วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

"ดร.มัฆวาฬ" ลั่นม็อบต้านนิรโทษฯ สุดซอย!! เดินหน้าเกินครึ่งทางรอสุกงอม ย้ำไทยเฉยไม่ได้แล้ววันนี้ ( 5 พฤศจิกายน )



"ดร.มัฆวาฬ" ลั่นม็อบต้านนิรโทษฯ สุดซอย!! เดินหน้าเกินครึ่งทางรอสุกงอม ย้ำไทยเฉยไม่ได้แล้ว
ดร.มัฆวาฬ  สุวรรณเรือง เผยชุมนุมต่อต้านนิรโทษกรรมของทุกกลุ่ม ได้เดินหน้ามาเกินครึ่งทางแล้ว อยู่ในขั้นตอนของการฮึกเหิม รอสุกงอมอย่างเดียว ลั่นประชาชนนิ่งเฉยอยู่ไม่ได้แล้ว
วันนี้  ( 5  พฤศจิกายน  )  ดร.มัฆวาฬ  สุวรรณเรือง  อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีแห่งอโยธยา  ( ITA ) กล่าวกับสำนักข่าวทีนิวส์  การประเมินสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของประชาชน ที่ออกมาแสดงพลังต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยแบ่งเป็นหลากหลายกลุ่ม หลากหลายเวที ตั้งแต่เวทีสีลม  อุรุพงษ์ หรือการรวมกลุ่มกันของภาคประชาชนในต่างจังหวัด เชื่อว่าขณะนี้ได้เดินหน้าไปเกินครึ่งทางแล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการฮึกเหิม รอสุกงอมอย่างเดียว ดังนั้นประชาชนก็มีส่วนโดยตรง หากวันนี้ถ้าจะให้นิ่งเฉยอยู่คงไม่ได้ 
สำราญ  :  ผมได้ฟังอาจารย์สัมภาษณ์จากสื่อบางสื่อ  ล่าสุดประเมินสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของประชาชน  หลายเวทีทั้งสีลม  อุรุพงษ์  คิดว่าตอนนี้สถานการณ์มันเดินมาถึงครึ่งทางหรือยัง
ดร.มัฆวาฬ  :  เกินครึ่งไปแล้วครับ  พี่น้องประชาชนก็รู้อยู่ว่า  ขั้นที่ 1. มีการสะสมกำลัง  มีแม่ทัพหลัก  มีกองทัพหน้า กองทัพหนุนตอนนี้เต็มไปหมดแล้ว  ขั้นที่ 2. มีการขยับเขยื้่อนเคลื่อนไหว  เมื่อวานมีการเคลื่อนขบวนกันเป็นแถวๆ ยึดสภาที่หลักได้แล้ว  ขั้นตอนต่อมาก็คือ  การฮึกเหิม  ขั้นสุดท้ายคือการสุกงอม  ตอนนี้อยู่ในขั้นของการฮึกเหิม  รอสุกงอมอย่างเดียว  พอฮึกเหิมแล้วก็ลงยากเหมือนพฤษภาทมิฬ  เหมือนวันที่ 14  ตุลาคม    
สำราญ  :  นั่นหมายความว่า  พอสุกงอมก็จบเลย     
ดร.มัฆวาฬ  :  ใช่ครับ  ที่ผ่านมาพอสถานการณ์มันสุกงอม  มันก็ต้องจบเลย  แต่ไม่รู้ว่าจะจบยังไง  จะจบยังไงก็ต้องไปถาม 3-4 คนนี้  คนที่ 1. ประธานวุฒิสภา  คนที่ 2. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  ( ปปช. )  อาจจะไม่เกี่ยวกับกระบวนการนิติบัญญัตินะ  แต่ว่าบ้านเมืองมันเป็นอย่างนี้  เราก็ต้องไปถามเขา  เรื่องน้ำบ้าง  เรื่องข้าว  เรื่องอะไรต่ออะไรบ้าง  คนที่ 3. ต้องไปถามทหาร  ทหารก็ต้องไปถามอีกว่า  เป็นทหารแตงโม  หรือเป็นทหารแตงไทย  ทหารแตงโมป้ายแดง  ทหารแตงไทยป้ายเหลือง  ต้องไปถาม 3 คนนี้ก่อน  ส่วนประชาชนตอนนี้เขาก็สุกงอมอยู่แล้ว  ไม่ต้องไปถามเขาแล้ว  ทีนี้ก็ต้องถามพรรคเพื่อไทยด้วย  ซึ่งวันนี้ถอยหรือถอด 
