และแล้ว 'วันพิพากษา' ก็มาถึง
"สิ่งจำเป็น" สำหรับคนไทยทุกคนตอนนี้คือ "สติ" ยิ่งอยู่ในช่วง "กรรมเช็กบิล" ด้วยแล้ว ต้อง "สติ...สติ และ สติ" อย่างเดียวเท่านั้น ไม่เช่นนั้น จะ "คุมตัวเอง" เพื่อการรับรู้ "ความเป็นไป" ที่ประดัง-ประเดเข้ามาพร้อมๆ กันไม่ได้
ท่านว่า...จริงมั้ย?
ก็แหม...เหนื่อยยากมากันตั้งไกล จะมาสติแตกหรือเสียสติ ด้วยสำลักนาทีเป็น-นาทีตายเอาตอนหัวเรือจะเกยตลิ่ง มันน่าเจ็บใจ มากกว่าน่าเสียดายนะ
ฉะนั้น ตั้งสติกันให้ดี เพื่อคัดกรองเหตุการณ์-สถานการณ์ ช่วง "กรรมเช็กบิล" หลังคราสสุริยัน-จันทราที่โถมเข้ามาแบบซ้ำๆ ซ้อนๆ เยี่ยงวิญญูชน เพราะมีแต่คนรู้ทันด้วยสติเท่านั้น
จะอยู่แบบ "ผู้ชนะ"!
ใครที่เล่น fb คงอ่านกลอนคำทำนายที่อ้างเป็นของ "หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ" กันแล้ว ความจริงเป็นท่านใดเขียนก็..กราบท่านเถอะ เพราะท่านเขียนด้วย "อนาคตังสญาณ" โดยแท้
เราถือซะว่า...ตอนนี้บ้านเมืองอยู่ในช่วงของกลอนวรรคที่ว่า "ผู้ปกครองเป็นหญิงพึงระวัง"
แล้ววานซืน (๕ พ.ค.๕๗) มีปรากฏการณ์คล้ายๆ ในคำกลอนเกิดขึ้นในบ้านเมืองพร้อมๆ กัน
ที่ภาคเหนือ ศูนย์กลางอำเภอพาน เชียงราย เกิดแผ่นดินไหวระดับ ๗ ริกเตอร์ อันไม่เคยมีรุนแรงถึงระดับนี้มาก่อนในสยามประเทศ ผลปรากฏดังที่ทราบราพณาสูรหลายแห่ง
แต่ที่ตื่นระทึก ลึกลงไปในห้วงนึกคิดแห่ง "จิตสำนึก" ของผู้คนยามสับสนตัวเอง เป็นไปตามคำกลอน ก็ตรง...
"แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย
เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน"
ครับ...รหัสลับเพิ่งถูกไข "แผ่นดินแยก" ที่หลงเข้าใจว่า หมายถึง "แยกประเทศ-แยกบ้าน-แยกเมือง" นั้น
แท้จริงแล้ว หมายถึง "แผ่นดินแยก" ตรงตามตัวจริงๆ ไม่ใช่แยกประเทศ-แยกแผ่นดิน เห็นภาพที่แชร์กันมา ก็แชร์ต่อไปแล้วใช่มั้ย?
ถนนหลายสายทางเหนือ โดยเฉพาะสายเชื่อมเชียงใหม่-เชียงราย ธรณีพิโรธ ฉีกถนนให้แยก-แตกเป็นสองเสี่ยงนั่นแหละ "แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก" ละ!
หรือจะเรียก "ธรณีสูบ" ก็ตรงตัว!
ส่วนตามวรรครองลงมาที่ว่า "เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย..." น่ะ ปราบกันไปเท่าไหร่ ตายกันไปเท่าไหร่แล้วล่ะ
ก็เห็น "เลือดเป็นสาย" และ "น้ำตานอง" สองแผ่นดิน เปียกแฉะจนถึงวันนี้ก็ยังไม่แห้งมิใช่หรือ?
