ไม่มีสถานการณ์ปฏิวัติ...ย่อมไม่มีม็อบปฏิวัติ!!!
1 November 2555 - 00:00
เพิ่งจะหายหนาวสั่น ขนหัวลุก กับม็อบ เสธ.อ้าย ไปหมาดๆ...แต่อีกไม่กี่วันข้างหน้า รัฐบาลท่านคงเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องเจอกับม็อบกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านกันอีกซะแร้นน์น์น์ มาคราวนี้...ว่ากันว่าจะมากันเป็นแสนๆ คน แถมยังมีการประกาศตั้งงบ ตั้งกองทุน ในการบริหารจัดการม็อบ เอาไว้นับเป็นร้อยๆ ล้านบาท โดยไม่คิดจะไปพึ่งพาเจ้ามือหวย หรือเจ้าพ่อบ่อนการพนันใดๆ อย่างที่ ดอกเตอร์เหลิม ท่านมักหันไปโยนบาปไปให้กับม็อบฝ่ายตรงข้าม ด้วยข้อกล่าวหาทำนองนี้มาโดยตลอด...
--------------------------------------------
ก็คงต้องดูกันต่อไป...ว่าสำหรับม็อบคราวนี้ รัฐบาลท่านจะใช้หลักสากล หรือหลักสาเก เข้าสยบ จะใช้ระเบิดควันชนิดไม่มีเสียง แก๊ซน้ำตาชนิดไม่มีเสียง ใช้รถควบคุมฝูงชน ปฏิบัติการจากเบาไปหาหนัก ฯลฯ หรือจะใช้ ขวัญชัย ควายพนา ออกมาไล่ทุบ ไล่ตี มวลชนผู้ซึ่งอึดอัด ขัดข้องใจ ไม่พอใจต่อรัฐบาล เหมือนอย่างที่เคยเป็นมาในอดีต และก็คงไม่ใช่แต่เฉพาะม็อบกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านเท่านั้น ที่จองคิวทอดผ้าป่ารัฐบาลเอาไว้ ในวันที่ 7 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ภายใต้สภาวะที่รัฐบาลกำลังถังแตก หม้อแหก ต้องวิ่งหาเงินมาโปะนโยบายประชานิยม อย่างชนิดชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่จนทุกวันนี้ โอกาสที่จะเกิดม็อบหอมแดง ม็อบมันสำปะหลัง ม็อบยางพารา หรือแม้กระทั่งม็อบชาวนา ฯลฯ ทยอยตามมาติดๆ ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาเสียเลย...
--------------------------------------------
พูดง่ายๆ ว่า...ไม่ว่าโครงการจำนำข้าว จำนำหอมแดง จำนำกระเทียม หรือจำนำทุกสิ่งทุกอย่าง มันจะดีหรือเลว ถูกหรือผิดก็ตาม แต่ถ้าหากรัฐบาลดัน ไม่มีเงิน มารับจำนำซะอย่าง หรือจำนำแล้วแต่ไม่ยอมให้เงิน หรือให้เงินช้าไปกว่าที่ควรจะเป็น ส่งผลให้หอมแดงเน่าแล้วเน่าอีก กระเทียมเน่าแล้วเน่าอีก รวมทั้งข้าวไม่ว่าหอมมะลิหรือไม่หอม เริ่มส่งกลิ่นเหม็นเน่าไปเป็นแผงๆ โอกาสที่จะเกิดม็อบชนิดต่างๆ โผล่พรวดๆ พราดๆ ขึ้นมา โดยไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเสธ.อ้าย เสธ.เอื้อย หรือเสธ.แอ้ด ฯลฯ เอาเลยแม้แต่น้อย มันย่อมต้องเป็นไปโดยธรรมชาติ หรือเป็นไปตามเหตุปัจจัย ว่าด้วยเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้จึงเป็นไป อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้เลย...
--------------------------------------------
และงานนี้...จะไปโทษอำมาตย์ โทษเจ้ามือหวย โทษเจ้าพ่อบ่อนย่านบางซื่อ หรือบางกรวยก็ตาม ย่อมเป็นไปไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะมันต้องโทษรัฐบาลเองนั่นแหละ ที่เป็นต้นเหตุ หรือเป็นเหตุปัจจัย อันทำให้เม็ดเงินงบประมาณนับเป็นแสนๆ ล้านๆ บาท ถูกใช้จ่ายไปอย่างสุรุ่ยสุร่าย จนชักจะเกิดอาการติดๆ ขัดๆ ตกอยู่ในสภาพ ยิ่งกู้ยิ่งฉิบหาย ยิ่งใช้จ่ายยิ่งล้มละลาย หนักขึ้นทุกที ทั้งนั้น ทั้งนี้ ก็เนื่องมาจากบรรดามาตรการและนโยบายต่างๆ ตามแบบฉบับ ทักษิณคิด-เผาไทยทำ นั่นเอง ที่มันได้ทำให้ รายจ่าย ของรัฐบาลและของประเทศ นับวันมีแต่จะสูงยิ่งขึ้นๆ เรื่อยๆ ในขณะที่ รายได้ หรือ รายรับ มีแต่จะตกต่ำลงไปทุกที...