ถอยหมายความว่า  ถอยมากลางซอย  ยกตัวอย่าง  ที่ร.ต.อ.เฉลิม  อยู่บำรุง  ให้สัมภาษณ์บอกว่า  ถ้าหากว่าวุฒิสภาไม่เห็นด้วย  เขาจะเสนอพ.ร.บ.สำรอง  อันนี้เป็นการถอยออกมากลางซอย อันนี้ก็ต้องไปถามประชาชนว่า  พอใจไหม  ผมเชื่อว่าไม่พอใจ  ถ้าถอด  หมายถึงว่า  ถอยออกมาอย่างที่คุณเฉลิมบอกแล้ว  ไม่พูดถึงเรื่องพ.ร.บ.ปรองดองเลย  เงื่อนไขนี้น่าจะจบ  อันนี้เป็นความคิดของพรรคเพื่อไทย  ต้องไปถามประชาชนว่าเขามีความพอใจไหม  วันนี้มันเป็นอย่างนั้น  ตอนท่านทักษิณยุบสภาปี 2549  วันนี้ยุบสภาอาจจะไม่ทำ  แค่คิดว่าจะถอย
สำราญ  :  สมมุติว่าเกิดพรุ่งนี้เขาทำยุบสภา  อาจารย์บอกว่าจะไม่ทันอยู่ดี 
ดร.มัฆวาฬ  :  เมื่อวานนี้ผมไม่ได้บอกนะครับ  ประชาชนเป็นคนพูด  ประชาชนเขาบอกว่า  เขาไม่พอใจ  เขาไม่ได้ขอร้องให้ยุบสภา  เขาไม่ได้พูดอย่างนั้น  เขาบอกว่าขอชนะ  เขาไม่ได้พูดว่า  ขอให้รัฐบาลยุบสภาแล้วดูตามประวัติศาสตร์ท่านทักษิณที่ยุบสภา  ซึ่งมันไม่ทัน  ผมก็เป็นครูบาอาจารย์ก็เล่าตามประวัติศาสตร์ที่เป็นมา  มันเป็นเหตุการณ์ที่ใครต่อใครก็ต้องดู  ถ้าเราจำกันได้พล.อ.สุจินดา  คราประยูร  อีกนิดเดียวก็เกิดเหตุการณ์พฤษภา 2535  ที่วาระหนึ่งสองสาม  มันหนักข้อกว่านั้นอีก  เพราะฉะนั้นครรลองนี้ถ้าเดินไปตามมันก็คือเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ  ซึ่งตอนนั้นใครหลายคนก็นอนกองดินกินกองทรายอยู่ตอนนี้  วันนั้นมันเป็นอย่างนี้  นี่คือบทเรียนที่หนึ่ง  บทเรียนที่สอง เอาหนักกว่านั้น  กฎหมายอยู่ในมือ  เพราะฉะนั้นอยากจะทำอะไรก็ได้  มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ  ประชาชนเขาอดทน  พอมันถึงจุดพีค  จุดสูงสุด  มันก็เดินของมันไปเอง
สำราญ  :  น่าสนใจมาก  ที่อ.มัฆวาฬ บอกว่า  ถึงยุบสภาในพรุ่งนี้  ในมะรืนนี้  ก็อาจจะสายไปแล้ว  ทีนี้อีกอันหนึ่ง  อาจารย์ได้บอกไปแล้ว  บอกว่า  เผลอๆ ยุบไปแล้วก็อาจจะไม่ทัน  วันที่ 11  พ.ย.  ถ้าวุฒิสภาบอกให้คว่ำ  ตอนนี้พอคว่ำปั๊ป  ก็ต้องถอยกลับไปที่สภา  แล้วกฎหมายนี้ก็ให้เวลาสภา 6 เดือน  หรือ 180 วัน  ก่อนที่จะมีการปัดฝุ่น  และเอาออกมาอีกที  ตรงนั้นมันก็แค่ชะลอเวลา  แล้วมันจะตอบโจทย์ไหม            