ขณะ "เหนือดิน" ธรณีพิโรธ แยก-เขย่าเมือง ทางภาคเหนือนั้น "เหนือฟ้า" คลุมไทย เมื่อแหงนหน้ามองขึ้นไป เกิดปรากฏการณ์เป็นตามคำกลอนอีกวรรคที่ว่า
"คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ"
ใครที่ไม่เคยเห็น "ฟ้าสีทองผ่องอำไพ" เป็นอย่างไร ตอนนี้หายสงสัยกันแล้วใช่มั้ย เพราะประจักษ์แห่งมหัศจรรย์กับตา-กับใจตัวเอง จนปีติเต็มตื้น น้ำตาไหลไม่รู้ตัว
......"แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา" แน่แท้แล้ว!
ปัญหา กับ ปัญญา มันตัวเดียวกัน ถ้ามีปัญญา ปัญหาก็หมด แต่ถ้าไม่มีปัญญา ปัญหาก็เกิด
ปัญญาไม่ต้องหา สติมีเมื่อไหร่ ปัญญามาเมื่อนั้น ฉะนั้น วันนี้ (๗ พ.ค.๕๗) และต่อไปนี้ จงใช้สติเป็นหางเสือนำในการรับรู้เหตุการณ์-สถานการณ์ให้ต่อเนื่อง
ตอนเที่ยงๆ "หวยรัฐธรรมนูญ" จะออก!
คาดการณ์กันวันโน้น-วันนี้ในสัปดาห์หน้า ศาลรัฐธรรมนูญจึงจะมีคำวินิจฉัย ที่ไหนได้ ๔ พยาน "ไพบูลย์-ยิ่งลักษณ์-พล.ต.อ.วิเชียร-ถวิล" แจกแจง-แถลงไขต่อศาลเสร็จ (๖ พ.ค.) เท่านั้นแหละ
เสร็จปุ๊บ....
นัดฟังคำวินิจฉัยปั๊บ "วันนี้" เลย!
ทำเอาแทบช็อกไปตามๆ กัน ด้วยไม่นึก-ไม่ฝันว่าวันนั้นจะมาถึงเร็วกว่าที่คาด ยิ่งลักษณ์จะอยู่-จะไป......ระบอบทักษิณถึงกาลล่มสลาย... แล้วประเทศไทยก็เข้าสู่....
ยุค "มหาประชาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา"
....อย่างนั้นใช่หรือไม่?
ไม่น่าผิด เพราะพลันศาลปิดคดี เลือกตั้ง ๒๐ ก.ค. "ความหวังสุดท้าย" ของไอ้โจรเสื้อนอก หายวับไปกับตา เพราะว่า กกต. "ขอหารือใหม่" ๒๐ ก.ค.ไม่เวิร์ก!
เอ้า...เพื่อความเข้าใจในการฟังคำวินิจฉัยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเที่ยงๆ วันนี้ มาดูโจทย์ให้รู้เรื่องก่อน
ตัวโจทย์ที่ ส.ว.ไพบูลย์ นิติตะวัน ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย คือประเด็น แต่งตั้ง-โยกย้ายคุณถวิล เปลี่ยนศรี ความเป็นนายกฯ ของยิ่งลักษณ์ จะสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๘๒ (๗) ประกอบมาตรา ๒๖๘ หรือไม่?
ไม่ต้องวิเคราะห์-วิแคระอะไรอีก เพราะป่านนี้ รู้กันแล้วด้วยซ้ำว่าศาลวินิจฉัยออกมาอย่างไร?
แค่ฟังยิ่งลักษณ์ท่องโพยแจงศาลก็แจ่มแจ้งแดงแจ๋แล้ว....
“ดิฉันไม่ได้ก้าวก่ายหรือแทรกแซง ครม.ต้องใช้ดุลยพินิจในการบริหารแผ่นดิน เพื่อประโยชน์สูงสุด ไม่ได้คาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้า หรือวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน แต่คำนึงประโยชน์สูงสุดของประเทศ ไม่ได้คำนึงถึงความเป็นเครือญาติ ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้หย่าขาดกับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ แล้วด้วย......"
อ้อ...ก็เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่า "ผัว-เมีย" หย่ากันแล้ว ความเป็นเครือญาติทั้งหมดก็ขาดจากกันไปด้วย!
