หน้าเว็บ
▼
วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
ซักฟอก‘รมต.’รายบุคคล ‘โต้ง-บุญทรง-ปึ้ง’ไม่รอด ข่าวหน้า 1 7 November 2555 - 00:00
ฝ่ายค้านจ่อยื่นถอดถอน-ซักฟอกรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล จัดหนัก “ยิ่งลักษณ์” พ่วง “โต้ง โกหกสีขาว” ทำลายความเชื่อมั่นของประเทศ “บุญทรง” ตามคาดจำนำข้าวเปิดช่องโกงกิน “ปึ้งศักดิ์” โดนข้อหาคืนพาสปอร์ตให้ น.ช.ทักษิณ “ปลอด” ก็ไม่รอด ฐานรับผิดชอบน้ำแต่พบทุจริตอื้อ ขณะที่เพื่อไทยปากกล้าขาสั่น โวลั่นไม่มีอะไรในกอไผ่
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงเมื่อวันอังคารว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ใช่เรื่องพิธีกรรมตามที่ฝ่ายรัฐบาลกล่าวหา แต่เป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุล ปฏิบัติหน้าที่แทนประชาชนในการตรวจสอบฝ่ายบริหาร โดยในวันที่ 8 พฤศจิกายน เวลา 10.30 น. จะมีการยื่นถอดถอน แต่จะยื่นถอดถอนใครนั้น จะแจ้งให้ทราบในวันดังกล่าว
ทั้งนี้ การยื่นถอดถอนนั้นจะต้องเข้าข่าย 3 ประเด็น คือ 1.กรณีร่ำรวยผิดปกติ 2.กรณีการทุจริต และ 3.การทำผิดกฎหมาย ซึ่งเมื่อยื่นถอดถอนต่อประธานวุฒิสภาแล้ว ประธานวุฒิสภาจะมีการตรวจสอบก่อนที่จะส่งให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบสวน และหาก ป.ป.ช.ชี้มูล ก็จะส่งเรื่องให้วุฒิสภาถอดถอนด้วยเสียง 3 ใน 5
นายจุรินทร์บอกว่า ขณะนี้ได้ประสานเลขาธิการวุฒิสภาแล้ว และในวันที่ 9 พฤศจิกายน จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อประธานสภาฯ สำหรับพรรคร่วมฝ่ายค้านนั้น ขณะนี้พรรครักประเทศไทยและพรรคภูมิใจไทยได้ประสานงานจะร่วมลงชื่อเสนอญัตติอย่างแน่นอน ส่วนในเรื่องประเด็นการอภิปรายนั้น จะมีการนำมาพิจารณาร่วมกันอีกครั้งเพื่อไม่ให้มีความซ้ำซ้อน
มีรายงานแจ้งว่า สำหรับผู้ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นญัตติขอถอดถอนและขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นอกจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแล้ว ยังจะยื่นถอดถอนและอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลด้วย ประกอบกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเองก็มีความเห็นพ้องต้องกัน เช่น นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ที่คาดว่าจะขออภิปราย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ
ส่วนรัฐมนตรีที่อยู่ในข่ายการถอดถอนและอภิปรายไม่ไว้วางใจ ประกอบด้วย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.การคลัง ในฐานะที่เป็นผู้ดูแลนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ได้สร้างหนี้สาธารณะสูงขึ้นจากเดิมอีก 3% เป็น 44.89 % จากการกู้เงินมาใช้จ่ายในนโยบายประชานิยมของรัฐบาล
รวมถึงกรณีการออกพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ก.) เงินกู้ 4 ฉบับ โดยอ้างว่าจะมาใช้เพื่อฟื้นฟูเยียวยาน้ำท่วมเป็นการเร่งด่วน แต่กลับพบว่ามีการใช้เงินไปบางส่วนเท่านั้น แต่ต้องเสียดอกเบี้ยจากการกู้เงินดังกล่าว และไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วนแต่อย่างใด
“ที่สำคัญที่สุดคือกรณีการโกหกสีขาวที่ปั้นตัวเลขยอดการส่งออกสินค้าไทยสูงถึง 15% ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของชาติ”
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่รับผิดชอบนโยบายจำนำข้าวที่เปิดช่องให้มีการสวมสิทธิ์ข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน การอ้างชื่อบุคคลที่ไม่ใช่เกษตรกรมาสวมสิทธิ์เป็นชาวนา เพื่ออ้างสิทธิในการจำนำข้าวที่เอาเข้ามาโดยนายทุน ให้เงินตอบแทนรายละ 2-3 พันบาทในการใช้ชื่อ แต่ผลประโยชน์ตกกับนายทุนเจ้าของโรงสีกับข้าราชการที่รู้เห็นในการทุจริต
ที่ชัดเจนคือ กรณีการสวมสิทธิ์ในเขตพื้นที่ภาคกลาง การเวียนเทียนขายข้าว การเปิดช่องให้บริษัทเอกชนที่สนิทสนมกับผู้มีอำนาจในรัฐบาลเพียงบริษัทเดียวรับกินหัวคิว อ้างโควตาจากต่างประเทศ ทั้งที่เป็นการทำข้อตกลงบันทึกความเข้าใจ
