วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ศาลพระโขนงยังได้อนุมัติหมายจับเลขที่ 71/2557 ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยคดีรุมยิงคุณ สุทิน ธราทิน



เห็นข่าวแวบๆ...จากเว็บไซต์ โพสต์ทูเดย์ ช่วงบ่ายวันวาน ระบุว่าศาลอาญาได้ให้การอนุมัติตามคำร้องขอของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ออกหมายจับเลขที่ 284/2557 เพื่อจับกุมตัวนาย กฤษดา ไชยแค อายุ 43 ปี ผู้ต้องสงสัยคดีลอบปาระเบิดสังหารผู้ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเมื่อไม่มีกี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยข้อหาจงใจ ฆ่าผู้อื่น โดยเจตนาไปเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว...
                                            ---------------------------------------------
    นอกเหนือไปจากนั้น...รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า ในวันเดียวกัน...ศาลพระโขนงยังได้อนุมัติหมายจับเลขที่ 71/2557 ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยคดีรุมยิงคุณ สุทิน ธราทิน แกนนำมวลชน คปท. ที่วัดศรีเอี่ยม เขตบางนา แบบชนิดอุกอาจ เย้ยฟ้าท้ากฎหมาย จนกลายเป็นข่าวคึกโครมเมื่อไม่นานมานี้ ส่วนผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยตามหมายจับดังกล่าวจะเป็นใครกันแน่ ถ้าไม่มีโอกาสไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ แค่ลองไปเปิดคลิป เปิดภาพถ่ายแต่ละภาพที่มีทั้งมุมกว้าง มุมสูง ตามเว็บไซต์ต่างๆ ก็น่าจะพอคาดเดากันได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์นัก...
                                       --------------------------------------------------
    ส่วนเว็บไซต์ของ เดลินิวส์ วันวาน...แม้จะไม่มีข่าวเรื่องการออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีต่างๆ ดังที่ โพสต์ทูเดย์ ได้รายงานไปแล้ว แต่ก็ได้ไปนำเอาภาพถ่ายของบรรดาเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งออกมากระจายกำลังตั้งบังเกอร์กระสอบทราย ตาข่ายพราง อยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ในกรุงเทพมหานครเป็นจุดๆ อีกทั้งยังรายงานเอาไว้สั้นๆ ด้วยว่านอกจากจะมีการ จัดวางกำลัง ไว้ในพื้นที่ที่ล่อแหลมต่อการเกิดเหตุ อันอาจนำไปสู่ ความไม่สงบเรียบร้อย ทั้งหลายแล้ว ยังได้แบ่งหน่วยทหารออกเป็นชุดๆ ให้ทำหน้าที่ลาดตระเวนพื้นที่รอบๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเหตุและระงับเหตุควบคู่ไปด้วย...
                                    ---------------------------------------------------
    แม้ว่า ข่าว และ ภาพ เหล่านี้...อาจไม่ได้ ตอบโจทย์ ถึงทางออก ทางรอด ของ การเมืองไทย มากมายซักเท่าไหร่ ไม่ได้ตอบคำถามว่าใครจะอยู่ ใครจะไป ระหว่างรัฐบาลเถื่อนกับฝ่ายตรงกันข้าม แต่ทันทีที่ กลไก ในการควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อย การพิทักษ์สันติราษฎร์ ได้เริ่ม ทำหน้าที่ อย่างเป็นระบบและเป็นกระบวนการเช่นนี้ อย่างน้อยที่สุด...อะไรต่อมิอะไรที่เคยดูน่าห่วง น่ากังวล น่าอึดอัดคัดข้องใจมาโดยตลอด มันน่าที่จะพอเพลาๆ ลงไปได้บ้าง ความหวาดหวั่นต่อบรรยากาศอันอึมครึม น่าสยดสยองต่อรังสีอำมหิต ซึ่งกำลังแผ่ซ่านหนักยิ่งขึ้นทุกที อันเนื่องมาจากการดิ้นรน กระวนกระวาย ทุรนทุรายของเหล่าทรราช น่าที่จะถูกขีดวง จำกัดกรอบ ไม่ให้ถึงกับหลุดโลก ทะลุโลก ถึงขั้นฉุดกระชาก ลากถู ประเทศทั้งประเทศ ให้ต้องพังพินาศตามไปด้วย อย่างที่เคยหวั่นๆ กันมาก่อนหน้านั้น...
