วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558

"แค่อ่านไม่เก่ง" ป.1 เจอครูหวดหลังแดงเถือก เมื่อ 9 มี.ค.58



"แค่อ่านไม่เก่ง" ป.1 เจอครูหวดหลังแดงเถือก
 
วิจารณ์แซ่ดกระหึ่มเน็ต ภาพเด็ก ป.1 วัย 6 ขวบ ถูกครูโรงเรียนดังคุมอารมณ์ไม่อยู่ คว้าไม้ฟาดหลังไม่ยั้งจนแดงเถือก ระบุ "แค่อ่านหนังสือไม่คล่อง" ด้าน "ผู้บริหาร" ฉุนขาด สั่งไล่ออกแล้ว เผยเป็นครูมีความรับผิดชอบดี แต่คาดหวังมากเกินไปเมื่อวันที่ 9 มี.ค. เครือข่ายสังคมโซเชียลมีเดียต่างแห่เข้าไปกดไลค์ และส่งต่อรูปภาพจำนวน 2 รูป จากเพจเฟสบุ๊กชื่อว่า "กวดวิชา เตรียมทหาร" 

ซึ่งเป็นภาพเด็กชายคนหนึ่งยืนหันหลังให้กล้อง แต่สิ่งที่น่าตกใจคือแผ่นหลังของเด็ก มีรอยฟกช้ำสีแดงผสมอมสีเขียว พร้อมระบุข้อความว่า "วันนี้..ลูกชายวัย 6 ขวบ อยู่ชั้น ป.1 ถูกครูที่โรงเรียนตีหลังมาสภาพแย่มาก..(เหตุผลเพราะอ่านหนังสือไม่ค่อยได้) ซึ่งคนเป็นแม่อย่างเราเห็นแล้วรับไม่ได้เลย มันเจ็บปวดมาก...มากจนไม่รู้จะพูดอย่างไรดี น้ำตาแห่งความเสียใจมันไหลไม่หยุด ถ้าเลือกได้ก็อยากจะเจ็บแทนลูกซะเอง พาลูกไปหาหมอ หมอบอกว่า แผลที่ร่างกายเด็กรักษาหายได้ แต่แผลที่จิตใจเด็กที่ถูกทำร้ายโดนครูท่านนี้ มันยากที่จะหาย บาดแผลนี้มันจะติดที่...หัวใจ..ของน้องตลอดไป"
ภายหลังเกิดกระแส วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อการกระทำของครู ส่วนใหญ่ แสดงความคิดเห็นว่า เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุมาก เด็กเพิ่งจบมาจากชั้น อ.3 ทำไมต้องลงโทษรุงแรงขนาดนี้ แค่ยังอ่านหนังสือไม่คล่องแคล่วเท่านั้น รวมทั้งอยากให้ครูคนดังกล่าวออกมาชี้แจงและรับผิดชอบ
ต่อมา ผู้สื่อข่าว "เดลินิวส์ออนไลน์" ได้สอบถามกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้ไปยัง คณะผู้บริหารของโรงเรียน 
กระทั่งทราบว่าเป็นโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยได้รับคำตอบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มี.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของภาคเรียน หลังจากทราบเรื่องทั้งหมด ผู้บริหารไม่ได้นิ่งนอนใจตามที่ชาวเน็ตกล่าวอ้าง ได้เร่งดำเนินการแก้ไขแล้ว ผลสรุปของการลงโทษคือ ให้สิ้นสภาพความเป็นครูอาจารย์ เพราะถือว่าทำผิดวินัยร้ายแรง ส่วนที่แจ้งความไว้ค่อยหารือพูดคุยกันอีกครั้ง ยอมรับว่าครูคนนี้ทำงานที่นี่ได้ 1 ปี มีความรับผิดชอบสูง แต่อาจคาดหวังกับเด็กมากเกินไป และยับยั้งอารมณ์ไม่ได้ โดยจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ว่า ท่านนายกฯจะคาดหวังว่า เด็ก ป.1 จะต้องอ่านออก เขียนได้ แต่ก็คงไม่ต้องเข้มงวดกันถึงขนาดนี้..
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น