สรุปข่าวสำคัญจาก นสพ.ประจำวันที่ 24 ธ.ค.55
นปช.เสนอทำโพล
นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ วีดิโอลิงค์แสดงความไม่เห็นด้วยกับการลุยโหวตแก้ รธน. วาระ 3 ตามแนวทางของกลุ่ม นปช. ว่า คงเป็นความห่วงใยของ พ.ต.ท.ทักษิณ จริงๆที่ไม่อยากให้เกิดเงื่อนไข กลัวว่าเมื่อโหวตวาระ 3 ไปแล้วจะถูกยื่นเรื่องให้ศาล รธน.ตีความอีกและเกรงว่า ส.ส.และส.ว.บางส่วนอาจจะไม่ยกมือให้ จึงอยากใช้การทำประชามติแทน อย่างไรก็ตาม คนเสื้อแดงยังยืนยันแนวทางให้โหวตวาระ 3 ถือเป็นปฏิญญาเขาใหญ่ที่ประกาศไว้แล้ว ซึ่งแกนนำ นปช.บางส่วนหารือกันว่าหากยังลังเลว่าจะแก้ไข รธน. ด้วยวิธีใด ก็ขอเสนอให้ทำโพลถามประชาชนเลยว่าจะทำอย่างไร หากเสียงข้างมากว่าอย่างไร ก็ใช้แนวทางนั้น เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยมีมติให้ทำประชามติก่อนโหวตวาระ 3 จะทำให้คนเสื้อแดงเสียความรู้สึกจนไม่ออกมาใช้สิทธิทำประชามติหรือไม่ นายวรชัย กล่าวว่า คนเสื้อแดงมีเหตุผล สิ่งที่เสนอไปเราแค่ติติง แต่สุดท้ายหากพรรคมีมติเลือกแนวทางใด ไม่ว่าจะลงเหวหรือขึ้นเขา คนเสื้อแดงก็พร้อมสนับสนุนและจะออกมาใช้สิทธิทำประชามติอย่างเต็มที่
วางกรอบ “ประชามติ” รบ.ถกวันนี้ พท.รอผล – ชงนายกฯปู
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ในที่ประชุมพรรคจะหารือให้ได้ข้อยุติอีกทั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาการทำประชามติของรัฐบาล จะประชุมในวันที่ 24 ธ.ค.55 แล้วจะนำข้อสรุปเข้าสู่ที่ประชุมพรรค เพื่อรับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วน และคาดว่าหลังจากปีใหม่จะมีความชัดเจน พรรคยึดมั่น ระบอบประชาธิปไตย และความเห็นของนักวิชาการทุกภาคส่วนให้ตกผลึกให้เกิดการมีส่วนร่วมนำไปสู่การแก้ไขกฎหมายสูงสุด และพรรคยืนยันตามการหาเสียงว่าจะเดินหน้าแก้ไข รธน.แน่นอน ส่วนจะแก้ไข รธน.ในรูปแบบใด วันที่ 25 ธ.ค.55 จะได้ข้อสรุปเป็นข้อยุติ จะนำข้อสรุปไปถกในการสัมมนาพรรคที่เขาใหญ่ระหว่างวันที่ 6 - 7 ม.ค. 2556 ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมสัมมนาด้วย จากนั้นจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมพรรคในวันที่ 8 ม.ค. 2556
อ่านเพิ่มที่ หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 24/12/2012
“อ๋อย” ต้านทำประชามติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.55 นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย โพสต์ข้อความลงในเว็บไซต์เฟซบุ๊กถึงกรณีการทำประชามติและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า การทำตามรัฐธรรมนูญมาตรา 165 จะมีปัญหาอย่างมาก เพราะมีการกำหนดให้ใช้เสียงเกินกว่าครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์กติกาตามมาตรา 165 เท่ากับบอกว่าผู้ไม่ออกเสียงก็ถือเป็นเสียงค้านด้วย ภาระก็ตกอยู่กับฝ่ายสนับสนุนที่ต้องหาคนมาให้ได้เกินครึ่งของผู้มีสิทธิ์ “การลงประชามติตามมาตรา 165 จึงเป็นการเดินไปสู่ทางตัน คือ ไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้เพราะปัญหาทางเทคนิคเกี่ยวกับกติกาว่าด้วยการลงประชามติ แล้วฝ่ายคัดค้านก็จะไปทึกทักเอาว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อไปไม่ว่าจะแก้ทั้งฉบับหรือรายมาตราก็จะเป็นเรื่องยากมาก ผมจึงเห็นว่าไม่ควรจัดให้มีการลงประชามติตามมาตรา 165 เพราะจะเป็นการเดินตามเกมที่ฝ่ายปกป้องรัฐธรรมนูญได้วางหมากไว้ให้เดิน สำเร็จยากมาก หากจะมีการลงประชามติควรต้องใช้กติกาเดียวกันกับการลงประชามติรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเมื่อปี 50 คือกำหนดให้ใช้เสียงข้างมากเท่านั้นพอจึงจะถูก สำหรับปัญหาที่ต้องตัดสินใจกันในขณะนี้ ผมจึงขอเสนอทางออกเป็น 2 ทางคือ 1. ลงมติวาระ 3 ไปเลยหรือ 2.ลงประชามติตามกติกาเดียวกันกับการลงประชามติในปี 2550”
อ่านเพิ่มที่ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 24/12/2012
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น