|
10 เมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลกปี2013
โลนลี่ แพลนเน็ต เผย "10 อันดับเมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลก" ประจำปี 2013 มีที่ไหนบ้างไปชมกันค่ะ
29 ต.ค. 55 โลนลี่ แพลนเน็ต เผย "10 อันดับเมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลก" ประจำปี 2013 หลังรวบรวมความคิดเห็นจากเหล่านักเขียนของโลนลี่ แพลนเน็ต ตลอดจนสมาชิกเว็บไซต์ แล้วจึงนำมากลั่นกรอง และคัดเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวและเดินทาง โดยไม่ได้คำนึงถึงเทรนด์การท่องเที่ยว แต่เน้นพิจารณาว่าเมืองใดที่นักท่องเที่ยวควรเดินทางไปเยือนมากที่สุดในปี 2013
|
|
10 อันดับเมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลก ประจำปี 2013 ได้แก่ …
อันดับที่ 10 เมืองปัวร์โต อิกวาซู จังหวัดมีซีโอเนส ประเทศอาร์เจนตินา (ดีที่สุดสำหรับ : ครอบครัว , กิจกรรม , การผจญภัย)
เมืองปัวร์โต อิกวาซู (Puerto Iguazu) เป็นที่ตั้งของน้ำตก 'อิกวาซู' ซึ่งทอดตัวเป็นแนวยาวระหว่างพรมแดนประเทศบราซิล - อาร์เจนตินา และได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกมาหมาดๆ เมื่อปลายปีที่แล้ว ด้วยความที่เป็นเมืองท่องเที่ยว เมืองนี้จึงเต็มไปด้วยโรงแรมหรู สปา และสุดยอดโฮสเต็ล แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่น่าสนใจหลายแห่งอีกด้วย
อันดับที่ 9 เมืองอาดดิส อาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย (ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม , อาหาร , ความคุ้มค่า)
"อาดดิส อาบาบา (Addis Ababa)" หรือ "แอดดิส อาบาบา" เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศเอธิโอเปีย ทั้งยังเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศหลายแห่ง เช่น สำนักงานใหญ่องค์การเอกภาพแห่งแอฟริกา และสำนักงานใหญ่คณะกรรมการเศรษฐกิจแห่งแอฟริกา (UNECA) ขององค์การสหประชาชาติ เป็นต้น ที่ผ่านมาเมือง "อาดดิส อาบาบา" ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ยิ่งมีการคาดการณ์ว่าในปีหน้าเศรษฐกิจของเอธิโอเปียจะเติบโตขึ้นเกือบ 5% ก็ยิ่งทำให้เมืองนี้แลดูน่าเชื่อถือและน่าไว้วางใจมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่นักท่องเที่ยวที่ยังไม่เคยเดินทางไปเยือนเอธิโอเปียมาก่อน
อันดับที่ 8 เมืองมอนทรีออล รัฐควิเบก ประเทศแคนาดา (ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม , งานรื่นเริง , ความคุ้มค่า)
มอนทรีออล (Montreal) เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในรัฐควิเบก และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศแคนาดา ทุกครั้งที่มีการจัดอันดับโลก เมืองนี้มักติดโผเข้ามาเป็นอันดับต้นๆ เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเมืองสะอาด เมืองน่าอยู่ หรือเมืองที่อยู่แล้วมีความสุขที่สุดในโลก เป็นต้น นอกจากนี้ มอนทรีออล ยังได้รับยกย่องว่าเป็นเมืองหลวงด้านวัฒนธรรมของประเทศแคนาดา แถมองค์การยูเนสโกยังขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งดีไซน์อีกด้วย ในปีนี้ มอนทรีออลถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "หุ่นยนต์ล้างโลก (Robopocalypse)" ของสตีเว่น สปีลเบิร์ก ขณะที่ในปีหน้าจะมีการเปิดตัวโครงการใหญ่ "ริโอ ทินโต อัลแคน แพลนเนทาเรี่ยม" ตลอดจนโรงแรมหรูและพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ อีกทั้งยังมีงานฉลองครบรอบ 50 ปีศูนย์ศิลปะ "เพลส เดส อาร์ต" อีกด้วย