-------------------------------------------
ไม่ต้องดูอะไรมากมาย...ดูแค่จากตัวเลขการสั่งเข้าพลังงานปีนี้ ที่พุ่งระเบิดเถิดเทิงระดับถูกเรียกว่า ทุบสถิติ การสั่งเข้าน้ำมันและก๊าซเท่าที่เคยมีมา ในตลอดไม่รู้กี่ทศวรรษ ต่อกี่ทศวรรษมาแล้ว เพียงแค่ 9 เดือนแรกของปีนี้ ประเทศทั้งประเทศต้องจ่ายให้กับ การสั่งเข้าพลังงานสูงถึงกว่า 9 แสนล้านบาท เพิ่มกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 16.1 เปอร์เซ็นต์ ถ้าหากคิดรวมไปจนถึงสิ้นปี คงหนีไม่พ้นไปกว่า 1 ล้านล้านบาทอยู่แล้วแน่ๆ ทั้งนั้น ทั้งนี้...ก็เนื่องมาจากการส่งเสริม สนับสนุน ให้ผู้คนในประเทศ ร่วมพร่าผลาญน้ำมัน อย่างเป็นบ้าเป็นหลัง ด้วยนโยบายรถคันแรก อันเป็นนโยบายที่ฉุดให้ตัวเลขการซื้อรถ พุ่งพรวดๆ พราดๆ กว่าภาวะปกติไปกว่าครึ่งล้านคัน เป็นต้น...
-------------------------------------------
ส่วนตัวเลขรายได้ หรือตัวเลขการส่งออก...ก็ไม่ต้องเสียเวลาไป ไวท์ ลาย ให้ต้องมึนหัวโดยใช่เหตุ เอากันแต่ตัวเลขการส่งออกข้าวไทยในปีนี้ จากที่เคยส่งออกกันปีละเป็นสิบๆ ล้านตัน วูบเดียวเหลือแค่ 6 ล้านตัน ร่วงจากตำแหน่งมหาอำนาจข้าวอันดับหนึ่ง โดนอินตระเดียและเวียดนาม มาแรงแซงโค้ง เบียดตกคู ตกคลอง ชนิดหน้าตาเฉย อันเนื่องมาจากนโยบายจำนำข้าวทุกเมล็ด เพื่อเก็บเอาไว้ให้มอดรับประทานนั่นเอง เฉพาะแค่ข้าวรายเดียว รายได้มันหายไปซักกี่หมื่น กี่แสนล้าน ไปแล้วก็ไม่รู้ ยิ่งต้องเจอกับภาวะตลาดยุโรป ตลาดอเมริกา หรือแม้กระทั่งตลาดจีน มีแต่จะหดตัว เหี่ยวตัว ลงไปทุกที อาจไม่ต่ำกว่า 2 ปี หรือ 5 ปีเป็นอย่างน้อย ไม่ว่าใครก็ใครเถอะ...ถ้าหากต้องเจอกับภาวะที่รายจ่าย มีแต่เพิ่มกับเพิ่ม ในขณะที่รายได้ มีแต่ลดกับลด ไปโดยตลอด ถ้าหากไม่เจ๊งวันนี้ ก็คงอีกไม่นานนั่นแหละ ยังไงๆ ก็คงต้องเจ๊งจนได้...
