พล.อ.สมเจตน์ เผยรัฐบาลใช้ส.ว.เป็นเครื่องมือหลอกประชาชน หวังตัดเกณฑ์การเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุม แค่หยุดชั่วคราวมิใช่จะยุติ พอเผลอก็นำกฎหมายล้างผิด "คนโกง" กลับเข้ามาอีก
วันนี้ ( 6 พฤศจิกายน ) พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา กล่าวกับสำนักข่าวทีนิวส์ ถึงกรณีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จะมีมติไม่รับหลักการร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ว่าในส่วนของวิปรัฐบาลที่มุ่งหารือเรื่องพ.ร.บ.ปรองดอง ซึ่งมองว่าเป็นมุมมองที่รัฐบาลต้องการตัดเกณฑ์การเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุม เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองมันรุนแรงขึ้น แต่การตัดเกณฑ์ตรงนี้ไป มันเป็นเพียงการหยุดเพียงชั่วคราวเท่านั้น มิใช่จะยุติไป เมื่อวุฒิสภาไม่รับหลักการ ก็ส่งกลับคืนไปยังสภาผู้แทนราษฎร ( ส.ส. ) ส.ส. ก็เว้นวรรคไป 180 วัน แล้วก็นำขึ้นมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง แต่จะเห็นได้ว่า พ.ร.บ.นี้ไม่ได้ตกไปในทันที เพียงแต่ให้ระยะเวลามันลดกระแสการคัดค้านออกไป แล้วเมื่อประชาชนเผลอเมื่อไหร่ก็เอาเข้ามาอีก
สำราญ : วันนี้มีประชุมอะไรกันครับ
พล.อ.สมเจตน์ : ประชุมวิปวุฒิสภา แต่ผมไม่ได้เป็นกรรมาธิการในวิปวุฒิฯ
สำราญ : ซึ่งทั้งหมดก็ล้วนแล้วแต่ประธานกรรมาธิการ
พล.อ.สมเจตน์ : ประธานกรรมาธิการหรือผู้แทนของคณะนั้น บางท่านก็ไม่เป็นเอง บางท่านก็ให้สมาชิกวุฒิสภาท่านอื่นเซ็น ก็แล้วแต่กรรมาธิการ แต่ก็เป็นตัวแทนมาจากกรรมาธิการทั้งหมดทุกคณะ
สำราญ : ถามก่อนกลัวจะลืม มันมีกระแสข่าวว่า เผลอๆ วิปวุฒิฯ จะลงมติ เอาเลยวันศุกร์นี้ คว่ำพ.ร.บ.สุดซอย ท่านได้ยินข่าวนี้บ้างไหม
พล.อ.สมเจตน์ : มีกระแสข่าวออกมาว่า ประธานวุฒิสภาจะทำเพื่อเห็นแก่ประเทศชาติ สรุปง่ายๆ จากพฤติกรรมที่ผ่านมาก็เห็นชัดเจนว่า ประธานวุฒิฯ เป็นอย่างไร ซึ่งพฤติกรรมจากประธานวุฒิฯ ที่ผ่านมา ก็เห็นชัดเจนว่า ท่านประธานวุฒิเป็นกลางหรือไม่เป็นกลางอย่างไร ในมุมมมองของผม ผมคิดว่า เป็นมุมมองที่มุ่งจะตัดเกณฑ์การเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุม โดยที่จะให้วุฒิสภานั้นมาประชุมในวันที่ 8 หรือวันศุกร์ ทำแบบนี้เท่ากับว่า ไม่เป็นไปตามวาระของวุฒิสภา วุฒิสภาเราจะต้องประชุมวันจันทร์หรือวันอังคาร เมื่อวันก่อนประธานวุฒิฯก็ให้สัมภาษณ์ว่า จะประชุมในวันที่ 11 ก็เกรงว่า อีก 3 วันนั้นสถานการณ์จะขยายกว้างออกไป กลายเป็นว่า จะหาทางลงให้กับรัฐบาล ก็ประชุมกันในวันที่ 8 ซึ่งผมก็ยืนยันค่อนข้างชัดเจนว่า วุฒิสภาคงจะไม่รับหลักการพ.ร.บ.ฉบับนี้ แต่ก็เรียนว่า การที่ไม่รับนั้น ส.ว.สรรหาส่วนใหญ่นั้นมีจุดยืนตรงนี้ที่ชัดเจน และในขั้นต้นส.ว.เลือกตั้งหลายส่วน ก็มีจุดยืนที่จะรับไป แล้วก็ไปแก้ไขในภายหลัง แต่เนื่องจากระแสทางการเมืองมันมีความรุนแรงขึ้น บางท่านก็คิดว่า คงไม่อยากให้สถานการณ์ทางการเมืองมันรุนแรงขึ้น แต่บางท่านก็อาจจะได้รับไฟเขียวจากต่างประเทศ มาช่วยกันแก้ไขปัญหาให้กับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็ตัดเกณฑ์ตรงนี้ไป
