วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ทหารเรือจับผู้ต้องหายาบ้าชาวลาว จมน้ำโขงหายลึกลับ เจ้าหน้าที่-ชาวบ้านระดมกำลังค้นหา




เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2555  เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) สถานีเรือเชียงคาน  เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากชม  อ.ปากชม จ.เลย  พร้อมด้วยชาวบ้าน ระดมกำลังค้นหา   จ.อ.จำรัส  จวงสอน  ทหารเรือสังกัด นรข. ที่จมน้ำ แม่น้ำโขงหายไประหว่างการเข้าจับกุมชาวลาวที่กำลังนำยาบ้าเข้ามาในราชอาณาจักร บริเวณริมแก่งฟ้า ท้องที่  บ.หาดเบี้ย หมู่ 7 ต.ปากชม อ.ปากชม จ.เลย  เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.  วันที่ 3 มิถุนายน 2555  โดยการอำนวยการของ   น.อ.สมประสงค์  วิศลดิลกพันธ์  ผบ.นรข.เขตหนองคาย  พ.ต.อ.สาโรช  ขวัญบุญจันทร์  ผกก.สภ.ปากชม  พ.ต.ท.อุตส่าห์  อุ่นแก้ว  ผบ.ร้อย ตชด.246   พ.ต.ท.จีระ  ยาฟอง  สว.สรน.4  กก.11 บก.รน. พ.อ.โฆษิตพงษ์  นิลเอก  ผบ.หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 21
                                                 จ.อ.จำรัส จวงสอน
เหตุดังกล่าว สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สถานีเรือเชียงคานได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีผู้ค้ายาบ้าจากฝั่ง  สปป.ลาว  จะลักลอบนำยาบ้าไปส่งให้กับผู้สั่งซื้อที่ริมแม่น้ำโขงบริเวณริมแก่งฟ้า ท้องที่  บ.หาดเบี้ย หมู่ 7 ต.ปากชม อ.ปากชม จ.เลย จึงได้รายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบ ต่อมา  นาวาตรีคงกฤช  หอมตลบ  หัวหน้าสถานีเรือเชียงคาน  จึงได้สั่งการให้นำกำลังไปสนธิกับเจ้าหน้าที่เข้าดักซุ่มบริเวณที่ได้รับแจ้ง
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. กำลังจำนวน  5  นาย ประกอบด้วย  ร.ต.ต.พีระศักดิ์  โสมพันธ์ เป็น หน.ชุดจับกุม /ดักซุ่ม จ.อ.จำรัส  จวงสอน  ทพ.ภาคภูมิ  เหล่าสุวรรณ  ทพ.สมพงษ์  ศรีบุญ  ทพ.อุดร  ถิ่นสำโรง  ดักซุ่มที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงที่เกิดเหตุ กำลังที่เหลือเป็นกำลังสนับสนุนอยู่ที่ ชุดทหารพราน  บ.หาดเบี้ยฯ จนถึงเวลาประมาณ  15.00 น. ได้มีชายสองคนขับเรือหางยาวแล่นมาจาก บ้านวัง ฝั่ง สปป.ลาว เข้ามาจอดเทียบท่าที่ฝั่งไทยบริเวณที่เกิดเหตุ  จากนั้นได้มีชายหนึ่งคนทราบชื่อภายหลังว่า ท้าวบุญเพ็ง ไชยสอน  ได้ลงจากเรือพร้อมกับถือถุงพลาสติกใสภายในมีถุงพลาสติกสีฟ้าบรรจุอยู่  เจ้าหน้าที่ที่ดักซุ่มอยู่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการควบคุมเพื่อขอตรวจค้น  และได้เกิดการยื้อแย่งถุงพลาสติกที่ท้าวบุญเพ็งถืออยู่จึงทำให้ถุงพลาสติกฉีกขาด  ทำให้ถุงพลาสติกสีฟ้าตกลงไปในน้ำโขง  จากนั้นชายคนดังกล่าวได้กระโดดลงน้ำโขงไป  เจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปและสามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้

