วันอังคารที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2556

“สมรภูมิเลือกตั้ง” เดือด เจอแรงต้านมวลมหาชน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 ธันวาคม 2556 07:05 น

“สมรภูมิเลือกตั้ง” เดือด เจอแรงต้านมวลมหาชน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์23 ธันวาคม 2556 07:05 น

ผ่าประเด็นร้อน
       
       การรับสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อวันแรกในวันนี้ (23 ธ.ค.) ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง คงคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง เมื่อม็อบกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยฯ (กปปส.) ประกาศชัดจะยกขบวนไปดูใครจะมาสมัครบ้าง ขณะที่พรรคเพื่อไทยและพรรคชาติไทยพัฒนายังยืนยันจะไปสมัครแน่
       
       พรรคใหญ่อย่างพรรคประชาธิปัตย์บอยคอยการเลือกตั้ง แต่เมื่อทุกอย่างต้องเดินหน้าไป แม้ประชาธิปัตย์จะไม่ร่วมสังฆกรรมลงเลือกตั้งเพื่อสร้างสภาทาส ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีก็ยังคงสั่งเดินหน้าให้มีการเลือกตั้งให้ได้ ดูได้จากการดิ้นรนของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ที่ไปจับเข่าคุยกันเมื่อช่วงสายวันเสาร์ที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง
       
       วงหารือดังกล่าวมีจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, บรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา, สุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรคชาติพัฒนา และสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล เป็นต้น
       
       ได้ข้อสรุปว่า ยังไงก็ต้องลุยต่อ แต่เพื่อให้การเลือกตั้งเดินไปได้ และให้การต่อต้านคัดค้านลดน้อยลงก็เห็นว่าควรมีสัญญาประชาคมว่า รัฐบาลและสภาฯชุดใหม่หลังเลือกตั้งให้มีอายุแค่ประมาณ 1 ปี
       
       ระหว่าง 1 ปีดังกล่าวก็ให้มีการเดินหน้าเรื่องปฏิรูปประเทศ ผ่านการจัดตั้งสภาปฏิรูปประเทศ พอทุกอย่างเสร็จก็ยุบสภา
       
       เป็นที่มาที่ยิ่งลักษณ์รีบออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ ระหว่างทำภารกิจอยู่ที่กาฬสินธุ์ เพื่อเสนอแนวทางสภาปฏิรูปประเทศและพรรคเพื่อไทย ต้องรีบออกแถลงการณ์ขอโอกาสตั้งรัฐบาลเถื่อน-สภาทาส หลังเลือกตั้ง สัก 1 ปี
       
       คำถามตัวโตๆ ที่ตามมา คือ แม้ยิ่งลักษณ์ และเพื่อไทยจะถอยร่น ทำทุกทางเพื่อให้มีการเลือกตั้งมารับรองความชอบธรรมของสภาทาสชุดใหม่และรัฐบาลหุ่นเชิดของทักษิณ แต่มวลมหาประชาชนทั้งประเทศที่เห็นด้วยกับการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง และไม่เอาระบอบทักษิณ จะยอมหรือไม่
       
       เพราะพฤติกรรม-สันดานของทักษิณ ยิ่งลักษณ์ และเครือข่ายในพรรคเพื่อไทยรวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล ที่ทรยศหักหลังประชาชน มานับครั้งไม่ถ้วน แม้แต่กับพวกเสื้อแดงด้วยกันเองก็ยังไม่เว้น จากตัวอย่างกรณีลักหลับเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ
       
       การที่ยิ่งลักษณ์เสนอให้ทุกพรรคการเมืองที่ส่งคนลงเลือกตั้งและขอให้ทุกภาคส่วน ทุกองค์กรมาร่วมทำสัตยาบันการจัดตั้งสภาปฏิรูปประเทศหลังได้สภาฯ และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เลือกตั้งโดยมีกรอบเวลาการทำงานของสภาปฏิรูปประเทศที่ชัดเจนคือ ไม่เกิน 2 ปี แล้วก็ตามมาด้วย การที่ พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ในช่วงเย็นเมื่อ 21 ธ.ค. ย้ำว่าจะเดินหน้าเลือกตั้ง 2 ก.พ. 2557 ต่อไป แต่ขอให้สัญญาว่าถ้าพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจจากประชาชนจนมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะเร่งดำเนินการปฏิรูปประเทศที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1 ปี หลังจากนั้นจะคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็ว
       
       ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยรวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลเวลานี้ ประเมินประชาชนต่ำเกินไป คิดว่าประชาชนรู้ไม่ทันว่า ทั้งหมดที่ยิ่งลักษณ์-เพื่อไทย ทำก็เป็นการถอยในลักษณะเดียวกับตอนที่ จนมุม ในช่วงที่ประชาชนลุกฮือออกมาต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ
       
       ถอยเพราะรู้ว่า มวลมหาประชาชนนับล้านได้ออกมารวมตัวบนท้องถนนทั่วกรุงเทพมหานคร อีกแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขับไล่ยิ่งลักษณ์ให้พ้นจากการเป็นนายกฯ รักษาการ ซึ่งการที่มีประชาชนออกมาจำนวนมากขนาดนี้ ก็เป็นสัญญาณให้เห็นชัดว่า แม้มีการเลือกตั้ง
       