ดร.มัฆวาฬ  :  มันไม่ตอบหรอกครับ เราต้องรอให้ถึง 180 วัน  เพื่อให้ม็อบมันล้าไป  ผมบอกแล้วไงว่าทั้งหมด 4 ขั้นตอน  บอกว่า  พอฮึกเหิมแล้วมันลงยาก  ซึ่งประวัติศาสตร์มันเขียนไว้อย่างนั้น  มันจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นมา  เพื่อให้ม็อบอารมณ์ความรุนแรงอะไรต่างๆ มันเบาลง  ซึ่งมันไม่วายในการจัดการเชิงมวลชน  เพราะฉะนั้นวันนี้  ผมคิดว่า  180 วันยังไงเขาก็ไม่รอ  วุฒิสภาจะถอน  หรือไม่เห็นด้วย  เขาก็ให้สัมภาษณ์แล้วว่า  จะออกพ.ร.บ.สำรองมันมีข่าวออกมาเป็นอย่างนั้น  เพราะฉะนั้นสิ่งที่อยากจะเรียนไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง  หรือพรรคเพื่อไทยเอง  วันนี้ผมใช้คำว่า  ถอย  หรือถอด  ถอดหมายถึงว่า  พอวุฒิสภาว่าอย่างนี้ก็ไม่เอาแล้วเรื่องนี้  ยอมเสียหน้าไปทำเรื่องอื่นดีกว่า  อาจจะไม่ทัน  คำว่าอาจจะไม่ทันหมายถึงว่า  วันนี้อารมณ์ของคนมันหนักแล้ว  มันเป็นสิ่งที่ต้องกังวล ที่ผมพูดมันเป็นวิชาการ  มันเป็นประวัติศาสตร์ที่เขียนไว้  เพราะฉะนั้นบ้านเมืองเรามันเป็นอย่างนี้ มันก็ต้องมาช่วยกันดู  คนรับไม่ได้กับเรื่องที่มันเป็น
สำราญ  :  สมมุติว่า  วันจันทร์สภาคว่ำ  พรรคเพื่อไทยอาจจะต้องยอมรับโดยดุษฎีหรืออะไรก็แล้วแต่บอกว่า โอเคแล้ว  จะไม่เอามาปัดฝุ่นอีกเด็ดขาด  ถ้าออกมาขอโทษประชาชนกัน  ก็อาจจะทำให้กระแสมันเบาลงได้บ้าง
ดร.มัฆวาฬ  :  แต่จะยอมหรือเปล่าไม่รู้  แต่ว่าเปอร์เซ็นต์นี้มันเป็นไปได้น้อยมาก  แต่ผลการทำงานที่ผ่านมามันเป็นไปได้น้อย  ในทัศนะของผม 
สำราญ  :  แต่ส.ว.ดูเหมือนเขาจะมั่นใจว่า  วันจันทร์นี้คว่ำได้   
ดร.มัฆวาฬ  :  แต่ถ้าจะออกมาขอโทษประชาชน  เพื่อที่จะตั้งต้นใหม่  บอกว่าไม่เสนออะไรต่อมิอะไรอีกแล้ว อันนี้ผมเรียนว่า  มันเป็นไปได้ยาก  จากบทเรียนที่เราเห็น  จากการบริหารงานของพรรค  จากในประเทศ  ต่างประเทศมันเป็นอย่างนั้น  บางครั้งผมก็ไม่รู้อยู่เหมือนกัน  บางครั้งคนที่อยู่อำนาจโดยสูงสุด  มีอำนาจอยู่ในมือ  เขาก็ลืมหมดแล้ว  และประเด็นแตงโม  แตงไทยมันก็ลืมไม่ได้  สมมุติว่าถึงวันที่  11 แล้วมันเกิดเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น  เหมือนที่มันเคยเกิด  มีคนตีกัน  หัวล้างข้างแตก  มันก็ดูไม่รู้อีก  สมมุติว่าเราคิดกันเล่นๆ  คุณสำราญก็คงเห็นภาพพวกนี้มาเยอะอยู่แล้ว  บ้านเมืองมันมีความวุ่นวายดีนัก  เราก็ออกมาเคลื่อนขบวนกัน  ทหารออกมา  แล้วมันจะมีอะไรเกิดขึ้น  เราเลือกทางเลือก  ทางออกไว้ว่ามันมีทางนั้นทางนี้  เพราะฉะนั้นวันนี้ถ้าทุกคนไม่เห็นแก่บ้านเมือง  ประเทศของเราก็คงต้องล่มจม   
สำราญ  :  คือสถานการณ์ถ้าว่ากันแบบชาวบ้านเลย  เรามองโดยภาพรวมๆ แล้ว  สถานการณ์มันไปไกลกว่านั้นแล้ว  อย่างน้อยก็คือ  ต้องไล่รัฐบาล  ผมประเมินอย่างนี้จริงๆ