ด้วยตรรกะเครือญาติแบบนี้ โอ๊คก็เสียคนน่ะซี เพราะเที่ยวทึกทัก-นับญาติกับนายกฯ ประจำ เห็นโพสต์ลง fb ทีไร ทำเป็นสนิท เรียกยิ่งลักษณ์ว่า
"อาปู...อาปู" จนผมใกล้จะเรียก อาปู...อาปู ตามไปด้วยอยู่รอมร่อ!
เรื่องแผ่นดินไหว ผมขอชื่นชมช่อง ไทยพีบีเอส เพราะมีช่องเดียวทำหน้าที่สื่อทันการณ์ สมที่เป็นสื่อสารสังคมชาติ
ส่วนเรื่องไต่สวนปากคำพยานที่ศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวาน ขอชื่นชมช่อง สปริงนิวส์ "ช่องเดียว" จริงๆ ที่ถ่ายทอดสด ถึงไม่ครบ-ไม่จบ แต่ก็ประเสริฐแล้ว
เห็นประมูลช่องดิจิตอลกันช่องละเป็นพันๆ ล้าน ตั้ง ๔๐-๕๐ ช่อง นึกว่าสังคมจะได้ประโยชน์ทางข่าวสารทันการณ์บ้าง
ปรากฏว่า การสื่อสารระบบไอทีมากเท่าไหร่ ความป่าเถื่อน-ล้าหลัง-เละเทะ ในระบบโทรทัศน์ไทยยิ่งมากขึ้นเท่านั้น!
เรียกสื่อโทรทัศน์ไม่ได้แล้ว ต้องเรียก "ธุรกิจโทรทัศน์" จึงจะตรงตามที่เป็นทุกวันนี้
ที่แวะไปเรื่องโทรทัศน์ ก็ด้วยช่องสปริงนิวส์นี่แหละ ผมจึงทราบตามที่ "ท่านจรัญ ภักดีธนากุล" ตุลาการท่านซักถาม "คุณไพบูลย์" ประเด็น เอกสารโยกย้ายคุณถวิล
"ฉบับเดียวกัน-เรื่องเดียวกัน" แต่ที่แนบมากับสำนวนเดิม กับที่ยิ่งลักษณ์ส่งมาเป็นพยานเอกสารตอนหลัง
ดันลงวันที่คนละวัน?
ฉบับที่ออกจากสำนักนายกฯ เป็นวันที่ ๔ ก.ย.๕๔ และเป็นเอกสารที่ศาลปกครองสูงสุดใช้ในการวินิจฉัยคดี
ด้วยฉบับนั้นแหละ เป็นพยานเอกสารที่ยิ่งลักษณ์ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตามหมายเรียก แต่กลับลงวันที่ ๕ ก.ย.๕๔ ที่เข้าที่ประชุม ครม.วันที่ ๖ ก.ย.๕๔!?
ท่านจรัญสอบถามเพื่อความแน่ใจถึง "ความไม่ตรงกัน" ของวันที่ในเอกสารฉบับเดียวกันนี้ และท่านซึ่งตรวจสอบพยานเอกสารแต่ละชิ้นแล้ว บอกว่า...
เอกสารที่ออกโดยสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องการโยกย้ายนายถวิล ฉบับลงวันที่ ๔ ก.ย.๕๔ นั้น ตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า
วันที่ ๔ ก.ย.๕๔ เป็นวันอาทิตย์!?
แบบนี้ ก็....เก็บจอ เก็บเสื่อ-เก็บหมอนได้เลย พี่ชายก็ใช้วันหยุดส่งท้ายปีเก่า ๓๑ ธันวา โอนที่ดินรัชดาฯ
น้องสาวก็เจริญตามรอย ใช้วันหยุดราชการ "วันอาทิตย์" โยกย้ายเลขาฯ สมช.และตี ๓ ตี ๔ ก็ออกกฎหมายล้างโทษในรัฐสภา
แบบนี้...ก็ควรแล้ว ที่ได้รับโชค ๒ ชั้น จากศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ และชั้นที่สอง เป็น "แม่สายบัว แต่งตัวเก้อ" เพราะ กกต.ล้มแผนเลือกตั้ง ๒๐ ก.ค.ไปแล้ว!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น