วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สรุปข่าวที่น่าสนใจ เมื่อ 11 ก.พ.58



สรุปข่าวที่น่าสนใจ
ผัดฟ้องฝากขัง 2 ผู้ต้องหาคดีหมิ่นแถลงการณ์ปลอม
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีของนายกฤษณ์ บุดดีจีน สมาชิกแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จ.เพชรบูรณ์ ที่โพสต์แถลงการณ์สำนักพระราชวังฉบับที่ 13 ปลอม หลังจากนั้นนายวิญญัติเผยว่า เบื้องต้นศาลทหารรับคำร้องที่พนักงานสอบสวนยื่นเรื่องขอฝากขังนายกฤษณ์ เนื่องจากเห็นว่าทางพนักงานสอบสวนต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก และตรวจสอบทางด้านเทคนิค ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลา ศาลพิจารณาแล้วให้ฝากขังผัดแรกระหว่างวันที่ 10-21 ก.พ. เป็นระยะเวลา 12 วันที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยทนายความไม่ได้ยื่นเรื่องเพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว เพราะมีปัญหาเรื่องเอกสารไม่สมบูรณ์ แต่หากพร้อมเมื่อใดจะรีบดำเนินการยื่นต่อศาลขอปล่อยตัวชั่วคราวทันทีโดยไม่ต้องรอให้ครบ 12 วัน
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  วันที่ 11/02/2015
ผบช.น.เร่งคดี! ไปป์บอมบ์อืด
พล.ต.ท.ศรีวราห์  รังสิพราหมณกุล  ผบช.น. กล่าวว่า  ขณะนี้คดีคืบหน้าค่อนข้างเยอะ สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องกับคดีไปหลายปากแล้ว เป็นข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยและผู้ต้องหาที่ออกหมายจับตามภาพกล้องวงจรปิด ส่วนที่มีข้อมูลว่า คนร้ายเดินทางมาจากปริมณฑลขณะนี้ตรวจสอบเพิ่มเติมอยู่ แต่ไม่เหมาะที่จะเปิดเผย การแจ้งเบาะแสคนร้ายขณะนี้พอมีแต่ไม่ได้ประโยชน์มาก การตรวจสอบข้อมูลกับฐานข้อมูลคดีเก่ายังคงต้องรอกองพิสูจน์หลักฐาน เมื่อถามถึงกรณีมีทหารพรานฉายาดราก้อนเกี่ยวข้องด้วย พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า มีการดำเนินการในคดีที่เกี่ยวเนื่องขออนุมัติศาลออกหมายจับ แต่บางส่วนยังไม่ให้ ส่วนการตรวจสอบเส้นทางหลบหนีเพิ่มเติมจากจุดที่พบครั้งสุดท้ายตรงข้ามห้างมาบุญครองขณะนี้ไปไกลกว่านั้นมากแล้ว มีภาพชัดเจน แต่อยู่ในสำนวนยังเปิดเผยไม่ได้ ส่วนการออกหมายจับเพิ่มเติมอยู่ระหว่างดำเนินการ ภาพจากกล้องวงจรปิดมีเพียงผู้ต้องสงสัย 2 คน ชื่อยังไม่ได้ระบุลงไปเพราะต้องชัดเจนกว่านี้ จึงจะขออนุมัติหมายจับศาลเพิ่มเติมได้ ส่วนเป็นอดีตทหารหรือไม่ คงพูดแบบนั้นไม่ได้ แต่คดีมีคืบหน้าไปแล้วกว่า 70 เปอร์เซ็นต์
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  วันที่ 11/02/2015
ทภ.3 ชี้แค่ รปภ. อดีตนายกปัดค้นรถปูรีบขอโทษ ยันให้เกียรติ
พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  กล่าวถึงกรณีมีทหารเข้าตรวจค้นรถยนต์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่จ.เชียงใหม่ ว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบ เดี๋ยว จะสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องดู  คงไม่มีอะไร เขาคงเป็นกังวล ก็คงไม่มีอะไร เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจรถทุกคัน มันก็ต้องตรวจ ซึ่งบังเอิญเจอรถอดีตนายกฯ พอดี เจอแล้วเขาคงไม่ค้นต่ออะไรมากมาย อยู่แล้ว จะไปค้นอะไรกันนักหนา   เมื่อถามว่า มีการมองว่าการกระทำดังกล่าวเหมือนไม่ให้เกียรติอดีต นายกฯ  พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ให้เกียรติมาโดยตลอด นี่ก็ให้เกียรติ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม กล่าวถึงทหารตรวจขบวนรถของน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ จ.เชียงใหม่ว่า ไม่ได้ตรวจค้นหรือควบคุมตัว แต่เจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องการรักษาความปลอดภัย ขอยืนยันเจ้าหน้าที่ไม่มีความคิดจะทำอย่างนั้น แต่การดำเนินการดังกล่าวเพราะกลัวมือที่สามจะมาทำให้เกิดความเสียหาย และถ้าหนักหนาอะไรตนจะพิจารณาอีกที   เมื่อถามว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์รู้สึกไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า  แม่ทัพภาคที่ 3 คงจะขยับขยายจุดตรวจ ดังกล่าวแล้ว จะติดตามดูอีกที ยืนยันไม่ใช่คำสั่งของคสช. เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ คสช.ดูแลในภาพรวม ตลอดจนการรักษาความปลอดภัยบุคคลระดับวีไอพี  (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)  
พล.ท.สาธิต  พิธรัตน์  แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ขอยืนยันว่าทหารไม่ได้ตรวจค้นรถของอดีตนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด เพียงแต่ทางทหารของมณฑลทหารบกที่ 33 (มทบ.33) ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 5 ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดยตั้งจุดตรวจจุดสกัดดูแลความมั่นคงเท่านั้น
