หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ข้องใจรพ.รักษาเด็กม.4ไข้เลือดออกป่วยตาย เมื่อ 25 ธ.ค.55



ข้องใจรพ.รักษาเด็กม.4ไข้เลือดออกป่วยตาย
 
ผู้ปกครองของ "น้องแอล" เด็กนักเรียนชั้นม.4 โรงเรียนวัดนวลนรดิษฐ์ หอบพวงหรีด ไว้อาลัยหน้าโรงพยาบาลใน จ.ระยอง เหตุข้องใจลูกสาวนอนรักษาไข้เลือดออกแล้วอาการโคม่า กลับถูกบอกให้อดทน จนช็อกเสียชีวิต
วันนี้ (24 ธ.ค.) นายกิติรัช  อุดานนท์ อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 73/4 หมู่ 6 ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง และนางพรรณี อุดานนท์  อายุ 47 ปี ภรรยา พร้อมญาติพี่น้องแต่งกายชุดดำจำนวน 20 คน นำพวงหรีดมีข้อความว่า”ไว้อาลัยแด่แพทย์และทีมงานสุขภาพ” และถือรูปภาพ น.ส.อชิรญา  อุดานนท์ หรือ น้องแอล ผู้เสียชีวิต เดินเข้าไปภายในอาคารผู้ป่วยโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง ท่ามกลางผู้ป่วยที่มารอรับการรักษาต่างให้ความสนใจจำนวนมากรวมทั้งเจ้าหน้าที่พยาบาล  จากนั้นเดินไปวางพวงหรีดที่บริเวณหน้ารพ. ย่านถนนสุขุมวิท  อ.เมืองระยอง เนื่องจากไม่พอใจแพทย์เจ้าของไข้  ทางญาติจึงเรียกร้องให้โรงพยาบาลเยียวยาชดใช้ค่าเสียหาย โดยมี รองผอ.ของรพ. ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวไว้พิจารณา

สำหรับผู้เสียชีวิต เป็นเด็กสาวอายุเพียง 15 ปี   นักเรียนชั้นม.4 โรงเรียนวัดนวลนรดิษฐ์ อาศัยอยู่กับญาติ แล้วเกิดป่วยเป็นไข้เลือดออกมาเข้ารับการรักษาได้ 3 วันจึงเสียชีวิต ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้เข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน กรุงเทพฯ แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคไข้เลือดออกและนัดเจาะเลือดแต่ให้กลับบ้านก่อน หลังจากนั้น 3 วัน จึงเริ่มมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน จึงพาไปรักษาที่ โรงพยาบาลศิริราช แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นไข้เลือดออกแต่ผลเกร็ดเลือดเกิน 1แสน 1 หมื่น เซล ถือว่ายังปกติไม่เป็นอันตรายและแพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน แต่ต้องเฝ้าระวังอาการโรคแทรกซ้อนเช่นเลือดออกทางเดินอาหาร เลือดกำเดา ปวดท้อง หากเกิดอาการแทรกซ้อนต้องรีบพบแพทย์ทันที

จนกระทั้งเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิต เข้ามารับการรักษาที่รพ.ที่ถูกร้องเรียน
เนื่องจากมีอาการเลือดกำเดาไหลและปวดท้อง แพทย์เจ้าของคนไข้ได้ให้น้ำเกลือ เจาะเลือด ให้นอนรอดูอาการที่รพ. จนวันรุ่งขึ้นที่ (18 ธ.ค.) 
นางพรรณี อุดานนท์ มารดาที่เฝ้าดูอาการบุตรสาว ได้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่พยาบาลว่า ผู้เสียชีวิตมีอาการถ่ายเป็นสีดำและมีกลิ่นเหม็นคาวเลือด ปวดท้องตลอดเวลา หน้าซีดไม่มีสีเลือด และได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่พยาบาลว่า ต้องอดทนและไม่ยอมมาดูอาการให้แต่อย่างใด จนบุตรสาวมีอาการช็อคหมดสติ เจ้าหน้าที่พยาบาลรีบนำเข้าห้องไอซียู แพทย์พยายามช่วยปั๊มหัวใจแต่ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้และเสียชีวิตเมื่อเวลา 02.44 น.ของวันที่ 19 ธันวาคม 

นายกิติรัช บิดาผู้เสียชีวิตกล่าวและว่าตนและญาติพี่น้องคาดหวังว่า รพ.ที่ร้องเรียนแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีมาตรฐาน มีเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตบุตรสาวไว้ได้จึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรม

อย่างไรก็ตาม รอง ผอ.ของรพ. ที่ถูกร้องเรียน ได้กล่าวว่า ได้รับเรื่องเพื่อเสนอ ผอ.รพ.แล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กับเจ้าหน้าที่พยาบาลที่เกี่ยวข้อง แพทย์เจ้าของไข้ ทีมงานสุขภาพและเจ้าหน้าที่ห้องไอซียูว่าให้การดูแลรักษาตามขั้นตอนของการรักษาตามมาตรฐานหรือไม่ โดยจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ส่วนเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาค่าเสียหายจะเสนอเรื่องให้มีการพิจารณาต่อไป 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น