วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ถ้า ส.ว.โหวตคว่ำร่างนิรโทษกรรมได้ แล้วไงต่อ เก็บเศษไพ่ใบสุดท้าย ก่อนสิ้นชินวัตรวันอังคาร ที่ 5 พฤศจิกายน 2556

วันอังคาร ที่ 5 พฤศจิกายน 2556

เมื่อทำไปแล้ว ต้องสำเร็จ บอกเลยว่า ต้องปิดซอยให้ได้ โอกาสแบบนี้ ไม่มีอีกแล้ว การยกระดับการชุมนุมครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นม็อบที่เกิดจากพรรคประชาธิปัตย์ ม็อบจาก คปท.งานนี้ต้องทำให้จบ ไม่งั้น ประเทศก็จบ
พรรคประชาธิปัตย์ย่อมรู้ว่า การตั้งโจทย์ไว้แค่ ล้มพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ซึ่งคงต้องจากวุฒิสภา โหวตคว่ำในวาระที่ 1 เลย หรืออาจยาวไปที่วาระ 3 แค่นี้ตอบโจทย์แล้วหรือไม่ ตามมาตรา 146 ระยะเวลาที่วุฒิสภาจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จ เมื่อรับมาจากสภาผู้แทน ภายใน 60 วัน ตามมาตรา 146 ของรัฐธรรมนูญ 50 แต่หลักจริงๆแล้ว อยู่ในมาตรา 147-148
มาตรา 147 ภายใต้บังคับมาตรา 168 เมื่อวุฒิสภาได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติเสร็จแล้ว
(1) ถ้าเห็นชอบด้วยกับสภาผู้แทนราษฎร ให้ดำเนินการต่อไปตามมาตรา 150
(2) ถ้าไม่เห็นชอบด้วยกับสภาผู้แทนราษฎร ให้ยับยั้งร่างพระราชบัญญัตินั้นไว้ก่อน และส่งร่างพระราชบัญญัตินั้นคืนไปยังสภาผู้แทนราษฎร
(3) ถ้าแก้ไขเพิ่มเติม ให้ส่งร่างพระราชบัญญัติตามที่แก้ไขเพิ่มเติมนั้นไปยังสภาผู้แทนราษฎรถ้าสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบด้วยกับการแก้ไขเพิ่มเติม ให้ดำเนินการต่อไปตามมาตรา 150 ถ้าเป็นกรณีอื่น ให้แต่ละสภาตั้งบุคคลซึ่งเป็นหรือมิได้เป็นสมาชิกแห่งสภานั้น ๆ มีจำนวนเท่ากันตามที่สภาผู้แทนราษฎรกำหนด ประกอบเป็นคณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างนั้น และให้คณะกรรมาธิการร่วมกันรายงานและเสนอร่างพระราชบัญญัติที่คณะกรรมาธิการร่วมกันได้พิจารณาแล้วต่อสภาทั้งสอง ถ้าสภาทั้งสองต่างเห็นชอบด้วยร่างพระราชบัญญัติที่คณะกรรมาธิการร่วมกันได้พิจารณาแล้ว ให้ดำเนินการต่อไปตามมาตรา 150 ถ้าสภาใดสภาหนึ่ง ไม่เห็นชอบด้วย ก็ให้ยับยั้งร่างพระราชบัญญัตินั้นไว้ก่อน
คณะกรรมาธิการร่วมกันอาจเรียกเอกสารจากบุคคลใด หรือเรียกบุคคลใดมาแถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็นในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติได้ และเอกสิทธิ์ที่บัญญัติไว้ในมาตรา 130 นั้น ให้คุ้มครองถึงบุคคลผู้กระทำหน้าที่ตามมาตรานี้ด้วย
การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมกันต้องมีกรรมาธิการของสภาทั้งสองมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมาธิการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม และให้นำบทบัญญัติมาตรา 137 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ถ้าวุฒิสภาไม่ส่งร่างพระราชบัญญัติคืนไปยังสภาผู้แทนราษฎรภายในกำหนดเวลาตามมาตรา 146 ให้ถือว่าวุฒิสภาได้ให้ความเห็นชอบในร่างพระราชบัญญัตินั้น และให้ดำเนินการตามมาตรา 150 ต่อไป
มาตรา 148 ร่างพระราชบัญญัติที่ต้องยับยั้งไว้ตามมาตรา 147 นั้น สภาผู้แทนราษฎจะยกขึ้นพิจารณาใหม่ได้ต่อเมื่อเวลาหนึ่งร้อยแปดสิบวันได้ล่วงพ้นไปนับแต่วันที่วุฒิสภาส่งร่างพระราชบัญญัตินั้นคืนไปยังสภาผู้แทนราษฎร สำหรับกรณีการยับยั้งตามมาตรา 147 (2) และนับแต่วันที่สภาใดสภาหนึ่งไม่เห็นชอบด้วย สำหรับกรณีการยับยั้งตามมาตรา 147 (3) ในกรณีเช่นว่านี้ ถ้าสภาผู้แทนราษฎรลงมติยืนยันร่างเดิมหรือร่างที่คณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ให้ถือว่าร่างพระราชบัญญัตินั้นเป็นอันได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา และให้ดำเนินการต่อไปตามมาตรา 150
ตาม(2)และ(3) ของมาตรา 147 ย่อมมีผลให้ร่างกฎหมายโดนแช่แข็ง 180 วัน ตามมาตรา 148 แต่ถ้ามาคิดให้ลึกซึ้ง ระยะเวลาที่บอกว่า กฎหมายต้ัองถูกแช่แข็งไปโดยอัตโนมัติ อาจเป็นช่องว่างแห่งสูญญากาศ ที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยจะหาประโยชน์ ฉกฉวยโอกาสหาเอาประโยชน์จากตรงนี้ได้ เพราะมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ 50 กำลังจะได้รับการแก้ไข เพื่อประโยชน์แก่ทักษิณและพรรคพวก โดยเฉพาะ สาระสำคัญอยู่ที่วรรค 1- 2 ของมาตรา 68
มาตรา 68 บุคคลจะใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้ มิได้
ในกรณีที่บุคคลหรือพรรคการเมืองใดกระทำการตามวรรคหนึ่ง ผู้ทราบการกระทำดังกล่าวย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว แต่ทั้งนี้ ไม่กระทบกระเทือนการดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำการดังกล่าว
ถ้าเวลา 180 วัน พวกเขาหันไปทำตรงนี้ได้สำเร็จ ก็ถือว่าร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมที่ยังไม่ได้รับการยกเลิกเพิกถอน ก็สามารถนำมาใส่ทะลุช่องว่างตรงนี้ได้โดยเสรี โดยเฉพาะร่างแก้ไขที่กรรมมาธิการทำเสร็จแล้ว อ่านแล้ว เหมือนดูดี แต่หมกเม็ด ซ่อนปม ไว้หลายประการ ตามนี้
มาตร 68 เรื่องสิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญ

-ผู้ที่ทราบการกระทำที่นอกเหนือรัฐธรรมนูญเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครอง ต้องยื่นเรื่องผ่านอัยการสูงสุด และให้อัยการดำเนินการให้เสร็จภายใน 30 วัน หากพบเป็นการกระทำที่ผิด ให้อัยการสูงสุดส่งเรื่องต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยสั่งยุติการกระทำ หรือยุบพรรคการเมือง

-อัยการสูงสุดมีอำนาจสั่งยุติเรื่องที่ยื่นให้พิจารณาหากพบว่าการกระทำนั้น ไม่เป็นการล้มล้างการปกครองหรือทางลัดที่นำไปสู่อำนาจการปกครองประเทศ
ที่มา คมชัดลึก
จากที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยให้ยื่นเรื่องต่ออัยการหรือศาลรัฐธรรมนูญ ทางใดทางหนึ่งได้ ถ้าแก้ไขแล้ว สิทธิยื่นคือประชาชน และอำนาจรับเบื้องต้นคืออัยการสูงสุด และยังขยายอำนาจในการสั่งยุติเรื่อง กับถ้าทำเรื่องไม่เสร็จภายใน 30 วัน ค่อยส่งเรื่องต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ แล้วทุกวันนี้ ไว้ใจได้ไหม ในอัยการสูงสุด ตรงนี้ อำนาจปกปักพิทักษ์รัฐธรรมนูญของประชาชนหายไปเลย แล้วถ้าแก้ไขได้แล้ว อะไรจะเกิดขึ้น มองได้ 2 แนวทาง ที่คนพวกนี้จะทำ คือ
1.  ไปยกมือผ่านวาระ 3 แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ที่ยังอยู่ในสภา ตั้ง สสร.เอามาตรา 309 ออกไป หรือ
2.  แก้ไขมาตรา 309 ทันที
ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมเป็นไพ่ใบสุดท้ายที่ทิ้งมา ก่อนเวลาอันควร และถ้าส่งไปศาลรัฐธรรมนูญ โดยที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ยังไม่ได้รับการแก้ไข อย่างไร ศาลก็ตัดสินว่าขัดรัฐธรรมนูญ 100% แต่ถ้ายังมีเศษไพ่ใบสุดท้ายหลงเหลืออยู่นั้น ระบอบทักษิณยังมีเกมส์ให้เล่นต่อได้ กล่าวคือ ถ้าแก้ไขมาตรา 68 ได้ อะไรก็ง่ายขึ้น ใช้แนวทาง 1 ช้าหน่อย แต่เนียน แนวทาง 2 เร่ง เร็ว รีบ ด่วนสั่งได้ โดยการเอามาตรา 309 ที่เป็นก้างตำคอ ออกไปเสีย เมื่อพ้น 180 วันแล้ว นำร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม มาโหวตใหม่ นำขึ้นทูลเกล้า ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ใช้เป็นกฎหมาย เพียงแค่นี้ ทักษิณกลับประเทศไทยได้ทันที สุดซอยจนได้ เรียบร้อยโรงเรียนชินวัตร
วันนี้ ทักษิณยังสั่งขี้ข้าให้ลุยเข้าไปให้สุดซอย ยิ่งลักษณ์ยังไม่ยอมแพ้ ดึงดันทำร่างนิรโทษกรรมให้สำเร็จ แม้จะมียี่เกดราม่า จัดฉาก น้ำตาท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง ขออภัย ขอความเมตตา ถามกลับหน่อยซิ คุณเคยเมตตาต่อประเทศไทย ต่อประชาชนคนไทย บ้างไหมใจดำอำมหิตต่อประเทศชาติ และประชาชน ทั้งพี่ ทั้งน้อง เคยเห็นกันไหมครับ หมาเมื่อขนของมันยังเยอะ ฟูฟ่อง เห็บหมายังกระโดดเกาะ แต่หมาที่ใกล้ตาย ถ้าเห็บหมายังเกาะ ก็คงต้องปล่อยตายไปพร้อมกัน
ม็อบราชดำเนิน ยังต้องดำเนินต่อ ม็อบ อุรุพงษ์ ต้องขยายให้มากกว่านี้ การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด สงครามยังไม่จบ หัวใจของฝ่ายมาร คือทักษิณ ชินวัตร ผ่านตัวแทนน้องสาวชื่อยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แค่ล้มหรือชลอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ไม่เพียงพอ ตอบโจทย์ไม่ได้ ต้อง Set Zero ล้างเสียให้สิ้น อย่าให้ตระกูลชินวัตรเสนอหน้าออกมาอีก แล้วไปให้ไกลกว่านั้น ปฎิรูปประเทศไทย เพื่อประชาชนคนไทยทุกค

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น