                                     ----------------------------------------------------
    พูดง่ายๆ ก็คือ...คงไม่ถึงกับต้องไปวิตก ทุกข์ร้อน ว่าประเทศไทย ราชอาณาจักรไทย อาจถูกแบ่ง ถูกแยก ออกเป็นไทยเหนือ-ไทยใต้ ต้องเดินตามรอยคู่แฝดอย่างประเทศยูเครนแบบชนิดก้าวต่อก้าวอะไรทำนองนั้น ไม่ต้องไปตกอก ตกใจ ว่าถ้าหากอาวุธปืนประมาณ 10 ล้านกระบอก ถูกรัฐมนตรีมหาดไทยนำไปแจกจ่ายให้กับกองกำลังอาสาสมัครนานาชนิด เลือดของคนไทยด้วยกันจะเจิ่งนองท้องช้างไปถึงระดับไหน เพราะทันทีที่ผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ได้พร้อมที่จะ ทำหน้าที่ ของตนอย่างตรงไป-ตรงมา ไม่เบี่ยงบ่าย ซัดเซ ไปตามแรงกดดันทางการเมืองอันวูบๆ ไหวๆ เอาแน่เอานอนอะไรแทบไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่าง...มันน่าที่จะ พออยู่ๆ กันไปได้ อยู่ร่วมกันโดยสันติ อยู่ภายใต้ตัวบทกฎหมายอันเดียวกัน ภายในแผ่นดินเดียวกัน ไม่ว่าใครชนะ ใครแพ้ ก็ตาม...
                                  ------------------------------------------------------
    ถึงคนอย่าง โกตี๋ ลุงยิ้ม ลูกน้องเสี่ยเหลียง ฯลฯ จะดูมีฤทธิ์ มีเดช มากมายขนาดไหน...แต่คงไม่ได้ต่างอะไรไปจากกุ๊ยหรืออันธพาลเราดีๆ นี่เอง แม้จะอยู่ภายใต้การนำของ นายพลแมคอา (เท่อ) เธอร์ ก็เถอะ อย่างมากก็คงได้แต่ลอบยิง ลอบฆ่า ลอบปาระเบิด หรือ ลอบกัด ต่อไปเรื่อยๆ โอกาสที่จะยกระดับไปถึงขั้นดาหน้าออกมาสู้กับรถถัง เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ เครื่องบินรบ ได้แบบยกต่อยกนั้น...ยังไงๆ ย่อมเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วแน่ๆ ยิ่งถ้าหากตำรวจท่านพร้อมที่จะ บังคับใช้กฎหมาย ไปตามอำนาจ หน้าที่ ของท่าน โดยไม่คิดจะไปเลือกข้างหนึ่งข้างใดให้เสียเวลาและเสียอนาคตของท่าน และสถาบันของท่านอีกต่อไป ความสงบเรียบร้อย อันจะนำไปสู่สันติภาพและสันติธรรม ย่อมที่จะต้องปรากฏขึ้นมาภายในระยะเวลาอันใกล้ อีกแค่ไม่กี่วัน ไม่กี่ชั่วโมง นับจากนี้...
                                ---------------------------------------------------------
    เพราะการ อยู่ร่วมกันโดยสันติ ของสังคมแต่ละสังคมนั้น ไม่ว่าจะประชาธิปไตยมาก ประชาธิปไตยน้อย หรือประชาธิปไตยในรูปแบบไหนๆ ก็แล้วแต่ ว่าไปแล้ว...มันไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าใครที่ทำผิดกฎหมายย่อมต้องได้รับผลแห่งการกระทำไปตามตัวบทกฎหมายนั่นแหละ ส่วนเหตุที่มันไม่สามารถอยู่ร่วมกันโดยสันติได้ง่ายๆ ก็เพราะผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย หรือผู้ซึ่งกระทำการในสิ่งที่กฎหมายได้ห้ามเอาไว้ ดันไม่ยอมรับกฎหมาย หรือไม่ยอมรับผิดซะดื้อๆ!!! พยายามนำเอาเหตุผล ข้ออ้าง แนวคิด ทฤษฎี อะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะมากมาย มาทำให้ตัวเองอยู่เหนือกฎหมาย ทุกสิ่งทุกอย่างมันจึงไม่สงบเรียบร้อย ไม่เกิดการอยู่ร่วมกันโดยสันติด้วยประการฉะนี้
                                -------------------------------------------------------------
    ด้วยเหตุนี้...เมื่อผู้ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามตัวบทกฎหมาย พร้อมร่วมแรง ร่วมใจ ควบคุม ดูแล ให้ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปตามครรลองของกฎหมายได้อย่างเต็มที่ ก็เท่ากับเป็นการขจัดความไม่สงบเรียบร้อยกันที่ เหตุปัจจัย เอาเลยก็ว่าได้ การฟื้นฟูบรรยากาศการอยู่ร่วมกันโดยสันติ ไม่แยกเขา แยกเรา แยกเหนือ แยกใต้ แยกไพร่ แยกอำมาตย์ ฯลฯ ย่อมต้องกลับคืนมาสู่สังคมไทยได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์ โดยเฉพาะหลังจากที่ผู้ซึ่งกระทำผิดกฎหมาย ไม่ยอมรับกฎหมายและพยายามอยู่เหนือกฎหมาย ต้องหาทางเล็ดลอดเงื้อมมือของกฎหมาย ด้วยการออกไปจากอาณาเขตประเทศไทย อย่างที่เคยกระทำการกันเป็นแบบอย่างมาโดยตลอด!!!
                          --------------------------------------------------------------
    ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก Confucius... “For good, return good; for evil, Justice.- จงตอบแทนความดี ด้วยความดี...ความชั่ว ด้วยความยุติธรรม..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น