วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ข่าวหนังสือพิมพ์ วันพฤหัสบดี ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2557

ข่าวหนังสือพิมพ์ วันพฤหัสบดี ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2557


สรุปข่าวที่น่าสนใจ
รมต.เผยข่าวกรองน่าเป็นห่วงคลื่นใต้น้ำป่วน
นายสุวพันธุ์  ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงกรณีรัฐบาลอาจใช้มาตรา 44 รัฐธรรมนูญชั่วคราวกับกลุ่มที่เคลื่อนไหวว่า  หน่วยงานความมั่นคงรายงานพบการเคลื่อนไหวกลุ่มต่างๆ มีลักษณะนัดชุมนุม เผยแพร่ข้อมูลลักษณะยุยงให้เกิดความเข้าใจผิด เกลียดชัง ทั้งเรื่องการเมืองและสถาบัน รวมทั้งช่วงนี้เข้าสู่ขั้นตอนการปฏิรูป ต้องจัดตั้งกลุ่มต่างๆนัดพูดคุย รวมถึงการชุมนุมของประชาชนจากความเดือดร้อนต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงกังวลพร้อมสั่งให้ติดตามสถานการณ์ เร่งทำความเข้าใจ โดยเฉพาะความไม่สงบที่แสวงหาผลประโยชน์จากการชุมนุมที่บริสุทธิ์ใจ รัฐบาลไม่อยากให้เกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่ใช้มาตรา 44 ทันที แต่จะเริ่มจากเบาไปหาหนักตามกรอบกฎอัยการศึก และทำความเข้าใจกันก่อน แต่ถ้าต้องทำอะไรมากกว่านั้น ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์อนาคต ทั้งนี้มุมมองที่ทำงานข่าวกรองมาก่อน ต้องติดตาม ประเมินลักษณะระมัดระวัง และสถานการณ์ขณะนี้ทุกการเคลื่อนไหวน่าเป็นห่วงหมด เชื่อมโยงหลายเรื่องได้รวมถึงสถาบันหลัก
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ   วันที่ 06/11/2014
จับโอเกะค้ากามบังคับ 17 สาวลาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่  4 พ.ย. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วยตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ปคม.) กว่า 20 นาย นำโดย พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง ผบก.ปคม.  บุกทลายซ่องใน อ.ดอนตูม จ.นครปฐม เปิดเป็นร้านคาราโอเกะบังหน้า ด้านหลังเปิดค้าประเวณีให้หนุ่มนักเที่ยวกลัดมัน ช่วยชีวิตแม่หญิงลาวพ้นขุมนรกได้ 23 คน มีผู้อายุต่ำกว่า 18 ปี ถึง 14 คน แถมยังมีเด็กหญิงรวมอยู่ด้วย แฉถูกพ่อเล้าและแมงดาบังคับให้ขายตัว ถ้าไม่ทำตามโดนซ้อมทารุณ  (นังสือพิมพ์ไทยรัฐ)    ต่อมา  พล.ต.ต.วิรัช วัชรขจร รอง ผบช.ภ.7 รักษาราชการแทนพล.ต.ท.วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.7 ได้ออกคำสั่งเลขที่ 1414/2557 ให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร ภาค 7 มีกำหนด 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.57 เป็นต้นไป จำนวน 3 นาย 1.พ.ต.อ.บุญเลิศ บวรมหาชนก ผกก.สภ.ดอนตูม จ.นครปฐม 2.พ.ต.ท.ธานี สงวนจีน รอง ผกก.ป สภ.ดอนตูม จ.นครปฐม 3.พ.ต.ท.ประทีป พันธ์หว้า รอง ผกก.สส. (หนังสือพิมพ์ข่าวสด
ไปลอยกระทงจงระวัง 4 ท่าน้ำ
พล.ต.ต.อดุลย์  ณรงค์ศักดิ์  รอง ผบช.น.และโฆษก บช.น.  กล่าวว่า ปีนี้มีสถานที่จัดงานลอยกระทง 136 แห่ง ทั่ว กทม. บช.น.ใช้แผนระดมป้องกันปราบปรามอาชญากรรมไว้ ทั้งด้านการป้องกันเหตุประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน การป้องกันอันตรายจากพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง และโคมลอย ขอเตือนประชาชนพ่อแม่ผู้ปกครอง ไม่ควรปล่อยให้เด็กไปเที่ยวงานโดยลำพัง ผู้ใหญ่ไม่ควรแต่งกายด้วยของประดับที่มีค่าหรือนำทรัพย์สินติดตัวไปเป็นจำนวนมาก เพิ่มความระมัดระวังในการใช้บริการของท่าเทียบเรือ โป๊ะเรือ หรือในสถานที่ที่มีประชาชนหนาแน่น   ห้ามประชาชนฝ่าฝืนกฎหมาย เรื่องการเล่นดอกไม้เพลิง พลุ และประทัดและโคมลอย ในลักษณะที่สร้างความหวาดกลัวและก่อความเดือดร้อนรำคาญ ต้องใช้ความระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เด็กเล่นต้องอยู่ในความดูแลของผู้ปกครอง หากเล่นโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 5 พ.ย.  