การสืบสวนของอัยการและตำรวจเพื่อหาสาเหตุการอับปางของเรือเฟอร์รี "เซวอล" นำไปสู่การจับกุมลูกเรือมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและสูญหายต่างพากันโกรธแค้นลูกเรือ ซึ่งเอาตัวรอดด้วยการหนีออกจากเรือก่อนผู้โดยสาร
แต่ยกเว้นคนหนึ่งที่ไม่มีใครโกรธเธอ ปาร์ค จี-ยอง ลูกเรือสาววัย 22 ปี ผู้รอดชีวิตกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ปาร์คยืนแจกเสื้อชูชีพให้ผู้โดยสารทีละคนอย่างใจเย็น หลายคนพยายามขอให้เธอรีบสวมเสื้อชูชีพและออกไปพร้อมกัน แต่หญิงสาวกลับปฏิเสธ ด้วยการกล่าวว่า ลูกเรือต้องช่วยผู้โดยสารให้รอดก่อน เธอต้องออกเป็นคนสุดท้าย
ศพของปาร์คมีกำหนดเข้ารับพิธีฝังในวันนี้ ที่สุสานแห่งหนึ่งในเมืองอินชอน พวงหรีดจากรัฐบาล หน่วยงานเอกชนและประชาชนจำนวนมากวางเรียงเต็มทางเดินเข้าสู่ห้องประกอบพิธี เพื่อเป็นเกียรติและร่วมไว้อาลัยให้กับการจากไปก่อนวัยอันควรของหญิงสาว ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาร่วมในพิธีไว้อาลัยและฝังศพ
หนึ่งในนั้นเป็นชายคนหนึ่ง ซึ่งเดินทางมาในสภาพทั้งที่ยังมีผ้าพันแผลรอบศีรษะ เปิดเผยเพียงว่า เป็นหนึ่งในผู้โดยสารบนเรือ และรอดชีวิตจากการช่วยเหลือของปาร์ค ซึ่งใช้ผ้าขนหนูพันรอบศีรษะของเขาที่ได้รับการกระแทกอย่างแรงจนแตกและจับเขาส่งลงเรือกู้ชีพ ชายผู้นี้กล่าวว่า เขาเป็น "หนี้" ปาร์คตลอดชีวิตที่เหลือ
ครอบครัวของปาร์คเผยว่า หญิงสาวต้องการศึกษาต่อให้จบในมหาวิทยาลัย แต่การที่บิดาเสียชีวิตเมื่อปี 2555 ทำให้ที่บ้านขาดเสาหลัก ปาร์คจึงลาออกและสมัครเข้าทำงานบนเรือ และได้เลื่อนขั้นอย่างรวดเร็วให้มาประจำอยู่บนเรือเฟอร์รีในเวลาเพียง 6 เดือน ครอบครัวของเธอยังคงทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกคนกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวว่า ไม่ยุติธรรมที่หญิงสาวต้องมาจบชีวิต ในขณะที่กัปตันหนีก่อนใคร
ขณะที่บรรยากาศในโรงเรียนมัธยมดันวอน ในเมืองอันซาน ชานกรุงโซล ซึ่งนักเรียน 325 คนและครู 15 คน โดยสารไปกับเรือลำนั้นเป็นไปอย่างเงียบเหงาและเศร้าสลด คิม ซอง-คยอม นักเรียนสาววัย 17 ปี กล่าวว่า โรงเรียนจะกลับมาเปิดเรียนอีกครั้งในวันพฤหัสบดี แต่บรรยากาศตอนนี้ทำให้หลายคนแทบหมดกำลังใจ ส่วนโอ แฮ-ยอน นักเรียนอีกคนหนึ่ง กล่าวสั้นๆว่า คงจะดีไม่น้อย ถ้าทุกอย่างที่เกิดขึ้นแท้จริงเป็นเพียง "เรื่องโกหก"
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น