---------------------------------------------
ด้วยลักษณะอาการใกล้เจ๊ง หรือเจ๊งแล้วไปในบางส่วน...โดยธรรมชาติ มันย่อมก่อให้เกิดการอุบัติขึ้นมาของม็อบต่างๆ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้เลย ไม่ว่าจะมีเจ้ามือหวย เจ้ามือบ่อน ร่วมด้วยช่วยกันหรือไม่ก็ตาม เพราะโดยทฤษฎีวัตถุนิยมวิภาษ ตามแบบฉบับมาร์กซ-เลนิน บรรพบุรุษของคุณป้าธิดาแดง ได้ตอกย้ำเอาไว้ให้เห็นโดยชัดเจนอยู่แล้วว่า ถ้าไม่มีสถานการณ์ปฏิวัติ...ย่อมไม่มีพรรคปฏิวัติ นั่นเอง การรับมือกับม็อบต่างๆ ของรัฐบาล นับจากนี้เป็นต้นไป มันจึงไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค หรือยุทธวิธี ที่จะอาศัยคนระดับ ดอกเตอร์เหลิม หรือ ขวัญชัย ควายพนา เท่านั้น แต่มันเป็นเรื่องระดับยุทธศาสตร์ ที่จะต้องอาศัยนโยบายที่ถูกต้อง เหมาะสม ของรัฐบาลทั้งรัฐบาล ไม่ว่าการหาทางลดรายจ่ายให้มันน้อยๆ เข้าไว้ เพิ่มรายได้ให้มันสูงขึ้นไปกว่าเดิม ไม่เช่นนั้นก็ต้องหันมาให้ความสำคัญกับ ความพอเพียง ในทุกๆ ด้าน รวมทั้งการเอาจริง เอาจัง กับการทุจริต ประพฤติมิชอบทั้งหลาย ที่ทำให้เม็ดเงินงบประมาณ นับเป็นล้านล้าน มันถูกหักค่าหัวคิว เอาไปไซฟอนกันคราวละ 20-50 เปอร์เซ็นต์ เอาเลยก็มี...
-------------------------------------------
แต่ในเมื่อมีแค่การปรับคณะรัฐมนตรี โดยไม่ได้คิดที่จะปรับเปลี่ยนนโยบาย มีแต่การชักเข้า-ชักออก เพื่อให้พี่ชาย น้องสาว พี่เมีย น้องเมีย ออร์กัสซั่มกันไปเป็นรายๆ ปล่อยให้ประเทศชาติ และประชาชนค่อยๆ แห้งตาย ล่มสลายกันไปเป็นแถบๆ เช่นนี้ สุดท้าย...สถานการณ์ปฏิวัติ มันย่อมก่อให้เกิด ม็อบปฏิวัติ ขึ้นมาจนได้นั่นแหละ ยิ่งปีหน้าที่ว่ากันว่า สถานการณ์ เผาจริง กำลังจะมาถึงในอีกไม่นานไม่ช้า สำหรับ ดอกเตอร์เหลิม นั้น...โปรดได้เตรียมระเบิดควัน และแก๊ซน้ำตา ชนิดไม่มีเสียง เอาไว้รอรับรถ เป็ดย่างเดลิเวอรี่ ได้เลย...
-------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Karl Marx (อีกครั้ง)...Success, arrogance and injustice, then downfall. - ความสำเร็จ ความหยิ่งยโส และความอยุติธรรม จะเกิดก่อน และแล้ว...ความหายนะจะตามมา...
--------------------------------------------
--------------------------------------------
ก็คงต้องดูกันต่อไป...ว่าสำหรับม็อบคราวนี้ รัฐบาลท่านจะใช้หลักสากล หรือหลักสาเก เข้าสยบ จะใช้ระเบิดควันชนิดไม่มีเสียง แก๊ซน้ำตาชนิดไม่มีเสียง ใช้รถควบคุมฝูงชน ปฏิบัติการจากเบาไปหาหนัก ฯลฯ หรือจะใช้ ขวัญชัย ควายพนา ออกมาไล่ทุบ ไล่ตี มวลชนผู้ซึ่งอึดอัด ขัดข้องใจ ไม่พอใจต่อรัฐบาล เหมือนอย่างที่เคยเป็นมาในอดีต และก็คงไม่ใช่แต่เฉพาะม็อบกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านเท่านั้น ที่จองคิวทอดผ้าป่ารัฐบาลเอาไว้ ในวันที่ 7 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ภายใต้สภาวะที่รัฐบาลกำลังถังแตก หม้อแหก ต้องวิ่งหาเงินมาโปะนโยบายประชานิยม อย่างชนิดชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่จนทุกวันนี้ โอกาสที่จะเกิดม็อบหอมแดง ม็อบมันสำปะหลัง ม็อบยางพารา หรือแม้กระทั่งม็อบชาวนา ฯลฯ ทยอยตามมาติดๆ ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาเสียเลย...
