จวกแหม่มโชว์จูบคร่อมพระพุทธรูป ย่ำยีหัวใจชาวพุทธ เมื่อ 24 เม.ย.57

จวกแหม่มโชว์จูบคร่อมพระพุทธรูป ย่ำยีหัวใจชาวพุทธ

ชาวพุทธจวกยับ ภาพแหม่มสาวปีนแท่นขึ้นคร่อม พระพุทธรูปปางไสยาสน์ ก้มจูบแก้มซ้ำโพสต์โชว์ผ่านโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก ชาวพุทธจวกยับ ภาพแหม่มสาวปีนแท่นขึ้นคร่อม พระพุทธรูปปางไสยาสน์ ก้มจูบแก้มซ้ำโพสต์โชว์ผ่านโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก ลักษณะลบหลู่ ไม่เหมาะสม วอนผู้เกี่ยวข้องหาทางแก้ไข เผยเป็นพระพุทธรูปในลาว ด้านกรรมการสภาวัฒนธรรมเชียงใหม่ แนะล้อมคอกกันเกิดในไทย เตรียมจัดทำป้าย ไกด์บุ๊ก บอกนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รู้ธรรมเนียม การวางตัว ขณะมาท่องเที่ยวในวัดไทย เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนชาวเชียงใหม่ ต่างแห่แชร์ภาพผ่านระบบเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นภาพหญิงชาวต่างชาติ คาดว่าเป็นนักท่องเที่ยวสาวชาวยุโรป ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระโดดขึ้นไปนั่งคร่อมพระพุทธรูปปางไสยาสน์ หรือพระนอน แล้วก้มลงใช้ปากจูบที่แก้มของพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว โดยเฉพาะเฟซบุ๊กชื่อ “FuckGhost ฟักโกสต์ : สมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย” เป็นเพจที่คอยแฉพฤติกรรมไม่เหมาะสมที่เกิดขึ้นกับพุทธศาสนา และสิ่งที่สร้างความงมงาย ส่วนภาพดังกล่าว จากการตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นสถานที่ใด แต่มีผู้แสดงความเห็นว่าเป็นพระพุทธรูปในถ้ำแห่งหนึ่งในเมืองวังเวียง ประเทศลาว ขณะที่สมาชิกเพจ เข้ามาคอมเมนต์ต่อว่า วิจารณ์กันต่าง ๆ นานา รวมถึงสาปแช่ง เกี่ยวกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว พร้อมเรียกร้องให้มีการจัดเจ้าหน้าที่ดูแลนักท่องเที่ยว และชี้แจงให้กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เข้าใจว่าสิ่งไหนเหมาะสม สิ่งไหนไม่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งเสื่อมเสียเหล่านี้เกิดขึ้นในเมืองเชียงใหม่เป็นอันขาด นายวัลลภ นามวงศ์พรหม ประธานฝ่ายส่งเสริมศาสนา ประเพณี พิธีกรรม สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และกรรมการวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร กล่าวว่า  สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ครั้งนี้ครั้งแรก ที่ผ่านมาชาวต่างชาติเคยแสดงพฤติกรรมลบหลู่ศาสนาพุทธมาแล้วต่าง ๆ นานา ไม่ใช่แค่ศาสนาพุทธเท่านั้น ศาสนาอื่น ๆ ก็ถูกกระทำเช่นกัน ส่วนใหญ่ทำเพราะอยากถ่ายรูปสวย ๆ โชว์ แต่ไม่คำนึงว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้น ทำลายหัวใจของคนรักศาสนาอย่างไรบ้าง ภาพนี้แม้จะเกิดต่างแดนใกล้ประเทศไทยแต่ก็เป็นศาสนาพุทธเหมือนกัน เราคนไทยย่อมมีความรู้สึกรับไม่ได้กับภาพที่ออกมา สิ่งเหล่านี้ต้องไม่เกิดขึ้นในเมืองไทย  ที่ถือเป็นเมืองพุทธโดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ดังนั้นหน่วยงานพระพุทธศาสนา ควรหารือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นในเมืองไทย “ยกตัวอย่างกรณีหญิงสาวแต่งกายไม่เรียบร้อยเข้าวัด เราก็มีการทำป้ายชี้แจงนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ ก็ทำให้นักท่องเที่ยวเข้าใจและปฏิบัติตาม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ควรทำหรือนำมาใช้บ้าง เช่นทำไกด์บุ๊กบอกนักท่องเที่ยวว่าสิ่งไหนควรทำสิ่งไหนไม่ควรบ้างขณะมาท่องเที่ยวสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านเรา อีกทั้งวัดต่าง ๆ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ ควรมีการทำการบอกกล่าวนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นการเตือน เชื่อว่าหากนักท่องเที่ยวรับรู้สิ่งเหล่านี้ก็จะหายไปเอง แต่หากไม่ทำชาวต่างชาติก็จะถือเป็นค่านิยมว่าสามารถทำได้ แล้วก็จะมีภาพลักษณะนี้ปรากฏให้เห็นอีก” นายวัลลภ กล่าวทิ้งท้าย.

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์