วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2557

จี้ครูสาวเรียกค่าไถ่ หวังข้ามหาเมีย สปป.ลาว เมื่อ 23 เม.ย.57



.ย.
 
พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.หนองคาย ได้รับแจ้งวิทยุด่วนจากตำรวจภูธร ภาค 4 ว่า มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธจี้บังคับตัว น.ส.สุพรรณี อุปัชญาย์  อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ม. 1ต.หนองตูม อ.เมือง จ.ขอนแก่น  ตำแหน่งอาจารย์ 3 ระดับ 8 โรงเรียนบ้านทางพาด ต.เขาสวนกวาง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น เหตุเกิดที่ อ.เขาสวนกวาง โดยใช้รถยนต์โตโยต้าวีออส  สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน  กล 593 ขอนแก่นเป็นพาหนะ 

ล่าสุดพบความเคลื่อนไหวในตัวเมืองหนองคาย  ซึ่งคนร้ายมีเป้าหมายจะเดินทางไป สปป.ลาว จึงประสานไปยัง ตม.จว.หนองคาย ให้สกัดจับอีกทางหนึ่ง จากนั้น พ.ต.อ.ชัชชัย  วงศ์สุนะ รอง ผบก.ภ.จว.หนองคายพ.ต.อ.อภิศักดิ์  กรองแก้วผกก.สภ.เมืองหนองคาย พ.ต.ท.เรืองยศ ภูแช่มโชติ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ วงศ์สนิทธีรา รอง ผกก.สส. นำกำลังตำรวจ นปพ.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคายออกสกัดจับกุม

ต่อมาพบรถคนร้ายวิ่งอยู่ที่ ถ.ประจักษ์ศิลปาคม ด้วยความเร็วสูงจึงไล่ติดตามพร้อมวิทยุแจ้งให้สกัดจับ ซึ่งของคนร้ายได้วิ่งหลบหนีเข้าซอยชัยภูมิ 2 เพื่อออกถนนใหญ่เมื่อถึงถนนใหญ่เจอรถเจ้าหน้าตำรวจ คนร้ายได้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยปิ่นแก้ว โดยมีตำรวจวิ่งไล่ติดตามมาติด ๆ 

ทำให้คนร้ายจอดรถทิ้งแล้ววิ่งเข้าป่ารถทึบและมีบ้านร้างหลายหลัง ก่อนเจ้าเข้าตรวจสอบรถยนต์พบตัวผู้เสียหายนอนอยู่เบาะหลังรถ สภาพตกใจและอิดโรย ซึ่งถูกมัดมือไพล่หลังและใช้ผ้ามัดปิดปากที่นิ้วมือด้านซ้ายมีรอยถูกของมีคมบาด จึงรีบให้ความช่วยเหลือ ก่อนเจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังเข้าโอบล้อมป่าค้นหา กระทั่งสามารถจับกุมตัวไว้ได้ ทราบชื่อนายสรพงษ์ ชำนาญการ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 262 ม.1 ต.เขาสวนกวาง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ค้นในตัวพบเงินสด 38,000 บาท บัตรผ่านแดนไป สปป.ลาว 1 ใบ จึงควบคุมตัวมาทำการสอบสวน

จากการสอบสวน น.ส.สุพรรณีให้การด้วยอาการที่ตกใจว่า เมื่อช่วงเช้าตนได้ออกจากบ้านพักเพื่อไปพบแพทย์ที่ รพ.น้ำพอง ขณะออกจากบ้านพักเข้าสู่ถนนมิตรภาพฯ และกำลังจะกลับรถได้พบนายสรพงษ์ ฯซึ่งเป็นคนรู้จักกันแต่ไม่สนิทได้โบกรถ ตนจึงจอดรถพร้อมลดกระจกลงสอบถามนายสรพงษ์ บอกว่าขออาศัยรถไปลงที่ 4 แยกไฟแดงด้วย 

เนื่องจากมีเรื่องกับลูกชายอดีตกำนัน เขากำลังจะมาฆ่าผม ตนเห็นว่าไม่ไกลนักและเป็นช่วงกลับรถพอดี จึงอนุญาตให้ขึ้นรถ โดยขึ้นมานั่งที่เบาะหลังด้านซ้าย พอถึง 4 แยก ตนจะจอดรถให้ลง นายสรพงษ์ฯ บอกว่าให้เลยสถานีตำรวจไปหน่อย พอเลยสถานีตำรวจนายสรพงษ์ฯ ได้ใช้อาวุธมีดจี้ที่คอ และบังคับให้ขับรถไปเรื่อยๆ ระหว่างทางได้บังคับให้ตนโทรศัพท์ติดต่อญาติของตน จากนั้นนายสรพงษ์ฯ ได้บอกญาติของตนให้โอนเงินเข้าบัญชีตนเพื่อเป็นค่าไถ่ 100,000 บาท

ถ้าไม่โอนให้จะฆ่า แล้วนำรถไปขายเพื่อข้ามไป สปป.ลาว เมื่อถึงทางแยกได้บังคับให้ตนเลี้ยวรถเข้าบ้านเสาเล้า อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี ได้ประมาณ 7 กม. จึงบังคับให้ตนจอดรถ เมื่อตนจอดรถนายสรพงษ์ฯได้ดึงกระชากตนจากเบาะหน้าให้มาอยู่ที่เบาะหลัง ก่อนใช้เชือกมัดมือไพล่หลัง และมัดปาก 

จากนั้นนายสรพงษ์ ได้พยายามลวนลามตน แต่มีเสียงโทรศัพท์เข้ามา นายสรพงษ์จึงวางมือหันไปรับโทรศัพท์ และทำหน้าที่ขับรถเอง โดยมุ่งหน้ามาที่ จ.อุดรธานี ระหว่างทางได้โทรศัพท์ติดต่อกับญาติตนเรื่องการโอนเงิน และยังบังคับตนให้บอกรหัสด้วยความกลัวตนจึงยอมบอกระหว่างทาง นายสรพงษ์ได้จอดรถหลายครั้ง เพื่อไปกดเงินในตู้เอทีเอ็ม  กระทั่งถึง จ.หนองคาย นายสรพงษ์ฯได้ใช้มีดจี้บังคับถอดสร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์แล้วนำไปขายที่ร้านในตัวเมืองหนองคาย ตนกลัวมากจนไม่กล้าที่วิ่งหนีออกจากรถเพราะกลัวถูกฆ่ากระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือได้ดังกล่าว
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น