       แต่การเลือกตั้งก็คงไม่ราบรื่น มีโอกาสสูงมากที่ประชาชนจะมาออกเสียงแต่จะกาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน-โนโหวต หรือไม่ก็อาจไม่ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลย ระดับเกิน 10 ล้านเสียงขึ้นไป ซึ่งหากออกมาเช่นนั้น ก็จะทำให้สภาฯ และรัฐบาลหลังเลือกตั้ง กลายเป็นสภาและรัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรม
       
       อีกทั้งที่ยิ่งลักษณ์-เพื่อไทย ใส่เกียร์ถอยก็เพราะรู้ว่าเมื่อประชาธิปัตย์ ไม่ส่งคนลงเลือกตั้ง ก็จะทำให้เป็น “การเลือกตั้งที่ไม่มีการแข่งขัน มีเลือกตั้งก็เหมือนไม่มีการเลือกตั้ง” โดยเฉพาะในพื้นที่สำคัญอย่างกรุงเทพมหานคร ที่พรรคซึ่งมีอดีต ส.ส.มากที่สุดไม่ลงแข่งขัน
       
       รวมถึงการแข่งขันในการหาเสียงคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ ที่จะกร่อยทันที เมื่อประชาธิปัตย์ที่เคยได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์เกือบ 12 ล้านเสียงเมื่อปี 54 ไม่ได้ลงเลือกตั้ง อันทำให้ผลการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 ที่จะออกมา ต่อให้ใครชนะการเลือกตั้งก็ไม่ได้มีความภาคภูมิใจอะไรเลย
       
       ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-เพื่อไทย-พรรคร่วมรัฐบาล จึงต้องแก้เกมอย่างที่เห็นกับการเสนอสัญญาประชาคม จัดตั้งสภาปฏิรูปประเทศและยุบสภาฯ หลังเสร็จภารกิจเรื่องนี้ ทันที แต่ดูแล้ว บอกได้เลยว่า ไม่ได้ผล
       
       เพราะประชาชนอ่านขาดว่า ที่เพื่อไทยทำก็เพื่อแก้เกมการเมืองเท่านั้น คือ ทำให้ข้อเรียกร้องของกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยฯ (กปปส.) ที่เสนอให้ปฏิรูประเทศให้สำเร็จก่อนแล้วถึงค่อยเลือกตั้ง ถูกลดทอนพลังไปด้วยการที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยให้สัญญาแล้วว่า จะทำเรื่องนี้แน่นอน แต่ขอให้ทำหลังเลือกตั้ง
       
       พูดง่ายๆ เวลานี้ เพื่อไทย-ยิ่งลักษณ์ หน้ามืดตามัวไปหมดแล้ว อะไรก็ได้ ขอให้มวลชนที่ถนนราชดำเนิน หายไปให้ได้ และมีการเลือกตั้ง มีการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งให้ได้ ขอกลับมามีอำนาจอีกครั้ง แม้แค่ 1-2 ปีก็ยังดี ตอนนี้เอาแค่นี้ก่อน แก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไปก่อน เรื่องอื่นๆ ว่ากันทีหลัง
       
       มันเป็นอาการสติแตกของเพื่อไทยไปแล้ว
       
       ส่วนทางด้านประชาธิปัตย์ เมื่อบอยคอยเลือกตั้งแล้ว ช่วงฤดูกาลหาเสียงเลือกตั้งประมาณ 4-5 อาทิตย์จากนี้ ต้องจับตาดูว่าอะไรความเคลื่อนไหวอะไรกันบ้าง
       
       เบื้องต้นพบว่า แนวทางประชาธิปัตย์จะไม่เล่นบทขัดขวางการเลือกตั้ง อย่างเช่น ชูแคมเปญบอกประชาชนว่าไม่ต้องออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะคงไม่เป็นผลดีกับพรรค หากทำเช่นนั้นจะถูกมองว่าขัดขวางกระบวนการประชาธิปไตยได้ และอาจถูกฝ่ายตรงข้ามหาช่องทางเอาผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่อาจต้องให้อดีต ส.ส.-สาขาพรรคทั่วประเทศเกือบ 180 แห่ง ขยับหนักๆ เพื่อแจงเหตุผลกับประชาชนและคนที่เลือกประชาธิปัตย์ทั่วประเทศว่า เพราะเหตุใดพรรคจึงไม่ส่งคนลงเลือกตั้ง
       
       จะเน้นให้ข้อมูลว่าเลือกตั้งครั้งนี้ มีปัญหาอย่างไร เลือกไปแล้วจะเกิดปัญหากับการเมืองไทยอย่างไร ซึ่งข้อมูลที่สื่อออกไปย่อมมีผลแน่นอนกับการทำให้คนจำนวนมากคล้อยตามจนคิดตรงกันว่า “ไม่ควรไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หรือไปใช้สิทธิแต่โหวตโน”
       
       หากมีโหวตโนหลายล้านคน ชัยชนะหลังเลือกตั้งของเพื่อไทย ก็ไม่มีความหมาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น