--------------------------------------------
พูดง่ายๆ ว่า...ไม่ว่าโครงการจำนำข้าว จำนำหอมแดง จำนำกระเทียม หรือจำนำทุกสิ่งทุกอย่าง มันจะดีหรือเลว ถูกหรือผิดก็ตาม แต่ถ้าหากรัฐบาลดัน ไม่มีเงิน มารับจำนำซะอย่าง หรือจำนำแล้วแต่ไม่ยอมให้เงิน หรือให้เงินช้าไปกว่าที่ควรจะเป็น ส่งผลให้หอมแดงเน่าแล้วเน่าอีก กระเทียมเน่าแล้วเน่าอีก รวมทั้งข้าวไม่ว่าหอมมะลิหรือไม่หอม เริ่มส่งกลิ่นเหม็นเน่าไปเป็นแผงๆ โอกาสที่จะเกิดม็อบชนิดต่างๆ โผล่พรวดๆ พราดๆ ขึ้นมา โดยไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเสธ.อ้าย เสธ.เอื้อย หรือเสธ.แอ้ด ฯลฯ เอาเลยแม้แต่น้อย มันย่อมต้องเป็นไปโดยธรรมชาติ หรือเป็นไปตามเหตุปัจจัย ว่าด้วยเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้จึงเป็นไป อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้เลย...
--------------------------------------------
และงานนี้...จะไปโทษอำมาตย์ โทษเจ้ามือหวย โทษเจ้าพ่อบ่อนย่านบางซื่อ หรือบางกรวยก็ตาม ย่อมเป็นไปไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะมันต้องโทษรัฐบาลเองนั่นแหละ ที่เป็นต้นเหตุ หรือเป็นเหตุปัจจัย อันทำให้เม็ดเงินงบประมาณนับเป็นแสนๆ ล้านๆ บาท ถูกใช้จ่ายไปอย่างสุรุ่ยสุร่าย จนชักจะเกิดอาการติดๆ ขัดๆ ตกอยู่ในสภาพ ยิ่งกู้ยิ่งฉิบหาย ยิ่งใช้จ่ายยิ่งล้มละลาย หนักขึ้นทุกที ทั้งนั้น ทั้งนี้ ก็เนื่องมาจากบรรดามาตรการและนโยบายต่างๆ ตามแบบฉบับ ทักษิณคิด-เผาไทยทำ นั่นเอง ที่มันได้ทำให้ รายจ่าย ของรัฐบาลและของประเทศ นับวันมีแต่จะสูงยิ่งขึ้นๆ เรื่อยๆ ในขณะที่ รายได้ หรือ รายรับ มีแต่จะตกต่ำลงไปทุกที...
-------------------------------------------
ไม่ต้องดูอะไรมากมาย...ดูแค่จากตัวเลขการสั่งเข้าพลังงานปีนี้ ที่พุ่งระเบิดเถิดเทิงระดับถูกเรียกว่า ทุบสถิติ การสั่งเข้าน้ำมันและก๊าซเท่าที่เคยมีมา ในตลอดไม่รู้กี่ทศวรรษ ต่อกี่ทศวรรษมาแล้ว เพียงแค่ 9 เดือนแรกของปีนี้ ประเทศทั้งประเทศต้องจ่ายให้กับ การสั่งเข้าพลังงานสูงถึงกว่า 9 แสนล้านบาท เพิ่มกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 16.1 เปอร์เซ็นต์ ถ้าหากคิดรวมไปจนถึงสิ้นปี คงหนีไม่พ้นไปกว่า 1 ล้านล้านบาทอยู่แล้วแน่ๆ ทั้งนั้น ทั้งนี้...ก็เนื่องมาจากการส่งเสริม สนับสนุน ให้ผู้คนในประเทศ ร่วมพร่าผลาญน้ำมัน อย่างเป็นบ้าเป็นหลัง ด้วยนโยบายรถคันแรก อันเป็นนโยบายที่ฉุดให้ตัวเลขการซื้อรถ พุ่งพรวดๆ พราดๆ กว่าภาวะปกติไปกว่าครึ่งล้านคัน เป็นต้น...
