เกาหลีใต้เร่งสอบสาเหตุเรือเฟอร์รี่ล่ม
ติดตามการสอบสวนเหตุเฟอร์รี่เซวอลล่ม นอกชายฝั่งเกาหลีใต้ ซึ่งตอนนี้ได้เร่งสอบสวนลูกเรือและเจ้าของบริษัทเรือเซวอล เพื่อหาหลักฐานคลี่คลายสาเหตุของโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น
โดยอัยการเกาหลีใต้ได้ขยายการสอบสวนไปยังบริษัทชองแฮจิน ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของเรือเซวอล และออกประกาศห้ามพนักงานบริษัทและลูกเรือรวม 40 คน ออกนอกประเทศ เพื่อป้องกันการหลบหนี นอกจากนี้ ยังได้ควบคุมตัวลูกเรือเพิ่มเติมอีก 4 คนด้วย ในข้อหาไม่สามารถปกป้องผู้โดยสารได้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ อัยการได้ควบคุมตัวกัปตัน และผู้ช่วยกัปตันอีก 2 คน ไปสอบสวน
พนักงานสอบสวนยังจะตรวจสอบโครงสร้างและความปลอดภัยของเรือเซวอล ซึ่งบริษัทชองแฮจินได้ซื้อเรือลำนี้ต่อมาจากญี่ปุ่น และนำมาดำเนินกิจการ ซึ่งจนถึงปัจจุบัน มีอายุการใช้งานนานถึง 20 ปีแล้ว ผ่านการตกแต่งใหม่ทั้งสิ้น 2 ครั้ง เพื่อขยายอายุการใช้งานให้มากกว่า 10 ปี
ผู้เชี่ยวชาญยังมองว่า การตกแต่งภายในนี้เอง ทำให้ตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วงของเรือสูงขึ้นจากตำแหน่งเดิม และอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เรือเซวอล อับปาง เพราะโดยปกติแล้ว เมื่อเรือเกิดเอียงและจุดศูนย์ถ่วงอยู่ต่ำ เรือก็จะสามารถกลับมาอยู่ที่ตำแหน่งเดิมได้ แต่เมื่อจุดศูนย์ถ่วงอยู่สูงขึ้น ก็เพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เรือพลิกคว่ำ
การสอบสวนยังจะครอบคลุมไปถึงการส่งข้อความสั้น ที่อ้างว่ามาจากผู้โดยสารในเรือที่กำลังอับปาง และเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์และแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ซึ่งทางบริษัทเจ้าของแอปพลิเคชั่นก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการสอบสวนด้วย
ขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้ยังประกาศให้เมืองอันซานในจังหวัดคยองกีโด และเมืองจินโดในจังหวัดจอลลานัมโด เป็นเขตภัยพิบัติพิเศษ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสามารถตั้งกองทุนฉุกเฉิน เพื่อให้ความช่วยเหลือกับผู้ประสบภัยได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงการยกเว้นภาษีเงินได้ของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ เมืองอันซานเป็นที่ตั้งของโรงเรียนมัธยมปลายดันวอน ซึ่งนักเรียนและครูกว่า 300 คน เป็นผู้โดยสารที่เดินทางไปกับเรือลำนี้
บรรดาญาติผู้โดยสารยังคงโจมตีรัฐบาลเกาหลีใต้ว่า ล่าช้าในการให้ความช่วยเหลือและกู้ร่างของบุคคลอันเป็นที่รัก ซึ่งรัฐบาลก็พยายามเร่งทำงานโดยเร็ว เพื่อไม่ให้กระแสความไม่พอใจนี้ บานปลายจนกระทบกับเสถียรภาพของรัฐบาล ล่าสุด ประธานาธิบดีปาร์ค กึน เฮ ผู้นำเกาหลีใต้ ได้ประณามการกระทำของกัปตันและลูกเรือของเรือเฟอร์รี่เซวอล ว่าเป็นฆาตกร พร้อมระบุว่าบุคคลเหล่านี้ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำทั้งทางกฎหมายและทางสังคม
ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศ เผยบทสนทนาในช่วงนาทีสุดท้ายระหว่างห้องบังคับเรือเฟอร์รี่ "เซวอล" กับ หอควบคุมการเดินเรือของเกาะจินโด ซึ่งเต็มไปด้วยความสับสนและตื่นตระหนก
บทสนทนาที่ถอดมาจากภาษาเกาหลี ระหว่างเจ้าหน้าที่ห้องบังคับเรือเฟอร์รี่ "เซวอล" ติดต่อมายัง หอควบคุมการเดินเรือของเกาะจินโด ในช่วงนาทีวิกฤต ซึ่งเกิดขึ้น 30 นาที หลังจากที่เรือเฟอร์รี่ประสบเหตุอับปาง
โดยเมื่อเวลา 09.17 น.ตามเวลาท้องถิ่น หอควบคุมการเดินเรือ จินโด สอบถามว่าสถานการณ์ที่เรือเป็นอย่างไร ซึ่งลูกเรือของเรือเฟอร์รี่ ตอบกลับไปว่า ขณะนี้เรือเอียง 50 องศา และ ผู้คนในเรือไม่สามารถเคลื่อนย้าย จากฝั่งซ้ายไปขวาได้ จากนั้นก็ระบุว่า ได้ประกาศให้คนในเรือสวมเสื้อชูชีพแล้ว และให้รอคำสั่งต่อไป แต่ไม่สามารถยืนยันว่าทุกคนสวมเสื้อชูชีพแล้วหรือไม่
จากนั้นในอีก 7 นาทีต่อมา ทางหอควบคุมการเดินเรือเกาะจินโด ได้แจ้งให้กัปตันเรือตัดสินใจเองว่าจะให้ผู้โดยสารอพยพออกจากเรือหรือไม่ เนื่องจากทางหอบังคับการเดินเรือไม่ทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเรือ แต่ลูกเรือในห้องบังคับเรือเฟอร์รี่ เซวอล กลับถามย้ำหลายครั้งว่า ถ้าอพยพผู้โดยสารจะมีเรือกู้ภัยมาช่วยทันทีหรือไม่ ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า เรือยามฝั่งจะเข้าไปช่วยเหลือใน 10 นาที จากบทสนทนาที่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน หลายคนเห็นว่า ลูกเรือในห้องบังคับเรือ"เซวอล" เต็มไปด้วยท่าทีที่สับสน และไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะทำอย่างไรต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจนนำไปสู่โศกนาฏกรรมดังกล่าว
| 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น