นายกฯ คนกลางมาจากเลือกตั้ง!3 April, 2014
ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องคดีที่ ส.ว.ไพบูลย์ นิติตะวัน ยื่นให้วินิจฉัยสถานภาพนายกฯ "ยิ่งลักษณ์" จากกรณีการโยกย้ายตำแหน่ง "ถวิล เปลี่ยนศรี" พ้นจากตำแหน่งเลขาฯ สมช. เอาไว้พิจารณา
เมื่อนำไปเทียบกับคดีชิมไปบ่นไปของ "สมัคร สุนทรเวช" ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9-0 เสียงให้ขาดคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรี บอกได้คำเดียว กางมุ้งรอเตรียมรับมือเสื้อแดงป่วนเมืองได้เลย
มีประเด็นที่ต้องพิจารณาครับ ทางพรรคเพื่อไทยบอกว่าให้รองนายกรัฐมนตรีที่มีอยู่ 7 คนรักษาการแทนได้ จริงตามนั้นครับไม่มีอะไรเถียง!
แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะคงสภาพรัฐบาลเอาไว้ โดยรองนายกรัฐมนตรีรักษาการแทนนายกรัฐมนตรีนอมินีไปเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น
หลัง "สมัคร สุนทรเวช" พ้นตำแหน่งในวันที่ 9 กันยายน พ.ศ.2551 "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" ซึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น รักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปจนถึงวันที่ 18 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติ เลือกตัวเขาเป็นนายกรัฐมนตรีเต็มตัว
และเมื่อ "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" พ้นจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เพราะศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคพลังประชาชน และเพิกถอนสิทธิ์ 5 ปี ในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2551 "ชวรัตน์ ชาญวีรกูล" รองนายกรัฐมนตรี ก็เข้ามารักษาการแทนจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม ปีเดียวกัน ซึ่งเป็นวันที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติเลือก "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เป็นนายกรัฐมนตรี
นั้นคือธรรมเนียมปฏิบัติ
หาก "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" พ้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ "สุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล" จะรักษาการนายกรัฐมนตรีแทน จนกว่าจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่
แล้วเมื่อไหร่ครับ?
เพราะขณะนี้ไม่มีสภาผู้แทนราษฎร หรือต้องรอให้การเลือกตั้ง ส.ส.เสร็จสิ้นเสียก่อน ซึ่งขณะนี้ไม่มีใครรู้ได้ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นช่วงไหน เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้การเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเป็นโมฆะนั้น ทำให้ทุกฝ่ายยกเว้นพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง ต้องการให้มีหลักประกันก่อนว่าการเลือกตั้งจะไม่โมฆะซ้ำอีก
โดยหลักการผู้บริหารประเทศไม่อาจว่างเว้นได้ เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญจึงไม่ประสงค์ให้เกิดรัฐบาลรักษาการไปเรื่อยๆ อย่างแน่นอน
ในเมื่อเรามีวุฒิสภาซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการเลือกตั้ง และเพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ เราจึงจำเป็นต้องใช้มาตรา 7 เปิดทาง
การเสนอชื่อ ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี นับเป็นช่องทางที่เป็นไปได้มากที่สุด และขัดระบอบประชาธิปไตยน้อยที่สุด
ผมขอตั้งตุ๊กตาขึ้นมาให้เห็นเป็นตัวอย่าง เช่น อาจมีการเสนอชื่อ "คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา" ประกบกับ "อาภรณ์ สาราคำ" เป็นคู่ชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ได้ 552,530 คะแนน ขณะที่ อาภรณ์ สาราคำ ได้ 353,409 คะแนน
สูสีครับ คนเสื้อแดงคงรับได้เพราะทั้งยึดทั้งโยงประชาชน ประชาธิปไตยล้านเปอร์เซ็นต์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น