หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

พบอีก-ติดเชื้อร้ายแบคทีเรียมรณะ เป็นเถ้าแก่โรงสี แผลลามขาเน่า เมื่อ 28 ก.ค.57



พบอีก-ติดเชื้อร้ายแบคทีเรียมรณะ เป็นเถ้าแก่โรงสี แผลลามขาเน่า
 
พบอีก-ติดเชื้อร้ายแบคทีเรียมรณะ เป็นเถ้าแก่โรงสี แผลลามขาเน่า
เจออีกราย เถ้าแก่โรงสีเมือง ราชบุรี ติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคน เผยตอนแรกมีแผลถลอกที่น่องซ้าย

แล้วโดนแมลงหวี่ตอมจึงตบตายคาแผล ตกดึกเป็นไข้หนาวสั่น ขาบวมเป่ง มีรอยเลือดคั่ง เริ่มพูดไม่ชัด ปวดหัวรุนแรง ลูกๆ ช่วยหามส่งโรงพยาบาล หมอตรวจเลือดพบติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคน ต้องผ่าตัดเอาเนื้อตายออกจนเหวอหวะ รองอธิบดีกรมควบคุมโรคระบุโดยหลักการไม่น่าเป็นไปได้ที่จะติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคนจากแมลงหวี่
จากกรณีเกิดเหตุสลดญาตินายแบงก์ กสิกรไทยเลือกปลาทับทิมแล้วถูกเงี่ยงปลา ตำนิ้ว เป็นแผลบวมอักเสบ ไปหาหมอที่ โรงพยาบาล

สุดท้ายอาการหนัก กล้ามเนื้อเน่า เชื้อโรคลามเข้ากระแสเลือดเสียชีวิต แพทย์ตรวจพบเชื้อ "แบคทีเรียกินเนื้อคน" ตระกูล "แอโรโมแนส" ซึ่งส่วนใหญ่พบตามตัวปลา ก้าง เงี่ยง ซอกเหงือก หากเชื้อเข้าสู่ร่างกาย จะทำลายกล้ามเนื้อและเส้นเลือด ต่อมา นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรคยืนยันพิษรุนแรง หากผู้รับเชื้อ มีภูมิต้านทานไม่ดี ถึงขั้นเสียชีวิตภายใน 48 ชั่วโมง พร้อมระบุขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนรักษา ตามที่ข่าวสดเสนอข่าวไปแล้วนั้น

วานนี้ ( 26 ก.ค.) ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" ได้รับแจ้งมีคนไข้ที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ

จากการติดเชื้อแบคทีเรีย กินเนื้อคนอีกราย จึงเดินทางไปยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลตำรวจ พบนายเทพ สามนานนท์ อายุ 80 ปี เจ้าของโรงสีเทพอำนวย อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 6 ต.บ้านไร่ อ.เมือง จ.ราชบุรี กำลังนอนพักรักษาตัวอยู่ในห้องคนไข้ โดยขาซ้ายมีผ้าพันแผลพันอยู่ตั้งแต่เข่าลงมาถึงข้อเท้า

นายเทพเปิดเผยว่า ก่อนจะมานอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเริ่มแรกมีอาการแผลผื่นคันเล็กน้อยที่ขาซ้ายช่วงน่อง แต่คิดว่าไม่เป็นอันตราย จึงปล่อยไว้

เพราะเห็นว่าเป็นไม่มาก จนมีแมลงหวี่มาตอมบริเวณที่เป็นแผลผื่นคัน ตนจึงเอามือไปตบแมลงหวี่จนตายตรงบริเวณแผลพอดี พอตกกลางดึกเริ่มมีอาการหนาวสั่นเหมือนเป็นไข้ วันรุ่งขึ้นจึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลเมืองราช หมอนำเลือดไปตรวจแล้วแจ้งผลว่าติดเชื้อแบคทีเรียขั้นรุนแรง ลูกสาวจึงรีบส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลพญาไท 1 กรุงเทพฯ เพราะแผลเริ่มเน่า เมื่อมาถึงโรงพยา บาลพญาไท 1 หมอนำเลือดไปตรวจซ้ำพร้อมนำเนื้อบริเวณบาดแผลไปตรวจ ต่อมาหมอแจ้งผลตรวจว่าติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคน จึงรักษามาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ได้ย้ายมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ 
น.ส.จิตติมา สามนานนท์ อายุ 47 ปี ลูกสาวนายเทพ เล่าอาการป่วยของบิดาอย่างละเอียดว่า
พ่อมีอาการแผลผื่นคันที่น่องซ้ายตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค แต่เห็นว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่แผลถลอกเล็กๆ ธรรมดา จนมีแมลงหวี่มาตอมบริเวณที่เป็นแผลผื่นคัน พ่อจึงเอามือไปตบแมลงหวี่จนตายคาแผล พอตกดึกราวตี 1-2 เริ่มมีอาการหนาวสั่นเหมือนเป็นไข้ เลยปิดแอร์ในห้องนอน ก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย มาถึงช่วงเช้าก็นอนพักผ่อนตลอดเพราะยังมีไข้และรู้สึกมึนศีรษะ ตกเย็นจึงไปหาหมอที่คลินิกใกล้บ้าน หมอให้ยามากิน อาการก็ดีขึ้น เล็กน้อย แต่วันที่ 12 ก.ค.สังเกตว่าขาซ้ายที่เป็นแผลเริ่มบวม เลยไปหาหมอโรคผิวหนัง แต่คลินิกปิด จึงไปซื้อยาที่ร้านขายยามากินแทน