ที่เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ ถนนเจริญกรุง พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.อภิชัย ธิอามาตย์ ผบก.ทท. พร้อมตำรวจ ทหาร ร่วมปล่อยแถวป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม รักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน พร้อมลงเรือตรวจความเรียบร้อยตามโป๊ะ ท่าเรือต่างๆ กวดขันการจำหน่าย การห้ามเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟทุกชนิด กวดขันการตั้งวงดื่มสุรา ที่อาจเป็นสาเหตุให้ทะเลาะวิวาทและก่ออาชญากรรม การพกพาอาวุธ ปล่อยเรือลาดตระเวน ป้องกันอุบัติเหตุทางน้ำ ตรวจสอบความพร้อมของโป๊ะเรือตลอด 2 ฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่ามี 4 ท่าน้ำสภาพชำรุดและไม่เหมาะสมในการลอยกระทง คือ ท่าเรือสวัสดิ์ ท่าเรือวัดแจงร้อน ท่าเรือวัดอรุณฯ และท่าเรือหวั่งหลี จึงให้ประชาชนหลีกเลี่ยง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางน้ำที่อาจเกิดขึ้น
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ   วันที่ 06/11/2014   
เชือด “ปู – 33 อดีตรมต.” ปปช.จ่ออีก สอบเอาผิดคดีย้าย “ถวิล”
รายงานข่าวจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  กล่าวว่า  ป.ป.ช.มีคำสั่งตั้งกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง ลงวันที่ 10 ต.ค. 2557 โดยให้นายวิชัย  วิวิตเสวี เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกฯ เป็นผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ร่วมกับอดีตรัฐมนตรีอีก 33 คน ตามกรณีความผิดตามข้อกล่าวหากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ.2542 มาตรา 66 กรณีย้ายนายถวิล  เปลี่ยยนศรี อดีตเลขาธิการ สมช. ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า หนังสือที่แจ้งไปยังผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 34 คนนั้น ป.ป.ช.ได้ปกปิดชื่อบุคคลร้องเรียนกล่าวหาให้ดำเนินการเอาผิด
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์มติชน   วันที่ 06/11/2014   
“มหัศจรรย์พรรณพืช” คึกคัก เปิดวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ระหว่างวันที่ 6-9 พ.ย.  นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน จัดงาน “มหัศจรรย์พรรคพืชทั่วไทย”  ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 27 ของนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน ทั้งนี้ งานมหัศจรรย์พรรณพืชทั่วไทยจัดที่ห้องบางกอกคอนเวนชั่น ชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว โดยพิธีเปิดเวลา 14.00 น. มี ดร.อภิชาติ  พงษ์ศรีหดุลชัย  ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน  พร้อมด้วยผู้บริหารจากหน่วยงานที่ให้การสนับสนุน
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์มติชน   วันที่ 06/11/2014   
โยก 251 ผู้พัน – เด้งหลานปู
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 5 พ.ย.  พล.อ.อุดมเดช  สีตบุตร  ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกองทัพบกที่ 377/2557  ซึ่งเป็นคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับผู้บังคับกองพันจำนวน 251 นาย ซึ่งการพิจารณาครั้งนี้ได้มีการทบทวนหลายรอบเนื่องจากโผผู้บังคับการกรมที่ผ่านมา ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงกรณีที่มีการตั้งนายทหารใกล้ชิด พล.อ.อุดมเดช  ไปดำรงตำแหน่งสำคัญๆ หรือเรียกว่าเสียบหัว โดยโยกนายทหารที่ไม่ใช่สายตัวเองออกไป จนทำให้มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้มีการพิจารณาโผผู้บังคับกองพันอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบขวัญกำลังใจผู้บังคับหน่วยที่ทำงานตั้งแต่ช่วงการดูแลรักษาความสงบในช่วงการชุมนุม เรื่อยมาถึงการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ทั้งนี้ พล.อ.อุดมเดชได้พิจารณาปรับย้ายนายทหารคุมกำลังทั้งเหล่า ราบ ม้า ปืน สื่อสาร รบพิเศษ ทั่วประเทศ