อันดับที่ 7 เมืองโฮบาร์ต รัฐแทสมาเนีย ประเทศออสเตรเลีย (ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม , งานรื่นเริง , อาหาร)
โฮบาร์ต (Hobart) เป็นเมืองหลวงของรัฐแทสมาเนีย ประเทศออสเตรเลีย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1804 (พ.ศ. 2347) ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวง (ของรัฐ) ที่เก่าแก่เป็นอันดับสองของออสเตรเลีย (รองจากซิดนีย์) ปัจจุบัน เป็นเมืองท่าและเมืองท่องเที่ยวสุดฮิป ที่เต็มไปด้วยสีสันและมีกิจกรรมต่างๆ ให้เลือกทำเลือกชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านกีฬา ศิลปวัฒนธรรม อาหาร เทศกาลและงานรื่นเริงต่างๆ เป็นต้น
อันดับที่ 6 เมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ (ดีที่สุดด้าน : วัฒนธรรม , งานรื่นเริง , ครอบครัว)
หลังประสบเหตุแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงในปีที่ผ่านมา "ไครสต์เชิร์ช (Christchurch)" ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในเกาะใต้ ก็เริ่มเดินหน้าพัฒนาและฟื้นฟูเมืองภายใต้ความมุ่งมั่น ร่วมแรงร่วมใจ และใช้ไหวพริบในการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ส่งผลให้ไครสต์เชิร์ชในปัจจุบัน กลายเป็นเมืองใหม่ที่มีแหล่งอาหารนานาชาติให้เลือกรับประทานหลากหลาย นับตั้งแต่อาหารพม่าไปจนถึงอาหารตุรกี ทั้งยังมีสถานที่ฟังเพลง (แสดงดนตรีสด) ให้เลือกฟังเลือกชมหลายแห่ง แม้แต่ย่าน "ซิตี้มอลล์" ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหวจนต้องรื้อถอนอาคารร้านค้าหลายหลัง ก็ถูกแทนที่ด้วย "คอนเทนเนอร์มอลล์" สุดชิค ที่สร้างขึ้นชั่วคราวเพื่อคืนชีพให้กับย่านการค้า
|
|
อันดับที่ 5 กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน (ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม , ความคุ้มค่า , อาหาร)
ปักกิ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเซี่ยงไฮ้ ทั้งยังได้ชื่อว่าป็นศูนย์กลางด้านศิลปวัฒนธรรมของประเทศจีนอีกด้วย แม้การจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนที่กรุงปักกิ่งจะผ่านไปนาน 4 ปีแล้ว แต่ยังคงทิ้งร่องรอยต่างๆ เช่น ป้ายบอกทางภาษาอังกฤษ และสถานที่จัดการแข่งขันที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นเอาไว้ให้ระลึกถึง และเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการเปิดใช้รถไฟความเร็วสูงบนเส้นทางปักกิ่ง - เซี่ยงไฮ้ ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวระหว่างสองเมืองสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะใช้เวลาไม่ถึง 5 ชั่วโมง สำหรับการเดินทางราว 1,300 กม.
