วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

"คำนูณ" ฟันชัด!! "ปู" ไม่สำนึก?? ยิ่งแถลงปชช.ยิ่งลุกฮือต้านกม.อัปยศ!!!เมื่อ 7 พ.ย.56



"คำนูณ" ฟันชัด!! "ปู" ไม่สำนึก?? ยิ่งแถลงปชช.ยิ่งลุกฮือต้านกม.อัปยศ!!!
คำนูณ  สิทธิสมาน อัดยับ!! นายกฯ ยิ่งออกมาแถลงประชาชนก็ยิ่งฮือขึ้นมาต่อต้านกฎหมายอัปยศ ชี้สิ่งที่แถลงเหมือนไม่ได้สำนึก นาทีนี้แถลงอะไรประชาชนก็ไม่เชื่อ ??
นายคำนูณ  สิทธิสมาน  ส.ว.สรรหา  ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะข่าวร้อน  ล้วงข่าวลึก  ทางทีนิวส์ทีวี  ประจำวันที่  6  พฤศจิกายน  ที่ผ่านมา  โดยมองว่า  ทางเครือข่ายทักษิณต่อสู้ไปตามสถานการณ์เท่านั้น  เมื่อมีกระแสพี่น้องประชาชนตื่นตัวแบบนี้ก็ต้องถอยออกมาก่อน  เพื่อรักษาสภาพความเป็นรัฐบาลเอาไว้  แต่เมื่อใดที่กระแสมันจางลง  มีจังหวะ  เขาจะสอดใส่ในสิ่งที่เขาต้องการขึ้นทันที  ซึ่งเราจะเห็นอาการถอยของผู้ที่กุมอำนาจโดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาด  ชนิดที่เรียกว่า  ถอยสุดซอย 
ทีนิวส์  :  ก่อนอื่นเลยมองสถานการณ์การเคลื่อนไหวที่มีออกมา  ทั้งการแถลงของวิปรัฐบาล  ทั้งการแถลงของเลขาธิการพรรคเพื่อไทย  รวมไปถึงนายกรัฐมนตรีด้วยว่าอย่างไรบ้าง
คำนูณ  :  ทางฝ่ายพรรคเพื่อไทยได้ถอยออกมาสุดๆ แล้ว  ตอนนี้แกนนำม็อบเรียกได้ว่า  กำลังลุกฮือทั่วประเทศที่ไม่เอาร่างกฎหมายนิรโทษกรรม  ทางพรรคเพื่อไทยเองก็คงจะเป็นห่วงสถานการณ์ว่า  จะยกระดับไปสู่การขับไล่รัฐบาล
ทีนิวส์  :  คุณคำนูญมองท่าทีของรัฐบาลแล้วว่า  จะถอยจริงหรือไม่
คำนูณ  :  คือเราก็ต้องดูกันต่อไป  ขั้นตอนในการโยนมาให้วุฒิสภา  ไม่ต้องโยนมาหรอกครับ  วุฒิสภามีหน้าที่ที่จะต้องพิจารณาโดยอิสระอยู่แล้ว  เพียงแต่ว่าวุฒิสภาเป็นสภาตรวจสอบ  สภากลั่นกรอง  เพราะฉะนั้นอำนาจมันย่อมน้อยกว่าสภาผู้แทนราษฎร  การพิจารณาในวันจันทร์  ถ้าวุฒิสภาไม่รับร่างไว้  มันไม่ได้แปลว่าร่างกฎหมายจะตกไป  สถานการณ์ก็คือเราก็ส่งร่างคืนไปยังสภาผู้แทนราษฎร  และอันนี้ก็จะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 148 เนื่องจากว่ากฎหมายฉบับนี้ไม่ใช่กฎหมายการเงิน  เพราะฉะนั้นสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องรอไว้ 180 วัน  หลังจากนั้น 180 วันก็ขึ้นอยู่กับสภาผู้แทนราษฎร  จะมีใครเสนอว่าให้ยืนยันร่างที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรไปหรือไม่  ใครก็ได้เสนอมีผู้รับรอง 20 คน  ก็จะพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร  ก็ขอให้ยืนยันเกินกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร  กฎหมายก็ถือว่า  ผ่านกระบวนการรัฐสภาเรียบร้อย  นายกรัฐมนตรีก็สามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยได้เลย  แต่ว่าในระหว่างนั้นเป็นช่วงขั้นตอนที่ส.ส. หรือส.ว. สามารถยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า  มันขัดต่อรัฐธรรมนูญได้หรือไม่  ในมาตรา 154  นั่นหมายความว่า  กฎหมายนี้ยังไม่ตกไป  แต่ว่ามันจะถูกยับยั้งโดยวุฒิสภา และเมื่อพ้น 180 วันแล้ว  ก็ขึ้นอยู่กับสภาผู้แทนราษฎรว่าเขาจะยกขึ้นมาพิจารณาหรือไม่  จะยืนยันหรือไม่  ถ้าเขายืนยันด้วยเสียงข้างมากกึ่งหนึ่ง  มันก็ยังมีขั้นตอนต่อไปก็คือ  สามารถยื่นคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญได้  ในสถานการณ์ที่ดำรงอยู่  