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์มติชน   วันที่ 06/11/2014   
“ศรีวราห์” จัดหนักจ่อเชือด! 50 ผกก.นครบาล
รายงานข่าว  กล่าวว่า  เมื่อวันที่ 5 พ.ย.  พล.ต.ต.ศรีวราห์  รังสิพราหมณกุล  รรท.ผบช.น.  ได้มีคำสั่ง บช.น.ไปยัง รรท.ผบก.1-9 ให้ตรวจสอบพร้อมกับตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามมาตรา 72 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2557 กรณีผู้กำกับการสถานี (ผกก.สน.)  คนปัจจุบัน และในอดีตมีพฤติการณ์ให้บริษัท เอกชนเข้ามาประกอบธุรกิจหาผลประโยชน์บนที่ราชพัสดุ แต่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือยินยอมและมีหลักฐานเป็นหนังสือยิมยอม แต่ไม่ถูกต้องตามระเบียบทางราชการ โดยมีนายตำรวจระดับ ผกก.สน.ถูกตั้งกรรมการสอบทั้ง 2 กรณีร่วม 50 นาย และมีนายตำรวจระดับ รองผกก. (รองผู้กำกับ) ถึงสารวัตร (สว.) อีกจำนวนหนึ่ง
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์เดลินิวส์   วันที่ 06/11/2014
“สมศักดิ์ – นิคม” ส่อรอด
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ว่า  สำหรับความเคลื่อนไหวของ สนช. ในการประชุมเพื่อรับเรื่องพิจารณาถอดถอนนายสมศักดิ์  เกียรติสุรนนท์ และนายนิคม  ไวยรัชพานิช  กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว. โดยมิชอบ ในวันที่ 6 พ.ย. นั้น มีรายงานว่า หลังจาก สนช.หลายสายได้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นทั้งด้านข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงของสำนวนถอดถอนดังกล่าวแล้วปรากฎว่า ขณะนี้ สนช.ส่วนใหญ่ ทั้งสายทหาร สายข้าราชการมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ไม่ควรรับเรื่องไว้ถอดถอน เนื่องจากเห็นว่าฐานความผิดตามรัฐธรรมนูญปี 2550 ไม่มีผลบังคับใช้แล้ว จึงไม่มีประโยชน์ที่ สนช.จะรับไว้พิจารณา เพราะฐานความผิดยังไม่ชัดเจน การไม่รับเรื่องเป็นแนวทางที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังไม่อยากสร้างเงื่อนไขกระทบต่อแนวทางสร้างความปรองดองของรัฐบาลขณะที่ สนช.สายทหารบางส่วนยังมีความลังเลเรื่องข้อกฎหมายโดยเกรงว่า อาจจะมีปัญหาถูกฟ้องร้องตามมาในภายหลัง จึงอาจใช้สิทธิลงมติงดออกเสียง ส่วนกลุ่ม 40 ส.ว. ต้องการให้รับเรื่องเพื่อเข้าสู่กระบวนการถอดถอน ซึ่งถือเป็นเสียงส่วนน้อยเท่านั้น (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   เมื่อวันที่ 5 พ.ย.  นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย   นายเอนก คำชุ่ม และนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีต นายกฯ ยื่นหนังสือถึงนายพรเพชร วิชิตชลชัยประธานสนช. คัดค้านการพิจารณาสำนวนถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในการประชุมสนช.นัดพิเศษวันที่ 12 พ.ย. นี้ นางวรารัตน์ อติแพทย์ รองเลขาธิการวุฒิสภา เป็นผู้รับเรื่อง  (หนังสือพิมพ์ข่าวสด
“อั้ม-ชมพู่-ณเดชน์” แฟนปลื้ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  “นิด้าโพล”  สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ร่วมกับรายการไนน์ เอ็นเตอร์เทน  กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “10 ดาราแห่งปี 2557 ที่ประชาชนอยากลอยกระทงด้วย”  โดยสอบถามความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศจาก 5 ภูมิภาค ระหว่างวันที่ 3-4 ต.ค. 2557 พบว่า ศิลปิน ดารา นักแสดง ที่ประชาชนอยากไปร่วมลอยกระทงด้วยมากที่สุด 10 อันดับแรกปรากฏว่า อันดับ 1 อั้ม – พัชราภา ไชยเชื้อ ร้อยละ 24.78 อันดับ 2 ชมพู่ – อารยา  เอ ฮาร์เก็ตร้อยละ 7.54 อันดับ 3 ณเดชน์  คูกิมิยะ ร้อยละ 7.46 โดยร้อยละ 43.60 ระบุว่าชื่อนชอบในผลงาน รองลงมา ร้อยละ 37.66  ชื่นชอบเป็นการส่วนตัว และร้อยละ 18.54 ติดตามผลงานมาตลอด อยากมีโอกาสเจอตัวจริง
