วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ทาสสุมไฟปลุกแดงชน เมื่อ 8 พ.ย.56

ทาสสุมไฟปลุกแดงชน


ก๊วนแดงจูบปากเพื่อแม้วชื่นมื่น หลัง "หญิงอ้อ" กาวใจประสานรอยร้าว "ปู" รับไม้เคลียร์ใจอีกรอบ ควง "ตู่-เต้น" ขนาบข้างประชุมพรรค 2 เกลอกลืนน้ำลาย อ้างเหมือนลิ้นกับฟัน ประกาศร่วมต้านปชป.ทั้งชาตินี้ชาติหน้า เตรียมเปิดเวทีทั่วประเทศชน โวระดมคนเป็นแสนโชว์
    ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน มีการประชุมพรรคนัดพิเศษ โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางมาร่วมประชุมกับแกนนำ ส.ส.เพื่อไทย และ ส.ส.สายเสื้อแดง เข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง หารือแนวทางการเคลื่อนไหวต่อสถานการณ์การเมืองที่กำลังร้อนแรงในขณะนี้
       โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรค ได้เดินเข้าห้องประชุมพร้อมแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) 3เกลอ คือ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ท่ามกลางเสียงปรบมือยินดีของบรรดา ส.ส. โดยทั้งหมดเดินไปนั่งเก้าอี้แถวหน้าสุดที่จัดเตรียมไว้ สองพี่น้องชินวัตรคือน.ส.ยิ่งลักษณ์และนางเยาวภานั่งสลับฟันปลากับแกนนำ นปช. ซึ่งนายณัฐวุฒิและนายจตุพร เมื่อเจอพี่น้องชินวัตร มีท่าทีพินอบพิเทาเป็นพิเศษ 
    จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวกับสมาชิกพรรคว่า ดีใจที่วันนี้ทั้งนายวีระกานต์, นายจตุพร, นายณัฐวุฒิ ไม่หายไปไหน ยังอยู่กับพวกเราตลอดเวลา และขอขอบคุณ ส.ส.ทุกคนที่รับฟังเสียงประชาชน ถ้าอะไรที่ฝืนความรู้สึกประชาชนก็พร้อมทบทวน ขอบคุณความทุ่มเทช่วยเหลือประชาชนที่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม พวกเราอยากเห็นบ้านเมืองสงบ ปรองดอง วันนี้ข้อมูลถูกบิดเบือนไปมาก จำเป็นที่พรรคเพื่อไทยต้องช่วยกันชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริง ยืนยันว่าพรรคมีเจตนารมณ์ มีความปรารถนาดี จะรวมพลังกันเพื่อไม่ให้ประชาชนผิดหวัง
    ต่อมานายณัฐวุฒิ นายจตุพร พร้อมด้วย ส.ส.เสื้อแดงพรรคเพื่อไทยรวม 10 คน ร่วมแถลงข่าวยืนยันปรับความเข้าใจกับพรรคเพื่อไทยในเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    โดยนายณัฐวุฒิกล่าวว่า เคารพในเจตนารมณ์ประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่ายที่แสดงออกต่อ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่ว่าจะสนับสนุนหรือคัดค้าน รัฐบาลเพื่อไทยได้แสดงความจริงใจในการถอนร่าง พ.ร.บ.ออกไปทั้ง 6 ฉบับ และชั้นวุฒิสภาจะประกาศคว่ำร่าง ซึ่งถือว่าได้ข้อยุติ อยากเรียนไปยังประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหว เมื่อบรรลุเจตนารมณ์แล้ว น่าจะพิจารณาทบทวนการชุมนุม แม้ว่าจะได้ข้อยุติเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่ความพยายามโค่นล้มรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งยังมีอยู่ ซึ่งเป็นคนกลุ่มเดิมที่เปิดประตูให้มีรัฐประหาร เรียกร้องนายกฯ ม.7 สนับสนุนตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร และเป็นพวกที่ออกคำสั่งให้ใช้อาวุธกับประชาชนที่มาร่วมชุมนุมทางการเมือง ซึ่งเป็นขบวนการเคลื่อนไหวอย่างเป็นระบบ 
    "เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่แปซิฟิคคลับ ย่านสุขุมวิท นายสุเทพ (เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์) ได้พบกับผู้มีบารมีคนหนึ่ง แล้วพูดจาหารือถึงสถานการณ์ชุมนุม โดยผู้มีบารมีคนนั้นถามนายสุเทพเหตุใดคนมาชุมนุมถึงน้อย ไม่เหมือนกับที่เคยพูดกัน นายสุเทพจึงตอบไปว่า เดี๋ยวคนก็มามากเอง แต่ของเตรียมไว้หมดแล้ว เป็นการพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือเปิดให้ดูภาพของบางอย่าง ซึ่งผมไม่รู้ว่าของสิ่งนั้นคืออะไร แต่ประเด็นคือมีการพูดคุยกับคนที่อยากจะโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่การเคลื่อนไหวด้วยอำนาจนอกระบบเป็นสิ่งที่สังคมประชาธิปไตยรับไม่ได้ ขอให้ประชาชนใช้วิจารญาณในการชุมนุม" นายณัฐวุฒิระบุ 