“หรืออ้างว่าเป็นการซื้อแบบจีทูจี แต่ข้อเท็จจริงเป็นการอ้างคำสั่งซื้อของรัฐบาลท้องถิ่น เช่น มณฑลต่างๆ ของจีน โดยให้บริษัทเอกชนนำข้าวที่เก็บไว้จนเสื่อมคุณภาพไปปรับปรุงและขายในราคาขาดทุน รวมถึงผลกระทบที่ตามมา เช่น การผูกขาดตลาดข้าวจนทำให้กลไกตลาดข้าวและการส่งออกเสียหายเสียตลาดข้าวไทยในต่างประเทศ เสียแชมป์การส่งออกข้าวให้อินเดียและเวียดนาม”
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กรณีคืนพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็น ไม่ติดตามหรือประสานหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องให้ติดตามตัวมารับโทษตามกฎหมาย เช่น กรณีล่าสุดที่ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางมาที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ของประเทศพม่า ก็ยังปฏิเสธไม่รับรู้แหล่งที่พำนักพักพิง ซึ่งสวนทางกับที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยและคนใกล้ชิด แกนนำนปช.ทราบว่าอยู่โรงแรมใด
นอกจากนี้ ยังมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกฯ ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) รับผิดชอบการจัดสรรงบประมาณน้ำ ทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้ง ในยอดเงินกู้ 1.2 แสนล้านบาท ที่พบว่ามีการทุจริตคอรัปชั่น
อย่างไรก็ตาม ในการหารือร่วมของวิปฝ่ายค้านยังไม่ได้ข้อยุติ เพราะยังมีข้อมูลและหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ต้องพิจารณาก่อนที่จะยื่นญัตติถอดถอนในวันที่ 8 พฤศจิกายน และยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 9 พฤศจิกายน อาจมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งขึ้นอยู่กับที่ประชุมวิปฝ่ายค้านจะตัดสินใจ
แหล่งข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า รัฐบาลกำลังหลงทางต่อการรับมือศึกซักฟอกของฝ่ายค้านอยู่ เพราะอาจเจอประเด็นการซักฟอกแบบนึกไม่ถึงจนรับมือไม่ทัน ถึงขั้นหงายท้องตกเก้าอี้ได้ แต่จะเป็นประเด็นใดนั้น คงนำมาเปิดเผยตอนนี้ไม่ได้ เพราะนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้กำชับกับบรรดา ส.ส. ที่มีคิวอภิปรายมาตลอดว่าอย่านำข้อมูลที่เป็นหมัดเด็ดมาเปิดเผยทางหน้าสื่อสาธารณะเด็ดขาด เพราะเกรงว่ารัฐบาลจะรู้ทัน อีกทั้งอาจมีการทำลายหลักฐานเกิดขึ้นได้
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมพรรคว่า ที่ประชุมหารือเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและงบน้ำท่วม ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิมชี้แจงว่า ตำรวจได้ไปตรวจโกดังต่างๆ ทั่วประเทศ พบว่าไม่มีโกดังใดที่ข้าวหายหรือเกิดการทุจริต ส่วนการทุจริตงบน้ำท่วม ก็ยังเป็นเพียงการกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐาน
“ดังนั้นขอให้สมาชิกทุกคนสบายใจได้ รัฐบาลไม่รู้สึกหนักใจ ฝ่ายค้านไม่มีหลักฐานใหม่ รัฐบาลบริหารงานโดยยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก นอกจากนี้ การสำรวจความเห็นประชาชนทุกภาคระบุชัดเจนว่า ชาวนาพอใจกระบวนการรับจำนำข้าว เชื่อว่าการที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายโครงการรับจำนำข้าวคงไม่สามารถทำอะไรรัฐบาลได้” นายพร้อมพงศ์กล่าว.
สวัสดีคุณในตราสารหนี้และคุณอยู่ในความยากลำบากทางการเงินหรือไม่ มีเพียงหนึ่งใน บริษัท ที่คุณสามารถไว้วางใจที่ฉันเงินสดเงินกู้ของฉัน 500,000,00 เมื่อวานนี้และวันนี้ผมได้มาให้การเป็นพยานเพื่อพระเกียรติของพระเจ้าเพราะผมมีไปผ่านความยากลำบากมากที่ฉันถูกหลอกลวงประมาณ 3,000 แต่ตอนนี้ที่ผมได้เห็น ที่เชื่อถือได้และการทดสอบตอนนี้ฉันสามารถแนะนำให้คุณส่งอีเมลนางสเตลล่า Rene วันนี้เกี่ยวกับอีเมลของเธอด้านล่าง {mrsstellareneloanfirm@hotmail.com} และวันนี้เรื่องราวของฉันมีการเปลี่ยนแปลงจากเรื่องไปสู่ความรุ่งโรจน์ที่จะได้รับเงินกู้ของคุณรูปแบบในวันนี้ บริษัท นี้และส่วนที่เหลือมั่นใจ 100% คุณมี พบว่าตัวเองออกมาจากเงื่อนไขที่คุณได้รับเป็นเวลาหลายปีโอเค
ตอบลบลิเดีย