แต่ผมอยากเรียนตรงนี้ว่า ตัดเกณฑ์ตรงนี้ไป มันเป็นเพียงการหยุดเพียงชั่วคราวเท่านั้น มิใช่จะยุติไป เมื่อวุฒิสภาไม่รับหลักการ ก็ส่งกลับคืนไปยังสภาผู้แทนราษฎร ( ส.ส. ) ส.ส. ก็เว้นวรรคไป 180 วัน แล้วก็นำขึ้นมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง แต่จะเห็นได้ว่า พ.ร.บ.นี้ไม่ได้ตกไปในทันที เพียงแต่ให้ระยะเวลามันลดกระแสการคัดค้านออกไป แล้วเมื่อประชาชนเผลอเมื่อไหร่ก็เอาเข้ามาอีก ผมเรียนต่อไปเลยนะครับว่า สิ่งที่ผมพูดตรงนี้ มิได้กล่าวหารัฐบาล แต่รัฐบาลมีพฤติกรรมในการที่จะดำเนินการนิรโทษกรรมให้กับคุณทักษิณมาตลอดระยะเวลาของการเป็นรัฐบาล อยากลำดับความอย่างนี้นะครับว่า เริ่มตั้งแต่ต้นปี 2555 มีข่าวว่ามีการประชุมค.ร.ม. แล้วก็มีวาระจร เพราะเราเอากำหนดนี้เข้า ซึ่งวันนั้นนายกฯ อ้างว่า ติดภารกิจการไปเยี่ยมประชาชนที่จ.สิงห์บุรี ทำให้กลับมาไม่ได้ แล้วก็ให้ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งตอนนั้นภาคประชาชนโดยเฉพาะสยามสามัคคีได้ทราบข่าวนี้ ถ้าคุณสำราญจำได้ เราได้ออกมาคัดค้าน แล้วทำให้ประชาชนหลายฝ่ายอกมาคัดค้าน ช่วงนั้นคุณเฉลิมออกมาบอกว่า เป็นการเกณฑ์สับขาหลอกประชาชน นั่นเป็นครั้งที่หนึ่ง
ครั้งที่ 2. กรณีพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่เสนอพ.ร.บ.ปรองดองเข้ามา ครั้งที่ 3. ความลับมาแตกเอาตอนคลิปนายพลถั่งเช่า ที่จะเสนอเป็นพ.ร.ก.อีกครั้งหนึ่ง เป็นคลิปเสียงมันแตกออกมาว่า จะมีการออกพ.ร.ก.เพื่อนิรโทษกรรมให้ทักษิณ และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4. ผมเรียนว่า ตลอดระยะเวลา คุณยิ่งลักษณ์นั้นพยายามที่จะกระทำการเพื่อหาทางลงให้กับคุณทักษิณมาโดยตลอดเวลา เพราะฉะนั้นในการดำเนินการตรงนี้ ก็เป็นการเว้นวรรคไว้ชั่วคราว เพื่อลดกระแสความร้อนแรงของประชาชน และเมื่อประชาชนเผลอเมื่อไหร่ เขาก็จะทำอีก และประชาชนเขาก็ต้องออกมาทุกครั้ง ซึ่งเราคงจะเหนื่อยอีกหลายครั้ง เพราะฉะนั้นโดยความคิดของผม ผมคิดว่า คุณยิ่งลักษณ์หมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศต่อไป เพราะสับขาหลอกประชาชนอยู่ตลอดเวลา
สำราญ : สรุปง่ายๆ ก็คือ นายกฯหมดความชอบธรรมแล้ว แต่ในเชิงกระบวนการขั้นตอนกฎหมาย ตกลงว่าวันศุกร์นี้เป็นไปได้ไหม
พล.อ.สมเจตน์ : เป็นไปได้สูง ผมคิดว่า การที่มีคนออกมาคัดค้าน มันไม่ใช่เป็นการประชุมโดยปกติ และหลายฝ่ายนั้นก็ไม่อยู่ เพราะไปติดภารกิจที่เราได้นัดหมายไว้ล่วงหน้า เราก็ไม่รู้ว่ามีเกณฑ์หลอกอะไรเราอีกหรือเปล่า เพราะอยู่ในสภานั้นมันเฉือนคมกรีดกันอยู่ตลอดเวลา กับฝ่ายที่จ้องจะหาโอกาสเอาเปรียบ เราก็ไม่แน่ใจนะครับ ที่เขาบอกว่า จะไม่รับ เผลอๆ เขามองว่าฝ่ายเราที่ไม่รับมันมีน้อยกว่า เขาอาจจะรับก็ได้ ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นไปได้ไหม มันเป็นคำตอบที่ผมก็ระแวง
สำราญ : ก็ต้องจับตาดูวิปวุฒิฯกันนะครับ วันนี้ก็คงจะมีมติว่าจะประชุมวันศุกร์หรือวันจันทร์เลย