-------------------------------------------
ส่วนตัวเลขรายได้ หรือตัวเลขการส่งออก...ก็ไม่ต้องเสียเวลาไป ไวท์ ลาย ให้ต้องมึนหัวโดยใช่เหตุ เอากันแต่ตัวเลขการส่งออกข้าวไทยในปีนี้ จากที่เคยส่งออกกันปีละเป็นสิบๆ ล้านตัน วูบเดียวเหลือแค่ 6 ล้านตัน ร่วงจากตำแหน่งมหาอำนาจข้าวอันดับหนึ่ง โดนอินตระเดียและเวียดนาม มาแรงแซงโค้ง เบียดตกคู ตกคลอง ชนิดหน้าตาเฉย อันเนื่องมาจากนโยบายจำนำข้าวทุกเมล็ด เพื่อเก็บเอาไว้ให้มอดรับประทานนั่นเอง เฉพาะแค่ข้าวรายเดียว รายได้มันหายไปซักกี่หมื่น กี่แสนล้าน ไปแล้วก็ไม่รู้ ยิ่งต้องเจอกับภาวะตลาดยุโรป ตลาดอเมริกา หรือแม้กระทั่งตลาดจีน มีแต่จะหดตัว เหี่ยวตัว ลงไปทุกที อาจไม่ต่ำกว่า 2 ปี หรือ 5 ปีเป็นอย่างน้อย ไม่ว่าใครก็ใครเถอะ...ถ้าหากต้องเจอกับภาวะที่รายจ่าย มีแต่เพิ่มกับเพิ่ม ในขณะที่รายได้ มีแต่ลดกับลด ไปโดยตลอด ถ้าหากไม่เจ๊งวันนี้ ก็คงอีกไม่นานนั่นแหละ ยังไงๆ ก็คงต้องเจ๊งจนได้...
---------------------------------------------
ด้วยลักษณะอาการใกล้เจ๊ง หรือเจ๊งแล้วไปในบางส่วน...โดยธรรมชาติ มันย่อมก่อให้เกิดการอุบัติขึ้นมาของม็อบต่างๆ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้เลย ไม่ว่าจะมีเจ้ามือหวย เจ้ามือบ่อน ร่วมด้วยช่วยกันหรือไม่ก็ตาม เพราะโดยทฤษฎีวัตถุนิยมวิภาษ ตามแบบฉบับมาร์กซ-เลนิน บรรพบุรุษของคุณป้าธิดาแดง ได้ตอกย้ำเอาไว้ให้เห็นโดยชัดเจนอยู่แล้วว่า ถ้าไม่มีสถานการณ์ปฏิวัติ...ย่อมไม่มีพรรคปฏิวัติ นั่นเอง การรับมือกับม็อบต่างๆ ของรัฐบาล นับจากนี้เป็นต้นไป มันจึงไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค หรือยุทธวิธี ที่จะอาศัยคนระดับ ดอกเตอร์เหลิม หรือ ขวัญชัย ควายพนา เท่านั้น แต่มันเป็นเรื่องระดับยุทธศาสตร์ ที่จะต้องอาศัยนโยบายที่ถูกต้อง เหมาะสม ของรัฐบาลทั้งรัฐบาล ไม่ว่าการหาทางลดรายจ่ายให้มันน้อยๆ เข้าไว้ เพิ่มรายได้ให้มันสูงขึ้นไปกว่าเดิม ไม่เช่นนั้นก็ต้องหันมาให้ความสำคัญกับ ความพอเพียง ในทุกๆ ด้าน รวมทั้งการเอาจริง เอาจัง กับการทุจริต ประพฤติมิชอบทั้งหลาย ที่ทำให้เม็ดเงินงบประมาณ นับเป็นล้านล้าน มันถูกหักค่าหัวคิว เอาไปไซฟอนกันคราวละ 20-50 เปอร์เซ็นต์ เอาเลยก็มี...
-------------------------------------------
แต่ในเมื่อมีแค่การปรับคณะรัฐมนตรี โดยไม่ได้คิดที่จะปรับเปลี่ยนนโยบาย มีแต่การชักเข้า-ชักออก เพื่อให้พี่ชาย น้องสาว พี่เมีย น้องเมีย ออร์กัสซั่มกันไปเป็นรายๆ ปล่อยให้ประเทศชาติ และประชาชนค่อยๆ แห้งตาย ล่มสลายกันไปเป็นแถบๆ เช่นนี้ สุดท้าย...สถานการณ์ปฏิวัติ มันย่อมก่อให้เกิด ม็อบปฏิวัติ ขึ้นมาจนได้นั่นแหละ ยิ่งปีหน้าที่ว่ากันว่า สถานการณ์ เผาจริง กำลังจะมาถึงในอีกไม่นานไม่ช้า สำหรับ ดอกเตอร์เหลิม นั้น...โปรดได้เตรียมระเบิดควัน และแก๊ซน้ำตา ชนิดไม่มีเสียง เอาไว้รอรับรถ เป็ดย่างเดลิเวอรี่ ได้เลย...
-------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Karl Marx (อีกครั้ง)...Success, arrogance and injustice, then downfall. - ความสำเร็จ ความหยิ่งยโส และความอยุติธรรม จะเกิดก่อน และแล้ว...ความหายนะจะตามมา...
--------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น