     ทั้งนี้ เมื่อมีขบวนการจะโค่นล้มประชาธิปไตย เราต้องมาพูดคุยจัดการปัญหาภายในเพื่อเตรียมเผชิญกับปัญหาภายนอก แต่จะไม่มีการเคลื่อนไหวมวลชนเพื่อให้เกิดการเผชิญหน้าหรือให้มีการปะทะกัน จะก้าวเดินอย่างระมัดระวัง นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยและ นปช.จะจัดเวทีชี้แจงสถานการณ์การเมืองทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด โดยวันที่ 10 พ.ย. จัดที่ กทม., 11 พ.ย. จ.ขอนแก่น, 12 พ.ย. จ.เชียงใหม่, 13 พ.ย. อุดรธานี และ 14 พ.ย. จ.ชลบุรี ทั้งนี้ ในวันที่ 9 พ.ย. นายวีระ, นายจตุพร และตนจะจัดรายการความจริงวันนี้ภาคพิเศษ
    เมื่อถามว่า หากไม่มี พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แกนนำเสื้อแดงจะตอบคำถามแนวร่วมและผู้ที่ยังถูกคุมขังอย่างไร นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เตรียมข้อเสนอต่อรัฐบาลในหลักการเดิม คือให้พี่น้องเสื้อแดง เสื้อเหลืองที่ได้รับผลกระทบจากการเมืองได้รับโอกาสออกมาต่อสู้ทางกระบวนการยุติธรรม แต่จะออกมาในรูปแบบใดกำลังหารือกัน
    ด้านนายจตุพรกล่าวว่า แม้ก่อนหน้าจะมีความเห็นแตกต่างกับรัฐบาล แต่ไม่มีวันจะไปร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์มาโค่นล้มรัฐบาลเพื่อไทย ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้า เพราะสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์กระทำเกินกว่าจะให้อภัย ไม่ต้องการให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ มาใช้ลานประหารประชาชนมาฟอกตัวเองให้พ้นผิด ซึ่งการโค่นล้มรัฐบาลจะทำให้เครือข่ายอำมาตย์กลับมามีอำนาจ จะขอต่อสู้ทุกวิถีทางโดยไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าหรือปะทะกัน จะร่วมทางเดินกับพรรคเพื่อไทยและ นปช.ผ่านเวที ‘นปช.-เพื่อไทย ปกป้องประชาธิปไตย’ โดยเฉพาะเวทีใน กทม. วันที่ 10 พ.ย. พยายามจะหาสถานที่ที่รองรับผู้คนให้ได้ 1 แสนคน เป็นการชี้แจงวันเดียว ไม่มีการยกระดับหรือปักหลักพักค้าง 
    "ยอมรับก่อนหน้านี้อาจกระอักกระอ่วนใจต่อพรรคเพื่อไทย แต่จากวันนี้จะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ผมกับพรรคเพื่อไทยเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน ผมเป็นคนประเภทอะไร ใช่คือใช่ ไม่ใช่คือไม่ใช่ ก็ได้แสดงจุดยืนออกไปชัดเจน เมื่อนายกฯ กรุณาเชิญณัฐวุฒิและผมมาประชุมพรรค รวมทั้งจะใช้ช่องทางใดในการปลดปล่อยพี่น้องเรา บัดนี้ก็ตกผลึกทั้งสองฝ่ายแล้ว รวมทั้งเงื่อนไข พ.รบ.นิรโทษกรรมก็เป็นที่ยุติแล้ว การมีอารมณ์ของผมกับพรรคเพื่อไทย ก็เหมือนลิ้นกับฟัน แต่เรายังเป็นมิตรกัน เมื่อรู้ว่าศัตรูเป็นใคร มันเป็นเรื่องที่ใหญ่เกินกว่าความรู้สึกของผม เมื่อเทียบกับหายนะที่จะเกิดกับคนเสื้อแดง เมื่อระบอบประชาธิปไตยกำลังถูกกระทำ เราไม่อาจยินยอม ฝากบอกประชาธิปัตย์ พวกคุณไม่มีวันจะโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไปได้" นายจตุพรกล่าว
    นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับ นปช.จบลงแล้ว โดยผังรายการในช่องเอเชียอัพเดททราบว่าจะคืนกลับไปสู่พิธีกรคนเดิมทั้งหมด 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เรียกนายจตุพร, นายณัฐวุฒิ และนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. มาปรับความเข้าใจที่โรงแรมเอสซีปาร์ค โดยมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย เข้าร่วมด้วย หลังจากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เรียกนายจตุพรและนายณัฐวุฒิเข้าพบที่ห้องทำงาน ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ประมาณ 1 ชั่วโมง 
    จากนั้นนายจตุพรและนายณัฐวุฒิได้เดินทางไปร่วมประชุมพรรคเพื่อไทย และทันทีที่นายกฯ เดินทางไปถึงที่ทำการพรรค ทั้งสองคนได้เดินลงมารับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่รถ ก่อนจะเดินขนาบข้างนายกฯ ขึ้นไปยังห้องประชุมพรรคชั้น 2 และนั่งคู่กับนายกฯ ในห้องประชุม ซึ่งทั้งหมดมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น