วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

"เติ้ง-ชูวิทย์"เข้ารายงานตัว คสช.เมื่อ 27 พ.ค.57



"เติ้ง-ชูวิทย์"เข้ารายงานตัว คสช.
 
"บรรหาร-ชูวิทย์" เข้ารายงานตัว คสช.แล้ว "ชูวิทย์" บอกไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามา เชื่อไม่มีเหตุผลถูกควบคุมตัว พร้อมร่วมมือกองทัพแก้ปัญหาประเทศ
เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่บริเวณหน้าหอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ตามคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 23/2557 ตั้งแต่เวลา 10.00 -12.00 น. โดยมีบุคคลถูกเรียกเข้ารายงานตัวทั้งหมดจำนวน 16 คน อาทิ นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตเลขานุการ รมว.มหาดไทยในรัฐบาล น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายวิทยา แก้วภราดัย และน.ส.รังสิมา รอดรัศมี อดีต ส.ส.ปชป. และแกนนำ กปปส. รวมทั้งเรียกบุคคลที่ยังไม่มารายงานตัวตามวันเวลาที่กำหนด ให้มารายงานตัวภายในวันนี้ โดยมีนางฐิติมา ฉายแสง อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ไม่ได้มารายงานตัวในรอบแรก เดินทางเข้ามารายงานตัวเป็นคนแรกเมื่อเวลา 09.50 น.ที่ผ่านมา


กระทั่งเวลา 10.00 น. นายชูวิทย์ เดินเท้ามาจากกอองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) โดยไม่มีผู้ติดตาม 
พร้อมให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ารายงานตัวว่า วันนี้มารายงานตัวตามคำสั่ง คสช. แต่ไม่ได้เตรียมเสื้อผ้าและสัมภาระมาด้วย เพราะไม่มีเหตุผลที่ถูกควบคุมตัว เพราะไม่ใช่แกนนำ และไม่เคยขึ้นเวทีปลุกระดม ซึ่งเชื่อว่าที่คสช. เรียกมาวันนี้ เพื่อขอความเห็นในการช่วยกันแก้ไขปัญหาประเทศ ตนมีความยินดีที่จะให้ความร่วมมือและให้ข้อมูลในด้านที่มีความรู้ เช่น เรื่องอบายมุขกับ คสช. ทั้งนี้อยากขอร้องให้ทุกฝ่ายหยุดสร้างความขัดแย้ง แล้วหันมาช่วยหาทางออกร่วมกัน ซึ่งเชื่อมั่นว่า คสช. จะหาทางออกให้แก่ประเทศได้ ทั้งนี้วันนี้ก็จะมาพบคนที่ตนเคารพ คือ นายบรรหาร ซึ่งมีรายชื่อถูกเรียกมารายงานตัวในวันนี้ด้วย


จากนั้นเวลา 10.10 น. นายบรรหาร ก็ได้เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว เข้าไปด้านในหอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ 
โดยไม่มีการลดกระจกให้สื่อมวลชนได้เก็บภาพแต่อย่างใด นอกจากนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าการเข้ารายงานตัวของนายบรรหารในครั้งนี้ มีรถของนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ขับตามเข้าไปภายในหอประชุมกองทัพบกด้วยซึ่งนายสมศักดิ์ไม่ได้ถูกเรียกให้มารายงานตัวแต่อย่างใด.


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น