อันดับที่ 4 ลอนดอนเดอร์รี่ ไอร์แลนด์เหนือ (ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม , กิจกรรม , ครอบครัว)
ลอนดอนเดอร์รี่ หรือ เดอร์รี่ เป็นหนึ่งในเขตการปกครองของไอร์แลนด์เหนือ* ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมของสหราชอาณาจักร ประจำปี 2013 นักท่องเที่ยวจึงไม่ควรพลาดการเข้าร่วมกิจกรรมด้านศิลปวัฒนธรรมในเมืองเดอร์รี่ ที่จะจัดหนักจัดเต็มตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลดนตรี การแสดงและการละเล่นต่างๆ ตลอดจนนิทรรศการด้านศิลปะ นอกจากนี้ ในปีหน้าเมืองเดอร์รี่ยังได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน "All Ireland Fleadh" ซึ่งเป็นเทศกาล (ประกวด) ดนตรีไอริชที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก (จัดขึ้นในไอร์แลนด์เหนือเป็นครั้งแรก)
* ไอร์แลนด์เหนือ คือ 1 ใน 4 เขตการปกครองหลักของสหราชอาณาจักร (ประกอบด้วย อังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ) มีพื้นที่ติดต่อกับประเทศไอร์แลนด์
อันดับที่ 3 เมืองไฮเดอราบัด รัฐอานธรประเทศ ประเทศอินเดีย (ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม , อาหาร , ความคุ้มค่า)
ในอดีตไฮเดอราบัดเคยเป็นเมืองหลวงของรัฐปกครองตนเอง (ภายใต้จักรวรรดิอังกฤษ) ที่มั่งคั่ง หลังอินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ วังและสวนที่สวยงามต่างถูกนำออกขาย บ้างก็ถูกรื้อทิ้งแล้วสร้างใหม่ หรือไม่ก็โดนมือดียกเค้า นับว่ายังดีที่วังหลายแห่งในเขตเมืองเก่าของไฮเดอราบัดถูกบูรณะซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพสวยงามดังเดิม และหนึ่งในนั้นก็คือ "ฟาลัคนุมา พาเลซ" ที่ปัจจุบันกลายเป็นโรงแรมหรูเจ็ดดาวของทาจกรุ๊ป นอกจากวังแล้วยังมีอาคารและอนุสรณ์สถานหลายแห่งที่อยู่ในระหว่างการบูรณะซ่อมแซมด้วยเช่นกัน แต่ยังมีบางพื้นที่ในเมืองไฮเดอราบัดที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยี่ยมชม ดังนั้น ปีหน้าจึงเป็นปีที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางไปสำรวจพื้นที่อันซีนในย่านเมืองเก่าของไฮเดอราบัด
อันดับที่ 2 กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ (ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม , กิจกรรม , อาหาร)
อัมสเตอร์ดัม เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์เสมอในสายตานักท่องเที่ยว แต่ในปี 2013 เมืองนี้จะยิ่งเต็มไปด้วยสีสันและมีกิจกรรมที่สำคัญให้ร่วมเฉลิมฉลองมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเฉลิมฉลองระบบคลอง (ที่รายล้อมเมือง 4 ชั้น) ครบรอบ 400 ปี , งานฉลองครบรอบ 160 ปี "วินเซนต์ แวน โกะห์" , พิพิธภัณฑ์ "วินเซนต์ แวน โกะห์" จะเปิดให้เข้าชมอีกครั้งในวาระครบรอบ 40 ปี , พิพิธภัณฑ์ไรค์ส (Rijksmuseum) จะเปิดให้เข้าชมอีกครั้งหลังปิดปรับปรุงนาน 10 ปี , วงซิมโฟนี ออร์เคสตราดีที่สุดในโลก "เดอะ รอยัล คอนเสิร์ตเคอะบาว ออร์เคสตรา" ในกรุงอัมสเตอร์ดัม จะครบรอบ 125 ปี นอกจากนี้ สวนสัตว์ "อาร์ติส รอยัล ซู" และ ศูนย์วัฒนธรรม "ฟีลิกซ์ เมอริติส" ก็จะฉลองครบรอบ 175 ปี และ 225 ปี (ตามลำดับ) ด้วยเช่นกัน
อันดับที่ 1 ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา (ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม , กิจกรรม , อาหาร)
โลนลี่ แพลนเน็ต เลือก "ซานฟรานซิสโก" ให้เป็นเมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลก ประจำปี 2013 เพราะนอกจากจะเป็นเมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศโดดเด่น มีทิวทัศน์ที่สวยงาม และมีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมแล้ว ในปีหน้า ซานฟรานซิสโกจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเรือใบ "อเมริกา’ส คัพ" ครั้งที่ 34 ส่งผลให้มีการแปลงโฉมและปรับปรุงสถานที่โดยรอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ริมอ่าวซานฟรานซิสโก
--------------------
(หมายเหตุ : ที่มา : http://paow007.wordpress.com/) |
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น