วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

“ปลื้มปิติ”เตรียมรับเสด็จ“ในหลวง-พระเทพฯ” ใน 7 ก.ค.55


“ปลื้มปิติ”เตรียมรับเสด็จ“ในหลวง-พระเทพฯ”
สำหรับหมายกำหนดการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพยุหยาตราทางชลมารค เพื่อทรงเปิด 5 โครงการชลประทาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ บริเวณหน้ากรมชลประทาน สามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ ในวันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม เวลา 16.30 น. นั้น ในการนี้โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจถ่ายทอดสดให้ได้ชมกันทั่วทั้งประเทศ
นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชล ประทาน แจ้งถึงหมายกำหนดการ ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ไปยังท่าเทียบเรือสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินประทับเรือพระที่นั่งอังสนา ทอดพระเนตรริมแม่น้ำเจ้าพระยาจากบริเวณท่าเทียบเรือสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช ล่องแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังบริเวณเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับมายังบริเวณหน้ากรมชลประทาน สามเสน
“กระทั่งเวลา 18.45 น. เรือพระที่นั่งอังสนาถึงบริเวณหน้ากรมชลประทาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลรายงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอธิบดีกรมชลประทาน กราบบังคมทูลรายงานความเป็นมาโดยสังเขป ก่อนทอดพระเนตรการแสดงสื่อผสม น้ำสร้างชีวิตบนเรือพระที่นั่งอังสนา
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัด เปิดกรวยดอกไม้ธูปเทียนแพ นายกรัฐมนตรีกล่าวนำประชาชนทุกคนถวายพระพร” นายเลิศวิโรจน์กล่าว
 และ เวลา 19.50 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพระหัตถ์บนแท่นตราสัญลักษณ์โครงการ ทอดพระเนตร วีดิทัศน์บรรยากาศสดจาก 5 จังหวัดที่ร่วมกัน แปรอักษรเป็นคำว่า “ทรงพระเจริญ”
สมควรแก่เวลา เรืออังสนาแล่นออกจากบริเวณหน้ากรมชลประทาน สามเสน กลับไปยังท่าเทียบเรือสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช โรงพยาบาลศิริราช เวลา 20.30 น. เรือพระที่นั่งอังสนาถึงสมาคมศิษย์เก่าศิริราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จขึ้นท่าเทียบเรือสมาคมศิษย์เก่าศิริราช แล้วประทับรถยนต์พระที่นั่งไปยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ
นายเลิศวิโรจน์เปิดเผยอีกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯไปยังเกาะเกร็ด เพื่อเยี่ยมเยียนและทอดพระเนตรพสกนิกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยเมื่อปลายปี 2554
นายเลิศวิโรจน์กล่าวว่า จะใช้ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ถ่ายทอดสดเชื่อมโยงจากโครงการทั้ง 5 โครงการมายังบริเวณพระราชพิธี ซึ่งประชาชนที่เฝ้าฯรับเสด็จในโครงการต่างๆ จะสามารถชื่นชมพระบารมีพร้อมกับร่วมในพิธีเปิดได้ด้วย โครงการทั้ง 5 ประกอบด้วย 1.เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก 2.เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก 3.อุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒน์ จ.กาฬสินธุ์ 4.ประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิต จ.นครพนม และ 5.โครงการประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ จ.นครศรีธรรมราช
“โครงการต่างๆ จะมีความพิเศษแตกต่างกันออกไปและบางโครงการได้เริ่มใช้งานแล้ว เช่น โครงการประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ ซึ่งจะเป็นประตูระบายน้ำที่จะคั่นระหว่างน้ำจืดและน้ำเค็มโดยจะกั้นน้ำเค็มไม่ให้เข้าไปในพื้นที่เกษตรกรรม และโครงการอุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒน์เป็นอุโมงค์ที่ผันน้ำมาจาก จ.มุกดาหารมายัง จ.กาฬสินธุ์ เนื่องจากจังหวัดดังกล่าวไม่มีแหล่งน้ำในการเพาะปลูกมากเพียงพอ ปัจจุบันโครงการชลประทานในพระราชดำริดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วกว่า 2,000 โครงการ” นายเลิศ วิโรจน์กล่าว
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ชุมชนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี และ ชุมชนวัดดาวดึงษ์ พบว่าประชาชนที่ทราบข่าวการเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่างรู้สึกตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างมาก
นางสร้อย ทั่งถิร อายุ 61 ปี กล่าวว่า รู้สึกปลาบปลื้มดีใจมาก ในวันที่ในหลวงเสด็จฯจะมารอรับเสด็จอย่างแน่นอน เพราะทุกครั้งที่ในหลวงเสด็จฯผ่านเส้นทางนี้จะมารอรับเสด็จฯ ทุกครั้ง โดยเตรียมธงชาติและธงตราสัญลักษณ์ มาด้วยเสมอ พร้อมทำความสะอาดบริเวณรอบๆ บ้านให้สะอาดเพื่อรอรับเสด็จ
นางนฤมล สมรรถพันธุ กล่าวว่า ปกติชุมชนจะทำความสะอาดและจะประดับธงชาติและ ธงตราสัญลักษณ์ไว้รอรับเสด็จทุกครั้งที่ในหลวงเสด็จฯผ่าน จะมีประชาชนจำนวนมาก รอรับเสด็จเต็มบริเวณพื้นที่ท่าเรือของชุมชน จะมีคนภายนอกที่ทราบข่าวการเสด็จฯมาร่วม รอรับเสด็จด้วย
นางลัดดา ครุฑใจกล้า กล่าวว่า เพิ่งทราบข่าว รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่ในหลวงจะเสด็จฯผ่านมาบริเวณท่าน้ำชุมชนของตน ล่าสุด ที่ในหลวงเสด็จฯมาเปิดอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 8 บริเวณเชิงสะพานพระราม 8 ก็ได้มารอรับเสด็จตั้งแต่ 4 โมงเย็น จนถึง 2 ทุ่ม มีความรู้สึกประทับใจ เมื่อได้เห็นพระองค์อย่างใกล้ชิดถึงแม้ว่าในวันนั้นจะมีฝนตกลงมาก็ตาม
ด้าน นายชัยณรงค์ โชติวรรธกวณิช วิศวกรโยธาชำนาญการ หัวหน้าหมวดบำรุงรักษาสะพานพระราม 8 กล่าวว่า ยังไม่ได้รับทราบเรื่องอย่างเป็นทางการ แต่ปกติบริเวณใต้สะพานพระราม 8 ทาง กทม.จะบำรุงรักษาและเตรียมความพร้อมตลอดอยู่แล้ว เนื่องจากสะพานพระราม 8 เป็นเส้นทางเสด็จฯอยู่บ่อยครั้ง
ในส่วนของการจัดพื้นที่รอรับเสด็จนั้น ทาง กทม.จัดพื้นที่ไว้ตั้งแต่ใต้สะพานพระราม 8 ยาวไปจนถึงบริเวณด้านหน้าของอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 8 รองรับประชาชนราวพันคน และมีพื้นที่จอดรถไว้ให้บริการประชาชนกว่า 400 คัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น