น.ส.จิตติมากล่าวว่า ต่อมาวันที่ 13 ก.ค. พ่อนอนซึม ขาบวมขึ้น แต่ยังไม่มีรอยอะไรผิดปกติ คิดว่าขาอักเสบเดี๋ยวก็ยุบ

แต่วันที่ 14 ก.ค.ขาเริ่มบวมขึ้นอีก เห็นรอยเลือดคั่งบริเวณแผลและขยายวงกว้างขึ้นมาก พ่อเริ่มพูดไม่ชัด มีอาการปวดหัวรุนแรง ไม่มีเรี่ยวแรง ลูกๆ และคนงานในโรงสีต้องหามส่งโรงพยาบาลเมืองราช จ.ราชบุรี ตอนแรกคิดว่าเป็นอาการเกี่ยวกับสมอง เส้นเลือดตีบ แต่เมื่อหมอตรวจเลือดผลออกมาพบว่าติดเชื้อรุนแรง แต่ไม่ได้ระบุว่าเชื้ออะไร เนื่องจากต้องรอผลอีก 3 วัน จากนั้นพ่อความดันตก เหลือ 80/40 หมอก็ให้ยาฆ่าเชื้อ ให้ยาเพิ่มความดัน แต่ลูกๆ เห็นว่าอาการไม่น่าวางใจจึงขอให้ทางโรงพยาบาลเมืองราชประสานมาที่โรงพยาบาลพญาไท 1 พร้อมส่งตัวมารักษาในคืนวันเดียวกัน

น.ส.จิตติมากล่าวว่า เมื่อมาถึงโรงพยาบาลพญาไท 1 หมอให้นำตัวคนไข้เข้าห้องซีซียูทันที

และดูแลเรื่องความดันให้ปกติเป็นอันดับแรก พร้อมนำเลือดไปตรวจซ้ำ และนำเนื้อบริเวณแผลไปตรวจด้วย ระหว่างนี้หมอ บอกว่าเชื้อเริ่มลามไปยังอวัยวะอื่น อาการโดยรวมค่อนข้างวิกฤตจึงต้องดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด และให้ยาฆ่าเชื้ออย่างรุนแรงต่อเนื่อง โดยรักษาในห้องซีซียู 3 คืน จนความดันปกติ อาการอื่นๆ ทุเลาลง วันที่ 17 ก.ค.จึงออกจากซีซียูมาอยู่ห้องธรรมดา ช่วงเย็นวันที่ 18 ก.ค. หมอนำพ่อเข้าห้องผ่าตัดเพื่อเอาเนื้อเน่าบริเวณแผลออก หลังผ่าตัดตนเห็นแผลแล้วรู้สึกสงสารมาก เพราะจากแค่แผลถลอกกลายเป็นแผลใหญ่มาก ต่อมาหมอแจ้งผลตรวจเลือดว่าติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคน ซึ่งหมอไม่ได้บอกรายละเอียดเรื่องสายพันธุ์ใดๆ แต่หากมารักษาไม่ทันก็อันตรายถึงชีวิต

อย่างไรก็ตาม เมื่ออาการพ้นขีดอันตราย ซึ่งหมอใช้คำว่าเอาอยู่ จึงขอย้ายมารักษาตัว ที่โรงพยาบาลตำรวจในวันที่ 23 ก.ค.

เพราะหมอที่โรงพยาบาลพญาไท 1 แจ้งว่าอาจต้องใช้เวลารักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเดือน ตอนนี้บาดแผลผ่าตัดที่น่องยังมีผดผื่นแดง ก็ต้องคุยกับหมอที่โรงพยาบาลตำรวจว่าต้องรักษาอย่างไรต่อไป น.ส.จิตติมากล่าวว่า ปัจจุบันทางโรงพยาบาลตำรวจก็รักษาไปตามอาการ ล้างแผล ทุกวัน แต่เมื่อวันที่ 26 ก.ค.พ่อมีอาการเพิ่มขึ้นคือเป็นแผลกดทับที่ลูกอัณฑะ ตนไม่แน่ใจว่าเป็นอาการสืบเนื่องจากการเป็นแผลเกี่ยวกับโรคเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคนหรือไม่ ต้องรอพบแพทย์เพื่อรับแจ้งผลตรวจรักษาก่อน และต้องรอผลการตรวจเลือดซ้ำอีกครั้งของทางโรงพยาบาลตำรวจด้วย

"น่ากลัวมาก ไม่คิดว่าเป็นแผลถลอกนิดเดียวจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ขนาดนี้ ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลอีกนานเท่าไหร่ แต่ต้องขอบคุณหมอทุกคนที่ช่วย รักษาอย่างดี จนคุณพ่อปลอดภัย" น.ส.จิตติมากล่าว
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า
โดยหลักการไม่น่าเป็นไปได้ที่ แมลงหวี่ตอมบาดแผลแล้วจะทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคน อาจเป็นแบคทีเรียชนิดอื่น ก่อนหน้านี้ก็ยังไม่เคยมีรายงานเรื่องในลักษณะดังกล่าว ที่สำคัญยังไม่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุของการเกิดแผลผื่นคัน คงต้องตรวจสอบกับแพทย์เจ้าของคนไข้อีกครั้ง เพื่อยืนยันข้อมูล
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น