วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ทัพเรือส่งเครื่องบิน ตรวจเรือประมงเวียดนาม รุกเขตไทย 27.มิ.ย.55




ทัพเรือส่งเครื่องบิน-ตรวจเรือประมงเวียดนาม-รุกเขตไทย

ทัพเรือส่งเครื่องบิน ตรวจเรือประมงเวียดนาม รุกเขตไทย

ชลบุรี 27 มิ.ย.- เรือประมงไทยร้อง พบเรือประมงเวียดนามยึดน่านน้ำไทยทำประมง ทัพเรือภาคที่ 1 ส่งเครื่องบินตรวจสอบพบหลายลำ ส่งเรือหลวงสู้ไพรินทร์ ออกตรวจสอบจับกุมได้ 2 ลำ

เจอคลื่นใหญ่ซัดจม 1 ลำ เร่งช่วยชีวิตลูกเรือ 8 คน รอดชีวิต พบจับงูทะเลมีชีวิตขัง ไปทำยาโด๊ป นำเข้าท่าเรือทหาร ส่งดำเนินคดี
เรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อ วันที่ 27 มิถุนายน 2555 พลเรือโท ชุมพล วงศ์เวคิน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1(ผบ.ทรภ.1) ได้รับแจ้งจาก นายกสมาคมประมงจังหวัดระยอง ทางวิทยุมดดำเครือข่ายทัพเรือภาคที่ 1 จากเรือประมงชื่อ พรมาลี 17 ว่าได้พบเรือประมงชาวเวียดนาม ประมาณ 10 ลำ ทำการประมงอยู่บริเวณห่างจากเกาะจวง แสมสาร สัตหีบ ไปทางด้านทิศใต้ ประมาณ 70 ไมล์ทะเล จึงได้ส่งเครื่องบิน ดอร์เนี่ย 228 หมายเลข 1115 ออกจากฝูงบิน 104 ไปตรวจสอบในพิกัดที่ได้รับแจ้ง พบเรือประมงสัญชาติเวียดนาม ลอยลำหาปลาอยู่ จำนวน 7 ลำ จริง จึงได้แจ้งพิกัดให้กับศูนย์ปฎิบัติการทัพเรือภาคที่ 1 ทราบ พร้อมสั่งการให้ นาวาตรี พงศ์นที อินทรบุญ ผู้บังคับการเรือหลวงสู้ไพรินทร์ เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกับ เรือตรวจการณ์ หมายเลข 14 (ต.14)
จากการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวพบว่ามีเรือประมงอยู่ 2 ลำ ห่างกันประมาณ 20 ไมล์ทะเล จึงได้เข้าทำการจับกุมเรือประมงชาวเวียดนาม หมายเลข CM 9110 TS ยาว 7 วา 2 ศอก สีน้ำเงิน ได้ 1 ลำ และเข้าทำการจับกุมเรืออีก 1 ลำปรากฎว่าขณะที่นำพาเรือเดินทางกลับเข้ามาที่ท่าเรือกองเรือยุทธการ สัตหีบได้เกิดลมและคลื่นใหญ่ ทำให้เรือประมงจมไป 1 ลำ จึงได้เร่งให้กำลังพลประจำเรือ พร้อมลูกเรือเร่งช่วยชีวิตลูกเรือชาวเวียดนามไว้ได้ 8 คน เดินทางเข้ามาส่งให้ พล.ร.ต.ไชยณรงค์ ขาววิเศษ เสนาธิการ ทัพเรือภาคที่ 1 และนายทหารรัฐธรรมนูญ เพื่อทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริง พร้อมตรวจสอบเอกสาร อาวุธ และอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารภายในเรืออย่างละเอียด เพื่อสำนำส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ ดำเนินคดีต่อไป และพบภายในถึงพลาสติกมีงูทะเล จำนวนหลายตัวที่ยังมีชีวิตขังอยู่ ทราบว่าจะนำไปดองทำยาโด๊ป
พล.ร.ท.ชุมพล วงศ์เวคิน ผบ.ทรภ.1 เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจากชาวประมงในหลายพื้นที่ว่า มีเรือประมงชาวเวียดนามเข้ามาในน่านน้ำไทย ยึดพื้นที่ และแย่งทำการประมงจำนวนมาก จึงได้สืบสวนหาข่าวด้วยการอบรม และสร้างเครือข่ายวิทยุมดดำประมงร่วมกับทัพเรือภาคที่ 1 จนได้รับแจ้งจากชาวประมงในเครือข่ายว่ามีเรือประมงหลายลำเข้ามาทำการประมง จึงได้สั่งการให้เครื่องบินออกตรวจสอบเพื่อหาพิกัด พร้อมสั่งเรือให้ออกไปดำเนินการจับกุม สาเหตุที่จับได้เพียง 2 ลำ เพราะเรือประมงจะทำการประมงห่างกันลำละประมาณ 20-30 ไมล์ทะเล เมื่อถูกจับกุมก็จะวิทยุแจ้งให้พวกเดียวกันทราบ เพื่อหลบหนีออกไปให้พ้นพิกัดที่เรือรบไปจับกุม ทำให้ยากต่อการติดตาม
พล.ร.ท.ชุมพล กล่าวอีกว่า สำหรับเรือที่จมไป 1 ลำ ขณะนำเข้ามายังท่าเรือสัตหีบ นั้น เนื่องจากขณะนี้ในทะเลมีคลื่น ลมแรงมาก คลื่นใหญ่ได้ซัดประทะเรือทำให้น้ำเข้าเรือ ไม่สามารถดูดน้ำออกได้ทัน เรือจึงจม แต่ นาวาตรี พงศ์นที อินทรบุญ ผู้บังคับการเรือหลวงสู้ไพรินทร์ พร้อมประจำเรือได้นำเครื่องชูชีพ และอุปกรณ์ช่วยชีวิต ช่วยชีวิตลูกเรือประมง จำนวน 8 คน ไว้ได้ทัน จึงได้ให้เรือ ตรวจการณ์ 219 (ต.219)ไปรับลูกเรือและนำเรือเข้ามาส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และจะดำเนินการกวดขันจับกุมเรือประมงเวียดนามที่เข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำไทยที่ยังเหลืออีกจำนวนมากต่อไป

วันที่โพสต์ : 27 มิถุนายน 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น