ทีนิวส์  :  นั่นหมายความว่ากระบวนการต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น  เป็นเพียงแค่การชะลอร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ออกไปเท่านั้น
คำนูณ  :  มันยังไม่ตกไปครับ  ยกเว้นว่า  รัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทยจะแถลงออกมาเป็นประชาคมต่อพี่น้องประชาชนอย่างชัดเจนว่า  พรรคเพื่อไทยก็ต้องสัญญาอย่างมีสัจจะว่า  เมื่อพ้น 180 วันไปแล้ว  พรรคเพื่อไทยไม่ว่าสมาชิกคนใดก็ตามแต่ใครก็แล้วแต่  จะไม่หยิบยกเอาร่างฉบับนี้ขึ้นมาอีก 
ทีนิวส์  :  แต่ว่าวันนี้ทางเลขาธิการพรรคเพื่อไทย  รวมไปถึงทางนายกรัฐมนตรีด้วย  ก็มีการแถลงข่าวให้สัญญาเอาไว้ว่า  ให้นำร่างฉบับนี้ขึ้นมาพิจารณาอีก   
คำนูณ  :  เป็นสิ่งที่ควรจะทำครับ  แต่ขณะนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ  ในขณะนี้เครดิตของรัฐบาลมีความตกต่ำมาก  เราจะเห็นได้เลยคำแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรี  ถ้าคนเชื่อเรื่องก็คงจะเรียบร้อย  แต่ปรากฏว่า  ยิ่งนายกรัฐมนตรีออกมาแถลงคนก็ยิ่งฮือขึ้นมา  เพราะสิ่งที่ท่านได้ออกมาแถลงเหมือนท่านไม่ได้สำนึก  ท่านยังยืนยันว่า  สิ่งที่ท่านทำนั้นมันถูก  เพียงแต่ว่ามีการออกมาคัดค้านกัน  ท่านก็จะทำอย่างนั้น  ตามมาด้วยการยืนยันของประธานวุฒิสภา  ซึ่งก่อนหน้านี้ก็พูดอีกอย่างหนึ่ง  มาเมื่อวานนี้ก็พูดอีกอย่างหนึ่ง  เหมือนกับจะช่วยตอกย้ำรัฐบาล  อันนี้ผมตั้งข้อสังเกตเองนะครับ  ตามด้วยเลขาธิการพรรคเพื่อไทย  นั่นแสดงให้เห็นว่า  ความเชื่อถือของพี่น้องประชาชนที่มีต่อรัฐบาล  ผมเข้าใจว่ามันเป็นความอึดอัดคับข้องใจที่ดำรงมา  เรื่องนั้น  เรื่องนี้  ตลอดระยะเวลา 2 ปี  และที่สำคัญเรื่องพ.ร.บ.นิรโทษกรรมสังคมก็เตือนแล้ว  จำได้ไหมครับ  ตอนที่นายกฯจะตั้งสภาปฏิรูป  ทั้งฝ่ายค้าน  ฝ่ายพันธมิตรต่างๆ บอกว่า  ให้ช่วยชะลอไว้  เรื่องร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมก็อีกเรื่องหนึ่ง  เรื่องแก้รัฐธรรมนูญก็อีกเรื่องหนึ่ง  และคุยกันมันก็ทำให้บรรยากาศการพูดคุยกัน  มันมีความเป็นไปได้  ถึงผู้คนเขาจะไม่เชื่อรัฐบาล  แต่เขาจำเป็นที่จะต้องไปคุย  ท่านก็บอกว่ามันเป็นคนละเรื่อง  อันนี้เป็นเรื่องของสภาไม่เกี่ยวกัน  ทำกันไปพร้อมทั้ง 2 ทางได้  สิ่งที่เกิดขึ้นมันอัปยศอดสูมากที่สุด  เพราะฉะนั้นนายกรัฐมนตรีแถลงอะไรออกมา  นาทีนี้ผู้คนก็ไม่เชื่อ  อันนี้ก็เป็นปัญหาใหญ่ของบ้านเมือง   
ทีนิวส์  :  ทีนี้ทางหลายฝ่ายก็ได้ออกมาพูด  ไม่ว่าจะเป็นทางวิปรัฐบาล  ทางเลขาธิการพรรคเพื่อไทยนายกฯ  แต่ว่าบุคคลสำคัญที่ออกมาพูดยืนยันถึง 2 ครั้ง 2 หน  ก็คือ  พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร  ยังคงยืนยันในร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้  แล้วก็ยืนยันอีกว่า  จะเดินทางกลับมาเมืองไทย  เพราะฉะนั้นมันจะมีการชั่งน้ำหนักระหว่างกันไหมคะ  กับข้อมูลทั้ง 2 ฝ่าย 
