวมตัวกันเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว นัยสำคัญประการหนึ่งของประชาชนที่มารวมพลังกันครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณจะต้องตระหนักว่า นี่คือสัญลักษณ์ของการปฏิเสธรัฐบาลยิ่งลักษณ์
    นัยทางสาธารณะของกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อสังคมต่างๆ  ภายใต้ภาวะสุญญากาศทางการเมืองของรัฐบาล หาใช่เรื่องที่ควรเพิกเฉยในสถานการณ์อำนาจถดถอยขณะนี้ โดยเฉพาะดุลอำนาจที่ยังเหลืออยู่ของทักษิณ เครือข่ายพรรคพวก นับตั้งแต่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาในช่วงปี 2554 
    อันเป็นเวลาเกือบ 3 ปี ภายใต้การบริหารของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยการกำกับของทักษิณ ชินวัตร ปรากฏการณ์ทางการเมืองที่สร้างความวิบัติฉิบหายให้กับประเทศชาติ นั่นคือ การบริหารการเมืองแบบธุรกิจในครอบครัว ใช้ช่องทางอำนาจแสวงหาผลประโยชน์กอบโกยผลประโยชน์อย่างหน้ามืดตามัว 
    เกิดคอร์รัปชันอย่างใหญ่โตในเมืองไทย โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าวเปลือก กลายเป็นประวัติศาสตร์การฉ้อโกงที่ทำลายชาวนากระดูกสันหลังของชาติอย่างไม่น่าอภัย  และมันคือฟางเส้นสุดท้ายของการบริหารแบบโกงกิน ที่กระตุ้นอารมณ์ของคนทุกภาคส่วนในสาธารณะ นอกเหนือไปจากการเหิมเกริม อุกอาจผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
    ฉะนั้น ทางเลือกสุดท้ายของทักษิณหากยังพอมีความฉลาดอยู่บ้าง ภายหลังการจับชีพจรสังคมใหญ่โดยภาพรวม   ควรเลิกคิดและหวังว่าจะสามารถต่อรองผลประโยชน์ใดๆ  โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ฝ่ายตนเป็นที่ตั้ง หวังคิดใช้มวลชนอย่างกลุ่ม นปช. แกนนำ นปช.มาปลุกปั่น ต่อรอง เป็นเครื่องมือ เพื่อดำรงสถานะทางอำนาจ วาดภาพความขัดแย้งสู่สงครามการนองเลือดหากมีการตัดสินคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ 
    หยุดม้าหน้าผา ยุติช่องทางรักษาอำนาจด้วยแลกกับจำนวนศพมวลชนของตน ไม่ฝืนกระแสสาธารณะ  ปล่อยองค์กรอิสระให้ทำหน้าที่ตามกฎหมาย โดยตัวของน้องสาวจะหนีคุกดำเนินรอยตามพี่ชายก็หาใช่เรื่องแปลก ที่เหนือความคาดหมายของคนในสังคม เหล่านี้คือสิ่งที่ทักษิณควรคิด และยิ่งลักษณ์ควรทำในช่วงเวลาขณะนี้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไปสำหรับชินวัตรที่จะยืนบนแผ่นดินไทย.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น