‘บิ๊กตู่’แจงถกเหล่าทัพวาระปกติ คุยแก้ปมการเมืองทุกวัน |
|
‘บิ๊กตู่’แจงถกเหล่าทัพวาระปกติ คุยแก้ปมการเมืองทุกวัน บอกคปท.อย่าใช้กำลังโต้ตอบ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 เม.ย. ที่กองพลที่ 1 รักษาพระองค์(พล.1รอ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. ได้นัดผบ.เหล่าทัพหารือถึงสถานการณ์การเมืองที่กองบัญชาการกองทัพไทยว่า เป็นการประชุมร่วมกันตามปกติ ซึ่งทุกเดือนจะมีการพูดคุยกันในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องสายงานต่างๆที่มีข้อขัดข้อง หรือปัญหาในเอกสารธุรการ และเรื่องยุทธการ โดยส่วนใหญ่จะพูดคุยว่า แต่ละหน่วยมีปัญหาอะไรหรือไม่ เพื่อให้ทุกกองทัพได้รับทราบสถานการณ์ และจะได้มีฐานข้อมูลเดียวกันในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ได้มีเรื่องอะไรอย่างที่คนคาดหวัง ส่วนในเรื่องสถานการณ์การเมืองนั้น เขาพูดกันทุกครั้ง ทุกวัน ไม่ใช่หนึ่งเดือนเจอกันทีแล้วค่อยเล่า เพราะเรามีหน่วยข่าวประชุมร่วมกันทุกวัน ทุกสถานการณ์ แต่ละพื้นที่ แต่ละหน่วยมีอะไร เขารู้กันหมด
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเรียกร้องให้กองทัพอย่ายอมรับอำนาจของรัฐบาลรักษาการ พล.อ.ประยุทธ์ นิ่งคิดพักใหญ่ก่อนกล่าวว่า มันไม่ใช่ในระบบ ถามคำถามที่ตอบยาก ตอบไม่ได้ เพราะถ้าตอบก็จะไปอยู่อีกข้างหนึ่ง สมมุติว่า ท่านทำงานในบริษัทหนึ่งและท่านประท้วงเจ้าของบริษัท ถามว่า ทำได้หรือไม่ ถ้าคุณไม่เห็นด้วยกับผู้บริหารของคุณ คุณกล้าไล่เขาออกหรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ต้องทำหน้าที่ของคุณ เมื่อเขาให้ตนทำหน้าที่อะไรตนก็ทำตามหน้าที่ ตนจะไม่วิพากษ์วิจารณ์ให้เกินเลย เพราะจำเป็นต้องรักษาสถานภาพของตน เพื่อทำงานทุกงานให้ได้ ส่วนจะผิดหรือถูก จะรับหรือไม่รับก็ต้องไปว่ากันมา |
|
|
|
เมื่อถามว่า มองสถานการณ์การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 5 เม.ย.นี้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนมองทุกวัน ไม่ว่า จะวันที่ 5 นี้ หรือ 5โน้น ขอร้องว่า อย่าทำผิดกฎหมาย อย่าใช้ความรุนแรง เคารพกฎหมายแล้วจะจบ เข้าสู่กระบวนการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง เมื่อถามถึงกรณีที่ผบ.ทบ.ระบุว่า ให้ไปศึกษาการใช้กฎอัยการศึก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สื่อเป็นคนถามตนว่า จะประกาศใช้หรือไม่ ตนจึงบอกว่า ขอไปดูก่อน แต่ความจริงตนเป็นทหารไม่ต้องศึกษามาก เพราะตนรู้กฎหมายทหารอยู่แล้ว ซึ่งตนคาดหวังมาตลอดว่า สถานการณ์จะคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่ยังคงมีการบาดเจ็บสูญเสีย คงไม่มีใครคาดหวังให้มันแรง ไม่มีใครคาดหวังว่า อยากจะมีนายกฯคนกลาง ไม่อยากคิดอย่างนั้น ส่วนจะแก้อย่างไรก็ต้องแก้กันให้ได้ ตนพูดแรงก็ไม่ดี พูดค่อยก็ไม่ดี ขณะนี้คนที่มีปัญหาข้อขัดแย้ง คือ อีกฝ่ายรักษากฎหมาย อีกฝ่ายรักษาอธิปไตย แต่มีฝ่ายตรงกลางที่รำคาญ ซึ่งตนจะโดนคนเหล่านี้ด่าเยอะ