คำนูณ  :  แต่ละคนก็มีสิทธิ์ที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ  ผมเองก็มีความเห็นทางหนึ่ง  ทางเครือข่ายคุณทักษิณ  เขาก็ต่อสู้ไปตามสถานการณ์  มีกระแสพี่น้องประชาชนตื่นตัวแบบนี้เขาก็ถอยออกมาก่อน  เพื่อรักษาสภาพความเป็นรัฐบาลเอาไว้  แต่เมื่อใดที่กระแสมันจางลง  มีจังหวะ  เขาจะสอดใส่ในสิ่งที่เขาต้องการขึ้นทันที  ตลอดระยะเวลา 2-3 เดือน  ตั้งแต่ที่มีการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ  เราจะเห็นว่า  เครือข่ายเสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ  ทำให้ระบบรัฐสภามันสามานย์  อาศัยกลยุทธข้อบังคับต่างๆ  อภิปรายอย่างหนึ่ง  ลงมติอีกอย่างหนึ่ง  ทำแบบนี้  ลืมไปว่า  สังคมมันมาถึงจุดๆ หนึ่งผู้คนก็ทนไม่ได้  เขาก็ลุกขึ้นมาเอง  โดยผู้คนที่ลุกขึ้นมา  ไม่ใช่ผู้คนที่เคยคัดค้านท่านโดยตลอดเป็นประจำเสมอไป แต่มันเป็นการตื่นตัวที่มีผู้ประกอบอาชีพต่างๆ ออกกันมามากเป็นพิเศษ     
ทีนิวส์  :  แต่ตอนนี้หลายคนก็เริ่มวิตกกังวลกัน  กับทางการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดง  ที่จะออกมาชุมนุมกันในวันศุกร์ที่จะถึงนี้  คุณคำนูญมองตรงนี้อย่างไร
คำนูณ  :  ทางเครือข่ายของพรรคเพื่อไทย  เขาคงที่จะไม่ใช้มวลชนเข้ามาเพื่อให้เกิดปัญหามากขึ้น  เพราะในความเป็นจริงที่เราเห็นกันอยู่  ในขณะนี้่เขาไม่ได้มีปัญหาแต่เพียงฝ่ายค้านอย่างเดียว  แม้กระทั่งแต่คนเสื้อแดงเอง  ก็มีปัญหา  เหมือนเขาถูกตัดหางปล่อยวัดหมด  เห็นว่าทางคุณตู่-จตุพร  พรหมพันธุ์  กำลังมีสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมตั้งใหม่เป็นของตัวเอง  อันนี้เห็นได้ชัดครับว่า  ความซื่อสัตย์  หรือสัจจะ  หรือความกตัญญูกตเวที  แม้แต่พวกเขาเองที่ช่วยกันส่งขึ้นมาถึงขนาดนี้  ที่เอาหยาดเหงื่อแรงงาน  ชีวิตเลือดเนื้อ  เพื่อปูทางให้เขากลับเข้ามาสู่อำนาจ  เมื่อถึงเวลาที่เขาเห็นว่ามีวิธีการที่จะรักษาอำนาจที่ยั่งยืนกว่านั้น  เขาก็สามารถตัดทิ้งได้  แล้วนับประสาอะไรกับพี่น้องประชาชนคนอื่นๆ ที่อยู่ตรงข้ามกับเขามาตลอดว่า  เขาจะสามารถปฏิบัติได้ตามสัจจะที่ลั่นวาจาเอาไว้  อันนี้ก็เป็นประเด็นสำคัญที่ผมคิดว่า  พี่น้องประชาชนต้องชั่งน้ำหนักกัน 
ทีนิวส์  :  คุณคำนูญมีอะไรจะปิดท้ายไหมคะ
คำนูณ  :  ผมอยากจะบอกว่า  สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้  ปัญหาที่เกิดขึ้น  มันมาจากรัฐบาลในระยะเวลา 2 ปี  จุดเท่าไหร่ก็จุดไม่ติด  ผู้คนก็มากันน้อย  แต่เมื่อถึงจุดๆ หนึ่งปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นก็คือ  การลุกฮือจากหลายๆ กลุ่มที่เขาไม่เคยมีบทบาททางการเมืองมาก่อน  มันเป็นกระแสขึ้นมา  และเมื่อตื่นขึ้นมา  เราจะเห็นอาการถอยของผู้ที่กุมอำนาจโดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาดต่อ 2 วันมานี้  ชนิดที่เรียกว่า  ถอยสุดซอย  มันเป็นปาฏิหาริย์ของการตื่นตัวของประชาชน  เพราะฉะนั้นถ้าประชาชนสามารถรักษาปากิหาริย์เหล่านี้ไว้ได้  ผมเชื่อว่า  ปาฏิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่กว่านี้  ก็สามารถที่จะเกิดขึ้นได้  ก็ขึ้นอยู่ที่ว่า  เราจะสามารถรักษาพลังที่ตื่นตัวขึ้นมา ณ ขณะนี้  และจะดำรงเป้าหมายของเรา  และจะพัฒนายกระดับเป้าหมายของเรา  จากการคัดค้านร่างกฎหมายเลวทรามฉบับหนึ่ง  ไปสู่การต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ  ไม่ว่าจะการปฏิรูปประเทศ  อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับแกนนำกลุ่มต่างๆ ที่จะต้องขบคิดในจุดนี้ให้ดี  มันมีช่วงระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น