ดร.มัฆวาฬ :  คือมันฮึกเหิม  ของอย่างนี้มันจะปลุกได้ง่าย  ประเทศไทยมีเรื่องที่สำคัญอยู่แค่ 2-3 เรื่องเองที่ใครๆ ก็ปลุกสื่อ เรื่องคอรัปชั่นเรื่องเดียวไม่ต้องอะไรมากเลย  นี่ผมยังไม่พูดถึงการจาบจ้วงสถาบันนะ  ม็อบที่ออกมามันมีประเด็นเดียวเลย  มันมีพ.ร.บ.เป็นหลักเลย  เขาไม่ต้องการให้ล้างความผิดแก่คนที่ทุจริต  คนที่ไม้ซื่อสัตย์ต่อประเทศชาติ     
สำราญ  :  แต่เท่าที่อ.มัฆวาฬดู  จริงอยู่ที่ตำรวจตอนนี้  มีการเพิ่มเติมกำลัง  แต่ว่าในการเคลื่อนไหว  หรือท่าทีในการขยับเขยื้อน  ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย  ( ศอ.รส. )   ก็แถลงข่าวแบบปกติ  อาการเป็นประเภทเหมือนจะสุ้มอะไรเอาไว้  คือไม่ออกแถลงการณ์บ่อย  ไม่เคลื่อนไหวบ่อย  เหมือนจะรอนาที  เหมือนจะรอนโยบายใหญ่จากรัฐบาล
ดร.มัฆวาฬ  :  ผมว่าวันนี้  ประเทศไทยเรา  เจ้านายว่าอย่างไร  ลูกร้องก็ว่าอย่างนั้น  วันนี้ประเทศไทยไม่มีใครทักท้วงว่า  บ้านเมืองมันจะพังแล้วนะ  มันมีประวัติศาสตร์เขียนไว้  ที่คุณสำราญยกตัวอย่างมา  ผมคิดว่า  เรื่องนี้ก็มีประเด็นอยู่       
สำราญ  :  คืออ.มัฆวาฬ  ยังเชื่อว่า  เขาเตรียมพร้อมอยู่แล้วตอนนี้
อ.มัฆวาฬ  :  ใช่ครับ
สำราญ  :  สุดท้ายอยากจะให้อ.มัฆวาฬกล่าวสรุปสักหน่อย  ให้ท่านผู้ชมได้ตั้งสติกัน  ถึงสถานการณ์บ้านเมืองที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้   
อ.มัฆวาฬ  :  ในส่วนของประชาชนที่เขาออกมา  เขาก็ได้ทำหน้าที่ของเขาแล้ว  เราเองเราก็ทำไม่ได้อย่างเขา  เขาต้องไปดากแตดตากฝน  ส่วนเรายังไปนั่งบริหารสบายๆ  ไม่ต้องเดือดร้อนแบบเขา  ทีนี้คนที่เกี่ยวข้องที่อยากจะฝากมี 3-4 คนที่ได้พูดไปแล้ว  พรรคเพื่อไทยก็ดูเอาล่ะกันว่า  อยากให้บ้านเมืองเป็นอย่างไร  ต่อมาก็ทหาร  ก็ฝากดู  ตอนนี้บ้านเมืองเราก็อยู่ในช่วงที่หัวเลี้ยวหัวต่อ  ในหลวงก็ทรงชราภาพอะไรต่ออะไร  ทางเราก็ต้องการความสงบเรียบร้อยส่วนหนึ่ง  ปปช.  ถึงแม้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับนิติบัญญัติ  ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล  แต่ว่าปปช.ก็มีส่วน  เพราะฉะนั้นวันนี้ถ้าจะให้นิ่งเฉยอยู่คงไม่ได้  ที่ใกล้ตัวที่สุดก็คือ  วุฒิสมาชิก  มันชัดเจนว่า  ถ้าผ่านฉลุย  วุฒิสมาชิกถูกเรียกแน่นอนว่า เป็นสภาทาส  สภาอะไรก็แล้วแต่ที่เขาเรียกกัน  เพราะฉะนั้นก็ฝากคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดใน 4-5 กลุ่มนี้ด้วย  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น