ส่วนชายอีกรายหนึ่งที่อยู่บนเรือได้นำเรือออกจากฝั่งไทยเพื่อหลบหนี  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจำนวนสองนายมี จ.อ.จำรัส  จวงสอน  สังกัดสถานีเรือเชียงคาน และ ทพ.ภาคภูมิ  เหล่าสุวรรณ  สังกัด ร้อย ทพ.ที่ 2108  ได้กระโดดลงน้ำโขงว่ายน้ำไล่ติดตามไป  โดยที่ ทพ.ภาคภูมิได้ถืออาวุธปืน M 16 ซึ่งเป็นอาวุธปืนประจำกาย ลงไปด้วย และสามารถเอามือไปเกาะที่กาบเรือหางยาวของผู้ต้องหาไว้ได้ แต่ผู้ต้องหาได้พยายามนำเรือจะข้ามไปยังฝั่ง  สปป.ลาว ให้ได้จนถึงร่องน้ำลึก เจ้า
หน้าที่ทั้งสองนายได้ขึ้นบนเรือแล้วเข้าทำการจับกุม  แต่ผู้ต้องหาขัดขืนต่อสู้ทำให้เรือพลิกคว่ำจมลง  ซึ่งบริเวณดังกล่าวน้ำในแม่น้ำโขงไหลเชี่ยวมาก  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่เหลือได้นำเรือหางยาวที่จอดอยู่ใกล้กับบริเวณที่เกิดเหตุออกไปช่วย ทพ.ภาคภูมิ  เหล่าสุวรรณ  เอาไว้ได้  ส่วนอาวุธปืนได้จมหายไปในแม่น้ำโขง   ขณะที่ จ.อ.จำรัส  จวงสอน  ได้จมน้ำหายไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจบริเวณที่เกิดเหตุ  พบ
ถุงพลาสติกสีฟ้าตกอยู่ในน้ำริมฝั่งแม่น้ำโขง  เจ้าหน้าที่จึงได้นำมาเปิดดูพบว่าภายในบรรจุยาบ้าอยู่จำนวน 6 ถุง เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดเอาไว้เป็นของกลาง  จากนั้นได้นำเรือออกหาร่างของ จ.อ.จำรัส  จวงสอน แต่ไม่พบ จนถึงเวลาประมาณ 21.00 น. จึงได้ยุติการค้นหา  ส่วนผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำไปที่  สภ.ปากชม แล้วได้นำยาบ้าออกมานับต่อหน้าท้าวบุญเพ็ง  ไชยสอน ได้จำนวน 670 เม็ด และที่เปียกน้ำ  น้ำหนัก  40 กรัม จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาท้าวบุญเพ็ง ไชยสอน  ร่วม
กันลักลอบนำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า) เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย   มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย  เป็นคนต่างด้าวสัญชาติลาว เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ผ่านช่องทาง ท่าข้าม เขตท่าสถานีที่กำหนด โดยได้นำตัวท้าวบุญเพ็ง ไชยสอน


ส่วนการค้นหา จ.อ.จำรัส  จวงสอน  เจ้าหน้าที่ได้
เริ่มค้นหาในช่วงเช้าวันที่นี้ (4 มิ.ย.55)  โดยร่วมกับชาวบ้าน  ขณะเดียวกันมีแม่ และภรรยา พร้อมญาติของ จ.อ.จำรัส เดินทางมาจากจังหวัดนครปฐม และจังหวัดหนองคาย มาช่วยค้นหาด้วย โดยได้ร้องไห้และเรียกหาชื่อเล่นของ จ.อ.จำรัสตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่า  จ.อ.จำรัส  อาจยังมีชีวิตอยู่ โดยได้รับบาดเจ็บสาหัส  อยู่ในฝั่ง สปป.ลาว ตรงข้าม อ.ปากชม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ทางการลาว ติดตามค้นหาตัว จ.อ.จำรัส กลับมาประเทศไทยต่อไป.

1 ความคิดเห็น:

  1. "ตายในสนามรบเป็นเกียรติของทหาร" หลับให้สบายเถอะน้องรัก
    ............navy'33............

    ตอบลบ