นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีม็อบสนามม้าที่ออกมาเคลื่อนไหวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และเตรียมเคลื่อนไหวใหญ่เรียกร้องให้มีการปฏิวัติว่า ตนได้เขียนบทความ "ปรากฏการณ์สนามม้าสัญญาณสู้รบใหม่ของระบบอำมาตย์ฯ" ให้กับคนเสื้อแดงและประชาชนทั่วไปได้อ่านรับทราบความจริง ซึ่งจะเห็นว่าอภิสิทธิ์ชนในยุคนี้ยังมีอยู่ ไม่ต้องการคืนอำนาจให้กับประชาชน ซึ่งไม่ต้องการให้ระบอบประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไป โดย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์กรพิทักษ์สยาม หรือเสธ.อ้าย บอกว่าจะแช่แข็งประเทศ 5 ปี หมายถึงว่าภายใน 5 ปี ไม่มีการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ยอมคืนอำนาจให้ประชาชน เป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่า การเมือง การปกครอง พัฒนาไปในทิศทางของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการขัดขวางอำนาจของประชาชนอยู่ตลอดเวลา
"ถ้าคนส่วนน้อยในกลุ่มของ เสธ.อ้ายได้มีการชุมนุมครั้งใหม่ ก็ถือว่าเป็นสิทธิของเขาในการแสดงเสรีภาพทางการเมืองที่มีสิทธิจะทำได้ จึงต้องเป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาลที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะต้องเข้ามาดูแลให้เกิดความสงบสุขของบ้านเมือง และชัยชนะจากการเลือกตั้งนั้น ยังสามารถทำให้รัฐบาลนี้เป็นประชาธิปไตยที่ดำเนินงานบริหารประเทศต่อไปได้ ไม่ใช่ว่าเมื่อมีม็อบจากไหนก็ตามเกิดขึ้นมาก็ไม่ใช่หน้าที่ของ นปช.แดงทั้งแผ่นดินจะสร้างม็อบไปชนม็อบ แต่ นปช.คนเสื้อแดงจะเปิดโรงเรียน เปิดเวทีปราศรัย เพื่อสร้างประชาธิปไตยในแต่ละภาค โดยเฉพาะในภาคอีสาน" นางธิดากล่าว
เมื่อถามว่า เกิดมีความขัดแย้งในแกนนำเสื้อแดงหรือไม่ นางธิดากล่าวด้วยอารมณ์ไม่พอใจว่า เสื้อแดงไม่มีความขัดแย้ง และเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความขัดแย้ง โดยเฉพาะเรื่องภายใน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ตนได้บอกนายจตุพร พรหมพันธุ์ ว่าไม่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรี ให้มาเป็นประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดินดีไหม ซึ่งตนได้ประกาศมาโดยตลอดตั้งแต่ก่อนที่จะมีข่าวการเป็นรัฐมนตรีของนายจตุพร กระทั่งไม่ได้มาเป็นรัฐมนตรี ในส่วนความคิดเห็นแตกต่างกันในเรื่ององค์กรการจัดตั้ง เช่น องค์กรการจัดตั้งบางองค์กร ที่อาจมีปัญหาเนื่องจากว่าไปเกี่ยวข้องกับสำนักนายกรัฐมนตรี ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง ซึ่งไม่เกี่ยวกับ นปช.ทีเดียว แต่อาจเป็นไปได้ว่าแกนนำบางคนไปอยู่ในองค์กรจัดตั้งนั้น แล้วเมื่อถูกล้มเลิกไปก็มาเกิดปัญหาขึ้นมา หรือว่าเรื่องประเด็นความเห็นเกี่ยวกับการรับรองขอบเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือไอซีซี เพื่อให้สามารถรับเรื่องการสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 จนมีผู้เสียชีวิต 91 ศพ ภายใต้กรอบอำนาจของไอซีซี
นางธิดากล่าวว่า เรื่องไอซีซีดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ได้ไปยื่นไอซีซีแล้ว จากนั้นก็มีการยื่นเอกสารเกี่ยวกับกรณีการเสียชีวิต 91 ศพไปตามลำดับ ดังนั้น การเคลื่อนไหวศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือไอซีซี ไม่ใช่เพิ่งจะเกิดในตอนนี้ เพราะฉะนั้นคนที่คัดค้านและกล่าวหาว่าเกิดความขัดแย้งในแกนนำเสื้อแดง ไม่ใช่เรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องจริงทำไมไม่คัดค้านตั้งแต่ตอนต้น ดังนั้น เรื่องนี้ได้กลายมาเป็นมติของคนเสื้อแดง เมื่อตนออกมาเคลื่อนไหว ก็เป็นเรื่องการประชุมและมีการเปิดเผยมาอย่างยาวนาน แต่ก็มีคนมาคัดค้านในเรื่องไอซีซี ทำให้ตนเข้าใจว่าเป็นปัญหาทางการเมืองของพรรคการเมือง ทำให้ตนต้องทำใจ เพราะเรื่องที่มีคนคัดค้านเกี่ยวกับเรื่องไอซีซีจึงไม่ใช่เรื่องขัดแย้งของแกนนำเสื้อแดงที่สื่อฉบับหนึ่งเสนอข่าวไปนั้น และเรื่องที่ใครจะมาเป็นประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน จึงไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น