ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว ที่ศูนย์รักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สโมสรทหารบกวิภาวดี เมื่อเวลา 12.50 น.วันที่ 25พฤษภาคมว่า
สื่อมวลชนจำนวนมากจากประเทศไทยและต่างประเทศหลายสำนัก เดินทางมาลงทะเบียนทำบัตรประจำตัวผู้สื่อข่าว สำหรับใช้ผ่านเข้าออกสโมสรทหารบกวิภาวดี และรับปลอกแขนแสดงตัวของสื่อมวลชน โดยต้องเขียนประวัติ พร้อมแนบรูปถ่าย สำเนาบัตรประชาชน สำเนาบัตรพนักงานเป็นหลักฐาน
ด้านพ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงถึงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.)ว่า คสช.ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ถูกถ่ายทอดสู่ประชาชน ยอมรับว่าช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา สื่อทำหน้าที่ตามจรรยาบรรณอย่างเหมาะสม
ส่วนกรณีที่สมาคมสื่อมวลชนและนักข่าว เรียกร้องให้ คสช.ทบทวนคำสั่งที่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนนั้น
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ คสช.อนุญาตให้ฟรีทีวีออกอากาศ และทำหน้าที่ตามปกติ เหลือเพียงสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมและวิทยุชุมนุมรวม 14 สถานีเท่านั้น ที่ยังคงระงับการออกอากาศตามคำสั่งของ คสช. เนื่องจากเป็นกลุ่มที่นำเสนอข่าวสารเอนเอียง และปลุกระดมให้เกิดความแตกแยก หากสื่อมวลชนมีแนวทางให้คสช.ดำเนินการ ทาง คสช.พร้อมเปิดโอกาสให้หารือร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม ช่วงบ่ายวันเดียวกัน คสช.เชิญผู้บริหารสื่อสิ่งพิมพ์ 18 ฉบับร่วมหารือ
ที่ห้องเทวกรรมรังรักษ์ สโมสรทหารบกวิภาวดี ประกอบด้วย กรุงเทพธุรกิจ ข่าวสด คมชัดลึก เดลินิวส์ ไทยรัฐ ไทยโพสต์ แนวหน้า บ้านเมือง บางกอกโพสต์ บางกอกทูเดย์ ประชาชาติธุรกิจ เอเอสทีวีผู้จัดการ พิมพ์ไทย ฐานเศรษฐกิจ โพสต์ทูเดย์ มติชน โลกวันนี้รายวัน และสยามรัฐ โดยมีพล.ท.ภาณุวัชร์ นาควงษ์ ผู้ช่วยเสนาธิการฝ่ายกิจการพลเรือน เป็นประธานการประชุม
ทั้งนี้ ในการหารือ พล.ท.ภาณุวัชร์ขอความร่วมมือในการนำเสนอข่าว ไม่ยุยงสร้างความแตกแยกภายใต้ประกาศของ คสช.
พร้อมกันนี้ ได้ชี้แจงเหตุผลความจำเป็นของการยึดอำนาจการปกครองประเทศ ขอความร่วมมือในการปฏิบัติตามคำสั่งและประกาศของ คสช.และขอให้สื่อร่วมกันสร้างบรรยากาศแห่งความรักความสามัคคีปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคมไทย
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น