จากเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่บริเวณหน้าโรงแรมฮอลิเดย์ฮิลล์ (ฟูทูน่า) เลขที่ 50 ถนนภักดีดำรงค์ ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (25 ก.ค.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายรายนั้น ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 26 ก.ค. เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุ เพื่อหาเบาะแสของคนร้าย พบว่า ในช่วงเวลาประมาณ 16.40 น. คนร้ายซึ่งคาดว่ามีด้วยกัน 3 คน ได้ใช้รถตู้โดยสารสีขาว สายยะลา-ดอนยาง-หาดใหญ่ ทะเบียนป้ายเหลือง 10-1019 ปัตตานี ขับมาจอดในลักษณะล็อคที่หน้าโรงแรมฮอลิเดย์ฮิอล์ ก่อนเปิดทางให้รถกระบะมาสด้า ไฟเตอร์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน บค 8594 เบตง ซึ่งเป็นป้ายทะเบียนปลอม บรรทุกระเบิดเข้าจอดแทน จากนั้นรถตู้ดังกล่าวได้ขับออกไป โดยรับคนร้ายที่ขับรถกระบะบรรทุกระเบิดหลบหนีไปด้วย หลังจากนั้น 15 นาทีจึงเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง
ต่อมาเจ้าหน้าที่รถตู้โดยสารที่คนร้ายนำไปจอดล็อคพื้นที่ให้รถกระบะคาร์บอมบ์ ถูกจอดทิ้งไว้ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 (ยะลา-เบตง) บริเวณพื้นที่บ้าน กม.36 รอยต่อ อ.ธารโต โดยเป็นรถที่ถูกปล้นมาจากพื้นที่บ้านบาโจ หมู่ 2 ต.ยะลา อ.เมืองยะลา ในช่วงเช้าของวันเกิดเหตุ ส่วนรถกระบะที่ใช้ทำคาร์บอมบ์ในครั้งนี้ อาจเป็นรถคันเดียวกับที่คนร้ายปล้นไปจากผู้เสียหายในพื้นที่ ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่ นายเดชรัฐ สิมศิริ ผวจ.ยะลา ที่ได้เดินทางลงพื้นที่ อ.เบตง เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุ และร่วมประชุมติดตามความคืบหน้า กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบอย่างละเอียดว่า รถคันที่ก่อเหตุคาร์บอมบ์สามารถผ่านเข้าไปยัง อ.เบตง ได้อย่างไร เพราะตามเส้นทางมีจุดตรวจจุดสกัด ของทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารหลายจุด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บรรยากาศช่วงเช้าวันนี้ที่ อ.เบตง เงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะร้านค้าย่านธุรกิจ ซึ่งประชาชนในพื้นที่ยังคงอยู่ในอาการหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่กล้าออกจากบ้าน ในส่วนของร้านค้าที่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด ทางเจ้าของได้เริ่มเข้าเก็บกวาดทำความสะอาดแล้ว สำหรับผู้บาดเจ็บที่ยังนอนพักรักษาตัวที่ รพ. อ.เบตง
ขณะนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 34 ราย และส่งไปรักษาตัวที่ รพ.ศูนย์ยะลา จำนวน 3 ราย ทั้งนี้ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งการโดยตรงถึง พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 ให้ลงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้ได้โดยเร็ว รวมทั้งให้ตรวจสอบยานพาหนะต่างๆ และปิดกั้นเส้นทางการเข้า-ออก พร้อมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในพื้นที่เสี่ยง เพราะเกรงว่ากลุ่มคนร้ายจะก่อเหตุซ้ำอีก ซึ่ง พล.ท.วริต ได้มีการเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เพื่อตามล่าตัวผู้ที่ก่อเหตุระเบิดในครั้งนี้อย่างเร่งด่วนด้วย.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น