วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อธิบดีคร.ย้ำไวรัส"มือเท้าปาก"ไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ แจงเหตุก่อโรคข้ามเด็กเล็กไปเด็กโต ยังปกติ ไม่รุนแรง



วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เวลา 16:35:26 น.


นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ถึงกรณีนักไวรัสวิทยาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้ปี 2555 พบการระบาดของโรคมือเท้าปากมากที่สุด และเชื้อมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงการกระจายช่วงอายุที่ได้รับเชื้อ จากปกติจะพบมากในกลุ่มเด็กอายุไม่เกิน 5 ขวบ เป็นพบเด็กอายุไม่เกิน 12 ปีปะปนด้วย จนทำให้เกิดความวิตกกังวลถึงมาตรการป้องกัน ว่า ไม่อยากให้ตื่นตระหนก เพราะเชื้อนี้ไม่ใช่เชื้อใหม่ และไม่มีการกลายพันธุ์ใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเชื้อไวรัสมือ เท้า ปากในปีนี้ คือ คอกซากี A6 และเอนเทอโรไวรัส 71 สายพันธุ์ B5 เป็นเชื้อที่เคยพบอยู่ก่อน แม้แต่เอนเทอโรไวรัส 71 สายพันธุ์ C4 ที่พบในเวียดนามก็เคยพบในไทย แต่ไม่รุนแรงเช่นกัน เพราะสามารถควบคุมได้ ดังนั้น สรุปคือในปีนี้เชื้อไม่ได้รุนแรงอย่างที่คิด ส่วนที่พบจำนวนมากในช่วง 1-2 เดือนนี้ เพราะเป็นช่วงก่อโรค เนื่องจากเป็นฤดูฝน มีความอับชื้น ระบายอากาศไม่ดี ทำให้ในแหล่งชุมชน หรือแหล่งคนจำนวนมาก โรงเรียน อนุบาล ศูนย์เด็กเล็กมีโอกาสติดเชื้อ และแพร่กระจายสูง
  
"สำหรับกรณีที่เชื้อมีการเปลี่ยนแปลงและนำไปสู่การเปลี่ยนกลุ่มการรับเชื้อจากเด็กเล็กไปเป็นเด็กโตนั้น ข้อเท็จจริงต้องบอกว่า เชื้อไวรัสมือเท้าปากจะติดคนที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน ซึ่งในผู้ใหญ่ส่วนใหญ่จะมีภูมิคุ้มกันแล้ว รวมทั้งคนที่เคยติดเชื้อแล้วก็จะไม่เป็นอีก แต่ในกรณีข่าวที่พบปิดโรงเรียนประถมวัย ต้องดูว่าเด็กกลุ่มดังกล่าวมีอายุเท่าใด ซึ่งหากต่ำกว่า 12 ปี ก็ถือว่าปกติ เพราะอยู่ในข่ายไม่มีภูมิต่อเชื้อ" นพ.พรเทพกล่าว
   
อธิบดี คร. กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการในการป้องกันนั้นไม่แตกต่างจากศูนย์เด็กเล็ก หรืออนุบาล โดยหากพบเด็กนักเรียนได้รับเชื้อในห้องเรียนเกิน 2 คน ให้ปิดห้องเรียน แต่หากพบป่วยในระดับชั้นเดียวกันเกิน 3 คน ต้องปิดการสอนทั้งระดับชั้น และหากพบป่วยกระจายในระดับชั้นต่างๆ เกิน 5 ห้องเรียนต้องปิดโรงเรียนชั่วคราวประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อเป็นการตัดช่องทางการแพร่กระจายเชื้อทันที โดยมาตรการตรงนี้สามารถใช้ได้ทุกระดับทั้งศูนย์เด็กเล็ก อนุบาล ประถมวัย หรือระดับมัธยม นอกจากนี้ ตามสถานที่สาธารณะ ห้างสรรพสินค้า พวกเครื่องเล่นต่างๆ ก็ต้องระวัง ช่วงนี้ไม่ควรให้บุตรหลานเล่นหรือสัมผัสของเล่นตามที่สาธารณะ เนื่องจากไม่แน่ใจว่ามีการทำความสะอาดอย่างเพียงพอหรือไม่ ซึ่งเร็วๆ นี้ คร.มีแผนจะหารือกับภาคส่วนต่างๆ ในการรณรงค์การทำความสะอาดเครื่องเล่น รวมทั้งพวกห้องน้ำสาธารณะให้มีความสะอาด น่าใช้ และปลอดโรคอีกด้วย
   
ด้าน นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษก คร. ในฐานะผู้อำนวยการสำนักโรคอุบัติใหม่  กล่าวว่า ยืนยันว่าเชื้อไวรัสมือเท้าปากที่พบ ณ ขณะนี้ไม่ใช่เชื้อสายพันธุ์ใหม่ ไม่พบการกลายพันธุ์ แต่เป็นกลุ่มเชื้อไวรัสที่อยู่ในธรรมชาติและหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงการระบาดไปทุกปี ส่วนที่พบในเด็กชั้นประถมที่อายุต่ำกว่า 12 ปีป่วยนั้นก็เป็นเรื่องปกติ เพราะตามหลักเกณฑ์การป่วยจะพบในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี และพบการระบาดมากสุดในกลุ่มเด็กต่ำกว่า 5 ปี อย่างไรก็ตาม สำหรับโรงเรียนที่ปิดทำการเรียนการสอนชั่วคราว หลังจากพบเด็กนักเรียนป่วยนั้น ขอชื่นชม เพราะการดำเนินการดังกล่าวจัดเป็นการสกัดกั้นการระบาดที่ดีที่สุด
  
นพ.รุ่งเรืองกล่าวอีกว่า ส่วนบางโรงเรียนที่เคยปิดทำความสะอาดแต่ยังพบเด็กป่วยอยู่ ก็ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของ สธ. ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ คือทุกเช้าก่อนเข้าเรียนให้มีการตรวจกระพุ้งแก้มเด็ก ก่อนเข้าเรียนว่ามีบาดแผล หรือมีไข้หรือไม่ ซึ่งจะช่วยคัดกรองได้ทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ระบาดของโรคมือ เท้า ปาก พบผู้ป่วย 13,918 คน ถือว่าอยู่ในช่วงระบาดสูงสุด แต่เชื่อว่าจะระบาดต่อเนื่องอีก 4-6 สัปดาห์ จากนั้นอัตราการป่วยจะค่อยๆ ลดลง ขอประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก อยู่ที่การป้องกัน โดยผู้ปกครองหมั่นสังเกตบุตรหลานหากมีไข้สูงเกิน 3 วัน คลื่นไส้ มีตุ่มน้ำตามฝ่ามือ เท้า ควรพบแพทย์ทันที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น