วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ศาลโลกตัดสินเป็นคุณกับ “ชินวัตร-วงศ์สวัสดิ์” ไม่ใช่คนไทย!! โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 พฤศจิกายน 2556 05:05 น

ศาลโลกตัดสินเป็นคุณกับ “ชินวัตร-วงศ์สวัสดิ์” ไม่ใช่คนไทย!!

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์13 พฤศจิกายน 2556 05:05 น

ผ่าประเด็นร้อน 
       
       เชื่อว่าหลายคนคงอยู่ในอารมณ์แปลกๆ พิกล หลังจากได้ยินคำพิพากษาของศาลโลกที่ตัดสินในคดีประสาทพระวิหารที่ฝ่ายกัมพูชายื่นให้ตีความคำพิพากษาในปี 2505 ว่าครอบคลุมพื้นที่โดยรอบปราสาท 4.6 ตารางกิโลเมตรด้วยหรือไม่ 
       
       ผลที่ศาลระบุออกมาสรุปสั้นก็คือ ให้รวมพื้นที่โดยรอบด้วย แต่ใช้คำว่า “พื้นที่เล็กๆ” รวมพื้นที่ “ชะง่อนผา” ให้กัมพูชา “ได้มีพื้นที่ทางขึ้นปราสาท” ให้ไทย “ถอนกำลังออกมา” และให้ไทยช่วยดูแลปราสาทพระวิหารที่เป็นมรดกโลก(ที่กัมพูชาขึ้นทะเบียนได้สำเร็จแล้ว)
       
       ได้ยินได้ฟังแบบนี้แน่นอนว่า “เราเสียดินแดน” อาจจะไม่ใช่เสียทั้ง 4.6 ตารางกิโลเมตรตามที่ฝ่ายกัมพูชาต้องการ เหมือนกับการ “บอกผ่าน” หรือเสนอราคาสูงไว้ก่อน แต่เมื่อผลที่ออกมาถึงอย่างไรก็ “ได้ดินแดนเพิ่ม” ส่วน “ไทยก็เสียดินแดนเพิ่ม” ก็อย่างน้อยตามพื้นที่ดังกล่าวมานั่นแหละ 
       
       นอกจากนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เวลานี้สามารถขึ้นทะเบียนประสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียวได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ไหโดยปริยาย นั่นคือมี “พื้นที่ในการบริหารจัดการ” ครบถ้วนจากการได้ครอบครองพื้นที่รอบปราสาทที่เรียกว่า “พื้นที่เล็กๆ” นั่นแหละ จากเดิมที่ได้เฉพาะตัวปราสาทเท่านั้น และรัฐบาลไทยที่ผ่านมาก็สงวนสิทธิ์มาตลอด มีการล้อมรั้วลวดหนามเอาไว้ตามมติคณะรัฐมนตรี 10 กรกฎาคม 2505 เรื่อยมา
       
       แน่นอนว่า ฝ่ายกัมพูชา “มีแต่ได้ไม่มีเสีย” เพียงแต่ว่า ได้ไม่ทั้งหมดตามที่ขอ(บอกผ่าน) ขณะที่ฝ่ายไทย “มีแต่เสีย” ไม่มีเจ๊าหรือได้เลย
       
       บางคนพยายามบอกว่า เราไม่เสียพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เสียแค่ “พื้นที่เล็กๆ” แต่ถามว่าเสียเพิ่มหรือเปล่าละ และที่ว่าเล็กๆ นั่นแค่ไหน ในเมื่อเวลานี้ฝ่ายกัมพูชาเข้ามีครอบครองแทบจะเต็มพื้นที่แล้ว
       
       สิ่งที่น่าเศร้าก็คือ หลังจากมีคำพิพากษาแบบนี้ออกมา คนในรัฐบาลก็ “เขียนโพย” ให้ นายรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “เป็นคำตัดสินที่เป็นคุณ” ถามว่าการเสียดินแดนแบบนี้มันเป็นคุณตรงไหน และ “เป็นคุณกับใครกันแน่” เป็นคุณกับ “ชินวัตร” ที่มีข่าวเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนกับฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา หรือเปล่า หรือเป็นคุณกับ “วงศ์สวัสดิ์” ที่กำลังเป็น “ดอง” ทองแผ่นเดียวกับ “ลูกเขย” ทายาทศูนย์อำนาจในกัมพูชาด้วยหรือเปล่า 
       
       แน่นอนว่าสำหรับคนไทยไม่น้อยอาจมองว่าการเสียดินแดนแค่นี้ หรืออีกบางคนกลับไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าเราเสียดินแดนเพิ่ม เพราะทั้งสื่อและคนในรัฐบาลต่างรีบกลบเกลื่อนทันทีว่า “พอใจ” และยอมรับในคำตัดสินของศาลโลก เพราะกลายเป็นว่าหลังจากที่เราเสียดินแดนเพิ่ม (เล็กมากแต่ไม่รู้เท่าไหร่) เราก็ต้องไปเจรจากัมกัมพูชาเพื่อรักษาความสัมพันธ์มีความร่วมมือกันต่อไป ขณะเดียวกันสิ่งที่รัฐบาลไม่พูดความจริงก็คือต่อไปนี้ไทยต้องเป็นฝ่ายสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียวอย่างสมบูรณ์
       
       ขณะเดียวกัน สำหรับคนไทยอีกหลายคนก็เห็นคล้อยตามรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ได้ว่าพื้นที่เล็กๆแค่นั้นไม่มีความหมาย ไม่คุ้มค่ากับการที่ต้องมาทำสงครามต่อกันจนบาดเจ็บล้มตาย แต่คำถามก็คือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้อย่างมี “ศักดิ์ศรีและผลประโยชน์ของชาติเป็นเดิมพัน”
       
       แต่เป็นความรู้สึกที่สัมผัสได้ว่านี่คือ “การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์” ระหว่าง “ครอบครัว” ของฝ่ายไทยกับกัมพูชาเท่านั้น เป็นคุณกับคนพวกนี้เท่านั้น ไม่ใช่เป็นคุณกับคนไทยส่วนใหญ่ 
       
       สิ่งที่ต้องเกิดขึ้นก็คือ ในอนาคตอันใกล้ก็จะมีการเจรจาระหว่างสองฝ่ายในเรื่อง “พื้นที่เล็กๆ” ดังกล่าว ซึ่งเราก็ไม่อาจรู้ได้ว่าเล็กแค่ไหน เล็กจริงหรือเปล่า แต่สิ่งที่ปรากฏตามความเป็นจริงก็คือเวลานี้ทางฝ่ายกัมพูชาได้มีการตั้งรกราก ตั้งชุมชนพร้อมสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำเข้ามาเต็มพื้นที่ และไม่มีท่าทีจะถอยเป็นอันขาด แล้วแบบนี้จะบอกว่า “เป็นคุณ” กับไทยได้อย่างไร เพราะสิ่งที่เห็นมันเป็นคุณเฉพาะบางครอบครัวเท่านั้น!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น