พ.ต.ท.พยอม ตาลแก้ว สารวัตรเวร สภ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี รับแจ้งมีเหตุจี้ชิงทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย สาขาชัณสูตร เลขที่ 152/24 หมู่ที่ 8 ต.โพชนไก่ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.โกศล บัวประเสริฐ ผบก.ภ.จว.สิงห์บุรี พ.ต.อ.สรรเพรช สุภิมนตรี รอง ผบก. พ.ต.อ.ชาติชาย เทียมฉัตร ผกก.สภ.บางระจันพ.ต.ท.พลพรรษ ผ่องโอภาส รอง ผกก.สส. ร.ต.อ.สวัสดิ์ พุดมอญ สวป.สภ.บางระจัน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี
ที่เกิดเหตุเคาร์เตอร์ของธนาคารพบ น.ส.ธนินทร์ จันทร์ฝัก อายุ 22 ปี ตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริการลูกค้านั่งอยู่ด้วยอาการตกใจ โดย น.ส.ธนินทร์ เล่าให้ฟังว่า ขณะที่นั่งทำงานอยู่หน้าเคาร์เตอร์ได้มีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ใส่กางเกงยีนต์ สวมเสื้อแขนยาวลายสก็อต ใส่หมวกกันน็อกแบบเต็มใบปิดบังใบหน้า สะพายกระเป๋าหนังผลักประตูหน้าธนาคารเดินเข้ามาแล้วชักปืนลูกโม่ แบบแสตนเลสสีขาวจี้พนักงานธนาคารที่นั่งบริการลูกค้าอยู่หน้าเคาร์เตอร์ให้อยู่นิ่งๆ หากคนไหนขยับจะยิง และสั่งให้ตนเปิดลิ้นชัก ก่อนคนร้ายจะเดินเข้ามาด้านหลังเคาเตอร์ และเปิดลิ้นชักหยิบเอาเงินสด ก่อนจะรีบวิ่งหลบหนีออกไป
สอบสวนนายกฤษณะพงศ์ ขวัญเมือง ผู้จัดการสาขาชัณสูตร ให้การว่า คนร้ายได้ขี่รถ จยย. ฮอนด้าสีแดง-ดำ แบบผู้หญิง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับมาเพียงคนเดียวมาจอดที่หน้าธนาคารแล้วก็เดินเข้ามาในธนาคาร ก่อนชักปืนออกมาจากเอวแล้วจี้พนักงานแบงค์ให้นั่งอยู่ในความสงบ พร้อมกับตัวเองด้วยที่นั่งอยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งสร้างความตกใจ ต่างคนต่างนั่งนิ่ง หลังจากคนร้ายปฏิบัติการใช้เวลาประมาณไม่เกิน 5 นาที หลังได้เงินแล้วก็ออกไปสตาร์รถ จยย. แล้วหลบหนีไปอย่างลอยนวล จากการตรวจสอบที่เคาเตอร์พบเงินสดหายไปทั้งหมด 433,000 บาท
พล.ต.ต.โกศล กล่าวว่า คนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงเงินธนาคารดังกล่าว เชื่อว่าน่าจะวางแผนมาเป็นอย่างดี และไม่น่าจะลงมือก่อเหตุคนเดียว น่าจะมีคนดูต้นทางและส่งสัญญาณ ซึ่งช่วงเวลาลงมือพบลูกค้ามาใช้บริการไม่มาก ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายที่ประตูและเคาร์เตอร์ พร้อมเปิดดูกล้องวงจรปิดเพื่อหาหลักฐานและรูปประพรรณสันฐานของคนร้ายเพิ่มเติม
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น