สาวใหญ่วัย 51 ปี ชาว อ.แกลง จ.ระยอง ร้องสื่อหลังถูกสามีที่อยู่กินกันมานานกว่า 20 ปี จนมีลูกด้วยกัน 2 คน สาดน้ำกรดใส่จนได้รับบาดเจ็บตามใบหน้าและลำตัว เผยสาเหตุจากฝ่ายสามีแอบไปมีความสัมพันธ์กับหลานสาวของเหยื่อ จนเกิดการระหองระแหงกันเรื่อยมา
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายบัญญัติ เศียรเขียว ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอแกลง จ.ระยอง ว่า นางชลธิชา จริยะสาพร อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61/2 หมู่ 7 ต.กระแสบน อ.แกลง ได้ถูก นายประวัต สัมฤทธิ์ อายุ 43 ปี ผู้เป็นสามี สาดน้ำกรดใส่จนเป็นแผลเหวอะหวะตามใบหน้าและลำตัว จนต้องเข้ารักษาบาดแผลที่ รพ.วังจันทร์ ก่อนกลับมาซ่อนที่บ้านญาติใน ต.กระแสบน อ.แกลง เพราะเกรงว่าจะถูกทางสามีตามมาทำร้ายซ้ำอีก
ทั้งนี้ นางชลธิชา ได้เข้าแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.แกลง แต่คดีไม่มีความคืบหน้า จึงเดินทางไปตรวจสอบ ทั้งนี้ นางชลธิชา ซึ่งยังอยู่ในสภาพบอบช้ำ ได้เล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.00 น. ขณะตนกำลังกรีดยางอยู่ นายประวัต สามี ได้เดินมาหาพร้อมกับด่าทออย่างเสียหาย พร้อมกับยกกระป๋องน้ำที่มีน้ำกรดสาดเข้ามาที่ใบหน้าและลำตัวจนเกิดอาการแสบร้อน จึงร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านให้ช่วยนำส่งโรงพยาบาล จากนั้นได้ให้ น.ส.ธิรา อ่อนสีทอง อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นน้องสาว เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ชนะพล ภัทรชนานนท์ พนักงานสอบสวน สภ.แกลง ในวันที่ 31 พ.ค. แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า
นางชลธิชา เล่าอีกว่า เมื่อปีที่แล้วได้ทะเลาะวิวาทกับ นายประวัต สามี และถูกทุบตีแต่ไม่ได้เข้าแจ้งความ กระทั่งเมื่อเดือน ธ.ค. 56 ก็ได้ถูกนายประวัตใช้ท่อยางตี และฉีดยาฆ่าหญ้าใส่ตาข้างซ้ายจนขุ่นมัวมองไม่ชัด วึ่งตนได้เข้าแจ้งความไว้กับ ร.ต.ท.ณัฐกฤต คงลอด พนักงานสอบสวน สภ.แกลง แต่คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้าเช่นกัน สำหรับสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้น เนื่องมาจาก นายประวัติ ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหลานสาวของตน วัย 25 ปี เลยเป็นเหตุให้มีปากเสียงกันเรื่อยมา แต่ครั้งนี้รุนแรงที่สุดถึงกับนำน้ำกรดมาสาด ซึ่งตนได้อยู่กินเป็นสามีภรรยากันมากว่า 20 ปี มีลูก 2 คน และยังไม่ได้หย่าขาดกัน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่นั้นเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ถ้าไม่มีความคืบหน้าจะเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร พร้อมร้องเรียนกับมูลนิธิปวีณาฯ ให้ช่วยติดตามคดีและเอาเรื่องกับสามี เพราะที่ผ่านมาตนถูกสามีทำร้ายมาโดยตลอด จนญาติพี่น้องนั้นต้องห้ามปรามและแยกทางกันอยู่
ด้าน นายบัญญัติ ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอแกลง กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีทำร้ายร่างกายแต่มีความรุนแรงทางด้านจิตใจ
จึงได้มาเยี่ยมครอบครัว นางชลธิชา พร้อมกับให้กำลังใจและจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเรื่องความปลอดภัย และติดตามคดีที่เข้าแจ้งความไว้ เพราะคดีนี้เป็นปัญหาครอบครัวที่มีความละเอียดอ่อน ถ้า นางชลธิชา ผู้เสียหายจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น