พล.ต.ธนา จารุวัต โฆษกกองทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า การตรวจค้นรถของ น.ส.ยิ่งลักษณ์และผู้ติดตาม เป็นการตั้งด่านลอยเพื่อตรวจค้นตามปกติ ไม่ได้เจาะจงเฉพาะรถ น.ส.ยิ่งลักษณ์เพียงคันเดียว ยอมรับว่าช่วงนี้มีความเคลื่อนไหวทางการเมือง จึงค่อนข้างเข้มงวดเพื่อป้องกันการก่อเหตุวางระเบิดอย่างที่สยามพารากอน กรุงเทพฯ ได้ ดังนั้นทหารกองทัพภาคที่ 3 โดยมณฑลทหารบกที่ 33 กองพันทหารราบที่ 7 และกองพลพัฒนาที่ 3 จึงร่วมกับตำรวจ จ.เชียงใหม่ ตั้งด่านลอยในพื้นที่ถนนสายหลักหลายอำเภอของ จ.เชียงใหม่ เพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ตรวจค้นอาวุธและยาเสพติด ซึ่งเป็นการตั้งด่านตามปกติ
พล.ต.ศรายุธ รังษี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 (ผบ.มทบ.33) กล่าวว่า ทหารไม่ได้ตรวจค้นรถ น.ส.ยิ่งลักษณ์เพราะให้เกียรติ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยเมื่อเข้าพื้นที่ แต่ยอมรับว่ามีการตรวจค้นรถในขบวน แต่ไม่ได้แตะต้องรถอดีตนายกรัฐมนตรีเลย รวมทั้งการจัดรถทหารตามประกบก็เป็นเพียงการดูแลรักษาความปลอดภัยเมื่อมีบุคคลระดับวีไอพีเข้าพื้นที่เท่านั้น  (หนังสือพิมพ์มติชน)   
ปปช.ยื้ออีก คดีสลายม็อบ “99ศพ
นายปานเทพ  กล้าณรงค์ราญ  ประธานป.ป.ช.  กล่าวภายหลังการประชุมว่า  ที่ประชุมป.ป.ช.ยังไม่มีมติว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาคดีถอดถอนทั้งสามคนหรือไม่ เนื่องจากข้อเท็จจริงยังไม่สมบูรณ์เพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ และยังมีกรณีต้องพิจารณาข้อกฎหมายตามพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 17 จึงให้เจ้าหน้าที่ไปสรุปสำนวนเสนอให้องค์คณะป.ป.ช. พิจารณาอีกครั้งในวันที่ 24 ก.พ.นี้ เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ในวันที่ 26 ก.พ. ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดีอาญาการสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช.นั้น ขณะนี้ข้อมูลและ ข้อเท็จจริงยังไม่สมบูรณ์เพียงพอที่จะนำมาพิจารณาได้ ต้องรอการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมก่อน
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ข่าวสด  วันที่ 11/02/2015
โผล่ไหว้บรรพบุรุษ ยิ่งลักษณ์เจอทหาร ตร.ค้นรถ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 10 ก.พ. น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร อดีตนายกฯ มีกำหนดการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษ ที่วัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยระหว่างที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมผู้ติดตาม นั่งรถโฟล์กตู้ ทะเบียน กธ 77 เชียงใหม่ เดินทางไปทำบุญ ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจตั้งจุดตรวจที่บริเวณหน้าหมู่บ้าน และขอทำการตรวจค้นรถยนต์ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจเปิดกระจกให้ตรวจค้นแต่โดยดี หลังจากนั้น อดีตนายกฯเดินทางไปวัดโรงธรรมสามัคคีและเยี่ยมชมตลาดสันกำแพง โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงตามประกบความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์เดลินิวส์  วันที่ 11/02/2015
ชงปปง.เช็กบัญชีหัสดิน
พล.ต.ท.ประวุฒิ  ถาวรศิริ  ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร.  กล่าวว่า   จากการสืบสวนทราบว่าเป็นหัวหน้าขบวนการที่ใหญ่ที่สุดในเครือข่ายบรรพต และเป็นผู้ใช้นามแฝง บรรพต จริงโดยเป็นการขยายผลจากที่ก่อนหน้านี้ ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายนี้ได้ 6 คน และทุกคนให้การยืนยันว่า นายหัสดิน  เป็นระดับผู้สั่งการ แต่ทางตำรวจยังไม่พบการกระทำผิดที่เชื่อมโยงกับกลุ่มใด  หลังจากนี้จะประสานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)  เพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของเครือข่ายดังกล่าว พร้อมทั้งติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์เดลินิวส์  วันที่ 11/02/2015
นัดฟ้อง ยิ่งลักษณ์” 19 ก.พ.
นายปานเทพ  กล้าณรงค์ราญ  ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  กล่าวถึงความคืบหน้าการส่งหนังสือเรียกตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร  อดีตนายกฯ ที่ถูกชี้มูลความผิดคดีอาญา กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวให้แก่อัยการสูงสุด (อสส.)  เพื่อดำเนินการส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า ในวันนี้ (10 ก.พ.)  เลขาธิการ ป.ป.ช. ได้ส่งหนังสือให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์  เพื่อให้ไปรายงานตัวต่อ อสส. ในวันที่ 19 ก.พ. นี้ เวลา 10.00 น. เพื่อนำตัวส่งฟ้องต่อศาลฎีกาฯ

อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ  วันที่ 11/02/2015

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น