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์เดลินิวส์   วันที่ 06/11/2014
“ก.ย.58” ทูลเกล้าฯ รธน.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เจ้าหน้าที่ประจำ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ  ได้นำปฏิทินการทำงานของ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ มอบให้กับ กมธ.ด้วย โดยมีวันดำเนินงานที่สำคัญ คือ เดือน ม.ค. –  เม.ย. 2558  และวันที่ 4 ก.ย. 2558 เป็นวันสุดท้ายที่ ประธาน สปช. ต้องนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ ตามที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนด
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ  วันที่ 06/11/2014
 “ลงทุนรัฐ – ส่งออก” ชะลอ
นายเมธี  สุภาพงษ์  ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท. ในฐานะเลขานุการ กนง.  กล่าวว่า  สาเหตุที่ กนง. มีมติให้คงดอกเบี้ยไว้ที่ 2% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในปีหน้า นโยบายการเงินที่ผ่อนปรนในปัจจุบันไม่เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และสอดคล้องกับการรักษาเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว “ภาพรวมเศรษฐกิจชะลอลงกว่าที่คาดจึงเป็นไปได้ว่าอาจจะปรับลดตัวเลข คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้และปีหน้าลง ในส่วนของการส่งออกก็มีความเป็นไปได้ว่าจะติดลบ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับว่าช่วงที่เหลือของปีนี้จะเป็นอย่างไร เพราะก่อนจะถึงวันที่มีแถลงรายงานนโยบายการเงิน อาจมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ได้”
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ  วันที่ 06/11/2014
ลุยลอยตัวดีเซล
นายพรายพล  คุ้มทรัพย์  กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่ากระทรวงการพลังงาน  กล่าวว่า  จะประกาศนโยบายปรับโครงสร้างราคาพลังงานได้ในเร็วๆนี้ เพื่อให้เข้าสู่จุดสมดุลและสะท้อนกลไกราคาที่แท้จริง โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล ที่นอกจากจะปรับโครงสร้างราคาแล้ว จะปล่อยให้มีราคาขึ้นลงสะท้อนราคาตลาดเหมือนกันน้ำมันชนิดอื่น และจะยกเลิกนโยบายการตรึงราคาไว้ไม่เกินลิตรละ 30 บาททันที จะมีการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตดีเซล โดยใช้วิธีการลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นการโยกสลับกันเพื่อไม่ให้กระทบกับราคาขายปลีก ส่วนจะเป็นอัตราเท่าใดนั้นขอให้หารือจนเป็นข้อสรุปก่อน
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์  วันที่ 06/11/2014
ศก.ซบเหนือจรดใต้
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
  กล่าวถึงรายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินเดือน ก.ย.ของภาคเหนือและภาคใต้ ว่า การอุปโภคและบริโภค  รวมถึงการลงทุนของภาคเอกชนยังคงซบเซาอย่างหนักเนื่องจากรายได้เกษตรกรที่ลดลงรวมถึงภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังพุ่งสูง กดดันให้ประชาชนระมัดระวังการบริโภค โดยเฉพาะในภาคใต้ ซึ่งดัชนีรายได้เกษตรกรหดตัวลงถึง 36.4% ตามดัชนีราคาสินค้าเกษตรที่หดตัวลง 29.7% หรือหดตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่าจากต้นปีที่ผ่านมา  สำหรับในภาคเหนือนั้น พบว่าการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนยังหดตัวต่อเนื่อง 4.8% สะท้อนว่าประชาชนยังระมัดระวังการใช้จ่ายอย่างสูง โดยดัชนีรายได้เกษตรกรลดลง 10.5% ตามดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรที่หดตัวลง 3.5% ขณะที่ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนลดลง 2.6%
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์  วันที่ 06/11/2014

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น