กทม.เปิดรับคำร้องเพิ่มเติม5รายการไม่กำหนดกรอบเวลา

วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม 2555 เวลา 16:15 น.

กทม.เปิดรับคำร้องเพิ่มเติม 5 รายการ ไม่กำหนดกรอบเวลา "ธีระชน" จี้รัฐบาลอนุมัติเงินเยียวยาน้ำท่วม 20,000 บาททุกหลัง พร้อมเงินอีก 3 รายการ ให้เท่าเทียมกับจังหวัดอื่น

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (16 ก.ค.) นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า กทม.ได้รับหนังสือจากปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 13 ก.ค. เห็นชอบให้กทม.ขยายเวลารับคำร้องผู้ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ที่ยังไม่ได้ยื่นคำร้อง โดยไม่ได้กำหนดกรอบเวลา จึงได้มอบหมายให้สำนักงานเขตทั้ง 36 เขตที่ประสบภัยน้ำท่วม รีบแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบ ซึ่งหนังสือดังกล่าวได้รับการตอบกลับมาหลังจากที่กทม.ได้ทำหนังสือสอบถามไปเมื่อวันที่ 12 ก.ค.ถึงอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อขอให้นำเรื่องเข้าสู่คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเปิดรับคำร้องเพิ่มเติม ขอให้ความช่วยเหลือบ้านที่เสียหายบางส่วน 20,000 บาททุกราย และพิจารณาช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 3 รายการ ได้แก่ ค่าเครื่องครัว ค่าเครื่องนุ่งห่มและค่าเครื่องนอน เช่นเดียวกับจังหวัดอื่น รายละ 8,500 บาท ทั้งนี้ที่ผ่านมามีประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพฯ ยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยารวม 118,000 ราย กรุงเทพมหานครได้ตรวจสอบความถูกต้องแล้ว มีผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือที่ไม่ยื่นซ้ำซ้อนทั้งหมด 110,061 ราย ซึ่งกรุงเทพมหานครได้เบิกจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วทุกราย

ทั้งนี้ขอให้ครม.เร่งพิจารณาอนุมัติเงินเยียวยา 20,000 บาททุกครัวเรือน และช่วยเหลืออีก 3 รายการ ให้คนกรุงเทพฯ อย่างเท่าเทียมกับจังหวัดอื่นๆ ด้วย และให้โอนเงินมาให้กทม.อย่างเร็ว ไม่ล่าช้าอย่างที่ผ่านมา ซึ่งหากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กรุงเทพมหานครเสนอ จะสามารถจ่ายเงินสมทบให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมเต็มจำนวน 20,000 บาททุกราย คาดว่าจะใช้งบประมาณเพิ่มเติมอีกประมาณ 300 ล้านบาท ส่วนเงินช่วยเหลือค่าเครื่องครัว เครื่องนุ่งห่ม และเครื่องนอน จะใช้งบประมาณเพิ่มเป็นเงินประมาณ 900 ล้านบาท ทั้งนี้ตนได้รับแจ้งว่าในวันที่ 17 ก.ค. คนในเขตบางเขนจะเดินทางไปประท้วงของรับเงินเยียวยาน้ำท่วม 20,000 บาทที่สำนักงานเขต ตนไม่อยากให้ประชาชนต้องมาประท้วง เพราะ กทม.ได้ดำเนินการเร่งรัดรัฐบาลให้แล้ว ซึ่งจริงๆแล้วเรื่องนี้เป็นภารกิจของปภ.โดยตรง กทม.ตัวกลางที่เข้ามาช่วยเท่านั้น หรือไม่เช่นนั้นปภ. ก็ควรนำเรื่องไปดำเนินการเอง เพื่อความเท่าเทียมของประชาชน