เมื่อถามว่า อดีตผู้บังคับบัญชาแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ท่านก็ห่วง แต่ท่านไม่รู้จะทำอย่างไร แต่บอกว่า
ขณะนี้ทหารทำตัวดีแล้ว คือ เข้มแข็ง รักษาสถานการณ์ สิ่งที่ท่านพูดตรงกัน คือ ทั้งหมดคือ คนไทยด้วยกัน ถ้าคนไทยไม่รู้จักการแก้ปัญหาด้วยตัวคนไทยเอง แล้วต้องไปหาคนอื่นมาแก้ ตนว่า อย่าเป็นเลยประเทศไทย ทุกคนต้องหันกลับมาเป็นคนไทยที่มีระเบียบ อย่าทำอะไรตามใจเป็นไทยแท้ ขอให้พอได้แล้ว วันนี้เราต้องเป็นคนไทยที่มีระเบียบวินัย และรักษากฎหมาย เสียสละประโยชน์ส่วนตัว เพื่อผลประโยชน์ชาติ และทำให้สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ปลอดภัย ต่อสู้กันไปมาไม่มีใครชนะ แล้วจะเดือดร้อนกันไปหมด ต้องหาทางออกให้ได้ ไม่ว่า จะด้วยกฎหมายหรือวิธีการพิเศษ อย่าพูดจนคนนั้นคนนี้เสียหายไปหมด วันนี้ท่านไม่ต้องถอยก็ได้ เพราะไม่มีใครยอมถอย ให้หยุดอยู่ที่เดิมแล้วคุยกันหาทางออกให้ได้ ทุกวันนี้เห็นคนเจ็บตายรู้สึกไม่สบายใจ สงสารประชาชน
เมื่อถามว่า ผบ.ทบ.จะอุ้มน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส.มาพูดคุยเพื่อหาทางออกกันเงียบๆหรือไม่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวติดตลกว่า ตัวใหญ่ทั้งคู่อุ้มไม่ได้ เราต้องช่วยกันเพื่อให้เขาได้คุยกัน ส่วนจะมีการพูดคุยหรือไม่ต้องไปถามท่าน เพราะเป็นเรื่องอนาคต อะไรก็เกิดขึ้นได้ ตอนนี้ขอให้ทหารทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ฝากดูแลทหารอย่าทำให้เขาหมดกำลังใจ น้อยใจหรือเสียใจ เพราะทหารคือ ลูกหลานของคนทุกพวก ทุกวันนี้ทหารที่เกณฑ์เข้ามาปีละ 8 หมื่นคน ก็เป็นคนของทั้ง 2-3 ฝ่าย แล้วทหารจะเป็นศัตรูกับใครได้
เมื่อถามถึงเหตุซุ่มยิงขบวนรถของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ระหว่างเดินทางกลับจากเวที กปปส. แจ้งวัฒนะ มายังเวทีหลักเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หาได้หรือยังว่า ใครยิง สื่อควรจะเขียนว่า ให้ตำรวจเป็นติดตามจับกุม ส่วนคปท.หากเห็นคนร้ายควรไปให้ข้อมูล อย่าใช้กำลังตอบโต้ แต่ถ้าสื่อเขียนอีกแบบ ก็จะมีการแก้แค้นกันต่อไปเรื่อยๆ แล้วต่อไปทหารจะต้องออกมาเหมือนถามเพื่อเร่งให้เดินไปสู่จุดนั้น คนที่อยู่บนถนนทุกวันนี้เป็นคนไทยหรือเปล่า หากเป็นต่างชาติก็ต้องดูว่า เขาเข้ามาได้อย่างไร ถ้าถืออาวุธเข้ามาคงไม่ได้ แต่ถ้าลักลอบมารับจ้าง ขายของก็คงมีเยอะ
เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)มีมติเชิญผู้นำเหล่าทัพ และหน่วยงานความมั่นคงมาร่วมหารือเพื่อประเมินสถานการณ์และกำหนดวันจัดการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าเขาเชิญก็ไป เราก็จัดคนไป เพราะกองทัพมีคนมากมาย ถ้าเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับกองทัพก็ต้องทำ ถ้าอะไรก็ตามที่เป็นเรื่องของประชาชน และประเทศชาติ กองทัพบกทำอยู่แล้วทุกเรื่อง ไม่ปฏิเสธ
