วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555

แซมซาย บันทึกหน้า 4 5 December 2555 - 00:00



แซมซาย



ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด วันที่ 5 ธันวาคม 2555  เป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ประชาชนจากทั่วสารทิศหลั่งไหลมารวมกันที่ลานหน้าพระบรมรูปทรงม้า พระที่นั่งอนันตสมาคม เพื่อเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จออกมหาสมาคม เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ภาพพสกนิกรที่พร้อมเพรียงกันใส่เสื้อเหลืองนับแสนคนที่มาชื่นชมพระบารมี จะถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก บ่งบอกถึงอัตลักษณ์เฉพาะของประเทศไทย ที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษติรย์ทรงเป็นประมุข ไม่มีตำรารัฐศาสตร์ของประเทศตะวันตกเล่มใดมาอธิบายได้...0
    หลังจากคนไทยมีความสุขจากวันที่ 5 ธันวาคมแล้ว จากนั้นก็ต้องกลับมาเผชิญกับความตึงเครียดทางการเมืองอีกครั้ง เมื่อเหล่า "ขี้ข้าทักษิณ" จะเดินหน้าฉีกรัฐธรรมนูญเพื่อช่วย "เจ้านายหน้าเหลี่ยม" พ้นผิดอีกรอบ โดย นายโภคิน พลกุล ประธานคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประกาศเดินหน้าลงมติวาระ 3 เพื่อแก้ไข รธน. ในวันที่ 10 ธ.ค.  "คิกออฟ" เริ่มต้นรณรงค์ให้ประชาชนเข้าใจ ทั้งที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตั้งข้อสังเกตว่า การแก้ไข ม.291 โดยการยกร่างใหม่ทั้งฉบับ ยังไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ ม.291 เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมาจากการลงประชามติของประชาชน  แต่ "โภคิน" กลับตะแบงว่า ขณะ ส.ส.ร.ยกร่าง ยังไม่มี รธน.ฉบับใหม่ แล้วค่อยไปลงประชามติ ก็แล้วทำไมไม่ลงประชามติก่อนว่าสมควรมี รธน.ฉบับใหม่หรือไม่ หากบอกว่า "ไม่" จะได้ไม่เสียเวลาไปยกร่าง...0  
    แต่คงเป็นเพราะเหล่าขี้ข้าทักษิณมั่นอก-มั่นใจว่า คราวนี้ผ่านฉลุยแน่ จึงไม่แคร์ศาล รธน.และกลุ่มต่อต้าน หากนับจำนวนเสียงในสภาบวกกับ ส.ว.แล้ว อย่างที่ นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา ออกมาแฉว่า "มีความพยายามยื่นขนมหวานให้ ส.ว.เลือกตั้งโหวตรัฐธรามนูญโดยแลกกับการต่อวาระการดำรงตำแหน่งให้อีก 3 ปี เมื่อรวมกับ 6 ปี ในวาระที่ครบในปีหน้าก็จะได้เป็น 9 ปี" จึงเชื่อว่าคราวนี้ "เอาอยู่" หลังจากใช้ตำรวจมะเขือเทศนับหมืนสกัดม็อบองค์การพิทักษ์สยามจนอยู่หมัด จึงพร้อมปฏิบัติการ ชี้นำ-เป่าหูรากหญ้า และเตรียมไพร่พลคนเสื้อแดงไว้เป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก ไว้รับมือกับกลุ่มต่อต้าน โดยใช้จังหวะช่วงก่อน-หลังปีใหม่ ที่กลุ่มที่คัดค้านอาจจะตั้งหลักไม่ทัน แต่อย่าประมาท เพราะคราวนี้คงไม่ใช่ม็อบ "เสธ.อ้าย" กลุ่มเดียว แต่จะเป็นการเรียกแขก ขบวนการต่อต้านทักษิณทุกสายจะไหลมาบรรจบกันพร้อมเผชิญหน้ากันอีกยก...0
    งานนี้สงสัยจะตายเดี่ยว นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เมื่อ นายกล้านรงค์ จันทิก คณะกรรมการ ป.ป.ช.ระบุว่า ที่ประชุมมีมติตั้งอนุกรรมการสอบสวนนายบุญทรงเกี่ยวกับเรื่องโครงการรับจำนำข้าว เป็นเพราะจากพยานหลักฐานข้อมูลขณะนี้เพียงพอในการไต่สวนเฉพาะนายบุญทรงเท่านั้น   ตอบฝ่ายค้านยังว่ายาก คราวนี้ไปตอบกรรมการ ป.ป.ช.ยิ่งยากกว่าอีก และอย่างนี้ต้องเจอ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ หนึ่งในแกนนำ นปช. โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว โจมตีอย่างรุนแรงว่า ไปที่กระทรวงพานิชย์เพื่อนำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนไปบอกกล่าว แต่ปรากฏว่า เลขาฯ ไม่ให้เข้าพบ “ไปดีเถิดนะ ขอสาปแช่ง..หอมแดงก็เน่า ข้าวก็เสีย มันก็ยังไม่รับจำนำ ขอให้เสพสุขกันให้เต็มที่เลยนะ...ถามหน่อย เคยต่อสู้มากับชาวบ้านบ้างหรือไม่ อย่าเสพสุขบนซากศพของคนเสื้อแดงเลย....รู้ไหมชาวบ้านเขาเดือดร้อน” นี่งัยที่หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาต่างๆ แต่รัฐบาลทำเป็นไม่ได้ยิน หรือจะเหมือนที่มีการเปรียบเปรยว่า "รอให้เสาบ้านผุลงมาก่อน ชาวบ้านถึงจะรู้สึก"...0
    ปัญหาการประมูลคลื่น 3 จี ยังไม่จบง่ายๆ แม้องค์คณะตุลาการศาลปกครอง มีมติ 4 ต่อ 2 ไม่รับคำฟ้อง ที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นฟ้องสำนักงาน กสทช. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ได้เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้อุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางต่อศาลปกครองสูงสุด เนื่องจากเห็นว่าคำสั่งศาลปกครองยังคลาดเคลื่อนต่อข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย นั่นน่ะสิ! หากศาลปกครองตีความว่าผู้ตรวจการแผ่นดินซึ่งรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนไม่ใช่ผู้เสียหาย แล้วใครในประเทศนี้คือผู้เสียหายก็ควรจะชี้ออกมาให้ชัดๆ มิเช่นนั้น องค์กรอิสระต่างๆ มีไว้ก็ไร้ประโยชน์ ขณะที่ น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี และ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ก็ร้องให้ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า กทค.ออกใบอนุญาตขัด รธน. แต่ กทค.นัดประชุมเพื่อกำหนดแนวทางและความชัดเจนการออกใบอนุญาต ทั้งที่ปัญหานี้ยังมีอีกหลายด่าน รวมทั้ง ป.ป.ช.กำลังพิจารณาประเด็นฮั้วประมูลด้วย...0

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น