3 คนร้ายลักษณะคล้ายชาวตะวันออกกลาง หรือพวกแขกขาว ลงมือขโมยนาฬิกาหรูยี่ห้อมองต์บลัง ที่มีอยู่เพียง 8 เรือนในโลก มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท จากห้างดังเกษรพลาซ่า ก่อนพากันหลบหนีขึ้นแท็กซี่ไปอย่างลอยนวล
เมื่อวันที่ 15 เม.ย. พ.ต.ท.สมเกียรติ์ พลอยทับทิม พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุคนร้ายเข้าไปขโมยนาฬิกาหรู ภายในห้างสรรพสินค้าเกษรพลาซ่า แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ที่เกิดเหตุเป็นร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์หรูยี่ห้อมองต์บลัง พื้นที่ 3 คูหา ตั้งอยู่ชั้นจีของห้างดังกล่าว จากการสอบสวนพนักงานทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นชายชาวต่าง จำนวน 3 คน ได้เข้ามาทำทีขอดูนาฬิกาหรู ยี่ห้อมองต์บลังรุ่น Villeret Bi-Cylindrique Tourbillon Model Numbers 106494 ราคาประมาณ 10 ล้านบาท ที่ตั้งโชว์อยู่ภายในตู้ใกล้กับเคาน์เตอร์
จากนั้นคนร้ายจำนวน 2 คน ได้ขอดูนาฬิกาอีกจำนวน 4 เรือน และพูดคุยกับพนักงานเรื่องการชำระเงิน โดยใช้ภาษาจีนสำเนียงเวียดนามในการสื่อสารก่อนที่คนร้ายอีก 1 คนที่เหลือจะเดินไปที่ตู้เก็บนาฬิกาซึ่งมีกุญแจเสียบคาอยู่และไม่มีพนักงานเฝ้า แล้วฉวยโอกาสไขกุญแจและหยิบนาฬิกามูลค่าประมาณ 10 ล้านบาทเรือนดังกล่าวออกไปขึ้นแท็กซี่ สีฟ้า ทะเบียน ทร 6545 กรุงเทพมหานคร หลบหนี
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบว่า นาฬิกายี่ห้อมองต์บลังที่ถูกคนร้ายขโมยไป เป็นนาฬิกาที่มีอยู่ 8 เรือนในโลก และที่ประเทศไทยมีอยู่เพียงเรือนเดียวเท่านั้น ราคาสุทธิอยู่ที่เรือนละ 1 ล้าน 1 แสน 2 หมื่นบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพวงจรปิดของทางร้านพบว่า คนร้ายเป็นชายชาวต่างชาติ 3 คน ลักษณะคล้ายชาวตะวันออกกลาง หรือพวกแขกขาว โดยคนร้าย 2 คน ทำหน้าที่คอยดึงดูดความสนใจของพนักงานในร้าน คนแรกสวมเสื้อยืดสีครีมผมสั้น สวมกางเกงขายาวสีดำ คนที่สองสวมเสื้อและกางเกงขายาวสีดำ รูปร่างท้วม ผมสั้น ส่วนคนร้ายที่ลงมือลักนาฬิกา ใส่เสื้อยืดคอกลมสีครีมลายจุด นุ่งกางเกงขายาว สวมรองเท้าหนังสีดำ สะพายกระเป๋าสีดำ ตัดผมสั้นเกรียนติดหนังหัว ได้อาศัยจังหวะที่เพื่อนกำลังพูดคุยดึงดูดความสนใจพนักงานเดินไปที่ตู้เก็บนาฬิกา แล้วเปิดตู้หยิบนาฬิกาใส่กระเป๋าสะพายที่เตรียมมา พร้อมทั้งเก็บกุญแจใส่กระเป๋าไปด้วย หลังจากนั้นจึงเดินกลับมาที่เพื่อนๆก่อนพากันหลบหนีไป
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบปากคำพนักงานในร้าน รวมถึงพยานแวดล้อมอย่างละเอียดอีกครั้ง และกำลังเร่งติดตามรถแท็กซี่ที่รับคนร้ายไปมาสอบปากคำว่าไปส่งที่ไหนอย่างไร เบื้องต้นทราบว่าแท็กซี่คันดังกล่าวเป็นของบริษัทไทยเอส ลิสซิ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังไปตรวจสอบก่อนลงพื้นที่หาข่าว เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป.
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น