เวลา 08.00 น. ที่กองพลที่ 1รักษาพระองค์ (พล.1รอ.) พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาเป็นประธานในพิธีวันสถาปนาพล.1 รอ. ครบครบ 107 ปี
โดยมีพล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผบ.พล.1 รอ.ให้การต้อนรับ และมีนายทหารระดับสูงของกองทัพบก รวมถึงอดีตผบ.พล. 1 รอ. เข้าร่วมงานมากมาย อาทิ พล.อ.วัฒนา สรรพานิช พล.อ.ชัยณรงค์ หนุนภักดี พล.อ.สมทัต อัตตะนันท์ พล.อ.อาชวินทร์ เศวตเศรนี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เป็นต้น
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวให้โอวาทแก่กำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวกำลังพลที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติราชการสนามตอนหนึ่งว่า
กองทัพบกได้ดูแลกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติราชการสนาม รวมถึงครอบครัวกำลังพลที่เสียชีวิตทั้งในระเบียบของกองทัพและเงินประกันชีวิต นอกจากนี้ยังมีการจัดหากองทุนต่างๆ รวมถึงเงินพระราชทาน สิ่งต่างๆเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความห่วงใยของผู้บังคับบัญชาที่มีต่อผู้ใต้บังคับบัญชาที่เปรียบเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน วันนี้นอกจากเงินที่ดูแลแล้ว ยังมีการบรรจุบุคคลครอบครัวเข้ารับราชการเพื่อทำหน้าที่ ส่วนใครที่ยังสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องปลดก็ทำงานต่อในงานที่ไม่ต้องใช้ร่างกายที่สมบูรณ์ หรือส่งบุตรเข้ารับการศึกษาจนจบปริญญาตรี กองทัพพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน การทำหน้าที่ทหารนั้นตนไม่อยากให้เป็นเพียงการทำตามคำสั่งอย่างเดียว แต่ต้องทำด้วยจิตใจที่ยอมรับและเสียสละ ขอให้ทุกคนตั้งใจทำความดีต่อไป หากมีปัญหาที่ต้องการให้ผู้บังคับบัญชาช่วยดูแลก็ขอให้บอก
“วันนี้ เป็นห่วงครอบครัวกำลังพลระดับล่างที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติราชการสนามที่มี ความยากจนและบ้านมีความเสื่อมโทรมไม่ได้รับการซ่อมแซม ผมจึงได้จัดโครงการดูแลซ่อมแซมปรับปรุงบ้านของครอบครัวกำลังพลที่เสียชีวิต เพิ่มมาอีก 1 โครงการ โดยสามารถดำเนินการในปีนี้ได้จำนวน 60 หลังคา อาจจะไม่มากมาย แต่กำลังจะหาทางสร้างพันธมิตรต่างๆ มาช่วยกันดูแล อย่างน้อยก็ทำแทนบุตรหรือสามีของเขาที่เสียชีวิตไปพร้อมจะขยายความช่วยเหลือกำลังพลและครอบครัวให้ทั่วถึง เพราะเราเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปสนใจว่าใครจะชมหรือใครจะว่า ขอให้ยืนในจุดที่เหมาะสมคือทำหน้าที่เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และราชบังลังค์ ด้วยชีวิต” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว |
|
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น