วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2557

นายกฯ คนกลางมาจากเลือกตั้ง!3 April, 2014

นายกฯ คนกลางมาจากเลือกตั้ง!3 April, 2014


ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องคดีที่ ส.ว.ไพบูลย์ นิติตะวัน ยื่นให้วินิจฉัยสถานภาพนายกฯ "ยิ่งลักษณ์" จากกรณีการโยกย้ายตำแหน่ง "ถวิล เปลี่ยนศรี" พ้นจากตำแหน่งเลขาฯ สมช.  เอาไว้พิจารณา
    เมื่อนำไปเทียบกับคดีชิมไปบ่นไปของ "สมัคร สุนทรเวช" ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9-0 เสียงให้ขาดคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรี บอกได้คำเดียว กางมุ้งรอเตรียมรับมือเสื้อแดงป่วนเมืองได้เลย
    มีประเด็นที่ต้องพิจารณาครับ ทางพรรคเพื่อไทยบอกว่าให้รองนายกรัฐมนตรีที่มีอยู่ 7 คนรักษาการแทนได้ จริงตามนั้นครับไม่มีอะไรเถียง!
    แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะคงสภาพรัฐบาลเอาไว้ โดยรองนายกรัฐมนตรีรักษาการแทนนายกรัฐมนตรีนอมินีไปเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น 
    หลัง "สมัคร สุนทรเวช" พ้นตำแหน่งในวันที่ 9 กันยายน พ.ศ.2551 "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" ซึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น รักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปจนถึงวันที่ 18  กันยายน ซึ่งเป็นวันที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติ เลือกตัวเขาเป็นนายกรัฐมนตรีเต็มตัว
    และเมื่อ "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" พ้นจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เพราะศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคพลังประชาชน และเพิกถอนสิทธิ์ 5 ปี ในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2551 "ชวรัตน์ ชาญวีรกูล" รองนายกรัฐมนตรี ก็เข้ามารักษาการแทนจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม ปีเดียวกัน ซึ่งเป็นวันที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติเลือก "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เป็นนายกรัฐมนตรี
    นั้นคือธรรมเนียมปฏิบัติ
    หาก "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" พ้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ "สุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล" จะรักษาการนายกรัฐมนตรีแทน จนกว่าจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ 
    แล้วเมื่อไหร่ครับ?  
    เพราะขณะนี้ไม่มีสภาผู้แทนราษฎร หรือต้องรอให้การเลือกตั้ง ส.ส.เสร็จสิ้นเสียก่อน ซึ่งขณะนี้ไม่มีใครรู้ได้ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นช่วงไหน เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้การเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเป็นโมฆะนั้น ทำให้ทุกฝ่ายยกเว้นพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง ต้องการให้มีหลักประกันก่อนว่าการเลือกตั้งจะไม่โมฆะซ้ำอีก 
    โดยหลักการผู้บริหารประเทศไม่อาจว่างเว้นได้  เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญจึงไม่ประสงค์ให้เกิดรัฐบาลรักษาการไปเรื่อยๆ อย่างแน่นอน 
    ในเมื่อเรามีวุฒิสภาซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการเลือกตั้ง และเพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ เราจึงจำเป็นต้องใช้มาตรา 7 เปิดทาง 
    การเสนอชื่อ ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี นับเป็นช่องทางที่เป็นไปได้มากที่สุด และขัดระบอบประชาธิปไตยน้อยที่สุด
    ผมขอตั้งตุ๊กตาขึ้นมาให้เห็นเป็นตัวอย่าง เช่น อาจมีการเสนอชื่อ "คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา" ประกบกับ "อาภรณ์  สาราคำ" เป็นคู่ชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
    คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ได้ 552,530 คะแนน ขณะที่ อาภรณ์ สาราคำ ได้ 353,409 คะแนน
สูสีครับ คนเสื้อแดงคงรับได้เพราะทั้งยึดทั้งโยงประชาชน  ประชาธิปไตยล้านเปอร์เซ็นต์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น