พล.อ.สมเจตน์ : มติในวิปวุฒิฯ เสียงส่วนใหญ่มันก็เป็นเสียงของทางฝ่ายเลือกตั้งเขา เพราะฉะนั้นทิศทางจะเป็นยังไงจะลงมติเมื่อไหร่ ก็แพ้แน่นอน ผมคิดว่าโอกาสจะมาประชุมวันที่ 8 กะเกณฑ์ในการชุมนุมมีสูง แต่ผมคิดว่ากะเกณฑ์ไม่ได้หรอกครับ ถึงแม้จะประชุมวันที่ 8 ก็ตาม รัฐบาลก็หมดความชอบธรรมที่จะอยู่ต่อไปแล้วครับ เพราะประชาชนจะคอยระมัดระวังกับฝ่ายบริหารอยู่ตลอดเวลา ที่ผ่านมา แสดงว่าฝ่ายรัฐบาลไม่มีความจริงใจต่อประชาชน ถ้าลองประชาชนไม่มาชุมนุมขนาดนี้ ผมเชื่อว่าวุฒิสภารับหลักการแน่นอน เพราะเสียงฝ่ายเลือกตั้งเขาบวกกับสว.สรรหาบางส่วน มันเกินครึ่งหนึ่งแน่นอน แล้วก็พร้อมที่จะรับคำสั่งจากใครๆ ก็แล้วแต่ ที่บอกว่าเป็นอิสระจริง แต่ผมไม่เชื่อว่าเป็นอิสระจริง
สำราญ : ที่นี้ในเชิงของข้อกฎหมาย ถ้าเกิดในทางซีกฝ่ายค้าน หรือซีกของประชาชนบางส่วน อาจจะเสนอว่า ขอให้ถอนร่างทั้งพ.ร.บ.ปรองดองทั้ง 4 ร่างออกให้หมด ให้ถอนออกไปเลย อันนี้พอจะรับได้ไหม
พล.อ.สมเจตน์ : ก็ต้องออกมาประกาศชัดเจน เอาเป็นว่ารัฐบาลหรือพลพรรคของพรรคเพื่อไทย ที่มาทำหน้าที่เป็นส.ส.นั้น จะไม่เสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้กับทักษิณเข้ามาอีก รัฐบาลจะต้องให้สัญญาประชาคม รัฐบาลจะต้องออกมายืนยันอย่างชัดเจน เพราะมิฉะนั้นเผลอเมื่อไหร่รัฐบาลก็จะทำอีก อย่างที่ผมได้ยกตัวอย่างไว้แล้ว จากที่ผมจำได้มี 3-4 ครั้งแล้วพอประชาชนรู้ทัน ก็ยังมาเยาะเย้ยประชาชนอีกว่า สับขาหลอก แค่นี้ก็ทำเป็นตื่นเต้นไป พอเผลอเมื่อไหร่ก็เอาเข้ามาอีก
สำราญ : ดังนั้นถ้าประเมินในสถานการณ์ พล.อ.สมเจตน์ก็คงไปสังเกตการณ์การชุมนุมของประชาชนอยู่บ้าง ตามเวทีต่างๆ ดูแล้ว ถ้าวันศุกร์นี้เขาคว่ำร่างโดยวุฒิสภา คิดว่าสถาการณ์จะจบไหม
พล.อ.สมเจตน์ : ความคิดของประชาชนในขณะนี้มันก้าวล้ำไปแล้ว ประชาชนได้สะสมความไม่พึงพอใจรัฐบาลนี้มาตลอดระยะเวลา แต่จุดนี้มันเป็นจุดที่ประชาชนต้องแสดงออก เท่าที่ผมไปสังเกตดู ประชาชนไม่พอใจเรื่องการบริหารงานของคุณยิ่งลักษณ์ ที่มีความพยายามในการทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของพี่น้องเพื่อพวกพ้องตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่ เสียงส่วนน้อยมันคัดค้านชี้ให้เห็นว่า มันจะเกิดภัยร้ายแรง แต่เขาก็ไม่ฟังเสียง คุณยิ่งลักษณ์ก็บอกว่า เป็นเรื่องของสภา โยนไปเรื่อยบอกว่า เป็นเรื่องของสภา แล้วเมื่อไหร่จะเป็นเรื่องของยิ่งลักษณ์ เรื่องอะไรบ้างที่เป็นเรื่องของยิ่งลักษณ์ที่ยิ่งลักษณ์จะต้องรับผิดชอบ ผมไม่เห็นว่ายิ่งลักษณ์จะรับผิดชอบอะไร หรือว่าจะต้องรับผิดชอบอย่างเดียว เตรียมการเดินทางไปทัวร์ต่างประเทศเท่านั้น ผมยังไม่เคยเห็นเลยว่า มีเรื่องอะไรบ้างที่คุณยิ่งลักษณ์จะรับผิดชอบ ดังนั้นจึงหมดความชอบธรรมที่จะอยู่อีกต่อไป ดังนั้นคุณยิ่งลักษณ์ก็ต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อการเสนอนโยบาย ต่อกฎหมายที่มันเลวร้ายในลักษณะนี้ เพราะคนที่ดำเนินการตรงนี้เป็นคนของพรรคเพื่อไทยทั้งสิ้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น