วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อาจารย์มธ.200ผนึกกำลัง ‘หมอ-ดารา’ไม่เอาคนโกง เมื่อ 3 พ.ย.56


อาจารย์มธ.200ผนึกกำลัง ‘หมอ-ดารา’ไม่เอาคนโกง

มธ.ล่ารายชื่ออาจารย์นับร้อย แสดงจุดยืน ค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซัดเป็น กม.ทำลายหลักนิติธรรม ร้องวุฒิสภารับผิดชอบต่อสังคมไทย ลงมติไม่เห็นด้วย ขณะที่เครือข่ายแพทย์คึกคัก บุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลทั่วประเทศ แห่ลงชื่อแล้วครึ่งพัน  สภาการหนังสือพิมพ์ฯ ออกแถลงการณ์ชี้กฎหมายนิรโทษโกงเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันมากขึ้นในสังคมไทย เป็นภัยร้ายแรงอย่างยิ่งสำหรับชาติในอนาคต
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีการส่งจดหมายเปิดผนึกของคณาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มายังสำนักข่าวต่างๆ โดยมีเนื้อหาระบุว่า ตามที่ได้มีการเสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร และสภาผู้แทนราษฎรได้มีการกระทำอื่นๆ ที่ไม่ใช่การกระทำของประชาชน รวมทั้งการกระทำที่เข้าข่ายการทุจริตและคอร์รัปชันทั้งหลายของผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย
    การนิรโทษกรรมครั้งนี้ จึงเป็นการยกเว้นความผิดในทุกกรณี ซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักนิติธรรมและหลักแห่งการนิรโทษกรรมที่จะต้องมีเหตุผลและขอบเขตที่ชัดเจน และยังจะเป็นตัวอย่างให้ผู้ที่กระทำผิดทั้งหลาย โดยเฉพาะคดีทุจริตคอร์รัปชัน ไม่เกรงกลัวกฎหมายของบ้านเมือง อีกทั้งมิได้ทำให้ข้อขัดแย้งทางการเมืองลดลงสมดังเจตนารมณ์ของการออกกฎหมายแต่ประการใด
    คณาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ดังมีรายนามข้างท้ายนี้ จึงขอคัดค้านร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับนี้ และขอเรียกร้องให้วุฒิสภาแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคมไทย ยืนหยัดในหลักนิติธรรมด้วยการลงมติไม่เห็นชอบในร่างกฎหมายที่นำมาซึ่งความแตกแยกอย่างรุนแรงในสังคมไทย
    ขณะที่ นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่า การล่ารายชื่อคณาจารย์ธรรมศาสตร์ดังกล่าว เป็นเพียงแค่ล่ารายชื่อจุดยืนของคณาจารย์ที่มีจุดยืนเดียวกัน มีความคิดเห็นเดียวกันว่าเราไม่เห็นด้วยเท่านั้น และจะส่งไปให้กับสื่อมวลชนทุกสำนัก แต่จะไม่มีการเคลื่อนไหวเดินขบวน หรือจะไปร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มใดทั้งสิ้น 
    รายชื่ออาจารย์ที่ไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.บ. นิรโทษกรรมฉบับนี้ ซึ่งท่านอธิการฯ จะเป็นผู้นำในการร่างแถลงการณ์ รายนามต่อไปนี้คือผู้ไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.ดังกล่าวข้างต้น  
เปิดรายชื่ออาจารย์ มธ.
    1.รศ.ดร.กำพล รุจิวิชชญ์ 2.รศ.ดร.มรรยาท รุจิวิชชญ์ 3.ดร.ชัยยุทธ ชวลิตนิธิกุล 4.ผศ.ดร.สุปรีดี ฤทธิรงค์ 5.อ.พญ.พิชญาภา รุจิวิชชญ์ 6.รศ.สุเพชร จิรขจรกุล 7.รศ.ชุมพจต์ อมาตยากุล 8.รศ.ถวัลย์ ฤกษ์งาม 9.รศ.ดร.นันทนา รณเกียรติ 10.ศ.ดร.ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช 
    11.รศ.ดร.ประภัสสร์ วังสกาจญ์ 12.รศ.นพ.ปรีชา วาณิชยเศรษฐกุล 13.รศ.ดร.สมชาติ โชคชัยธรรม 
14.อ.ดร.กัญญาณัฐ เปี่ยมงาม 15.รศ.ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ 16.ผศ.ดร.ธีระ เจียศิริพงษ์กุล 17.ผศ.ดร.สมเกียรติ วรปัญญาอนันต์ 18.ผศ.ดร.นิธินันท์ วิศเวศวร 19.ศ. ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ 20.อ.กิตติพงศ์ กมลธรรมวงศ์ 
    21.รศ.ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ 22.ผศ.ดร.รัชฎา คงคะจันทร์ 23.ผศ.ดร.พวงผกา คงวัฒนานนท์ 24.ผศ.ดร.ชมชื่น สมประเสริฐ 25.ผศ.เอกอุมา อิ้มคำ 26.รศ.ดร.ปกรณ์ โอภาประกาสิต 27.อ.นิรมัย พิศแข 28.อ.ทพญ.ดร.ภัคพร ภัทราพร 29.รศ.สายฝน สุเอียนทรเมธี 30.ศ.ทพ.ดร.สิทธิชัย ขุนทองแก้ว 
    31.ผศ.ดร.ปกป้อง ศรีสนิท 32.รศ.พญ.อรพรรณ โพชนุกูล 33.รศ.ดร.วิโรจน์ บุญญภิญโญ 34.รศ.เกศินี วิทูรชาติ 35.ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ 36.อ.ดร.ณัฐพัชร์ บัวบุญ 37.อ.สุธาสินี ศรีนุ่น 38.รศ.ดร.สมชาย ชคตระการ 39.ผศ.ดร.นพพร ลีปรีชานนท์ 40.ผศ.ดร.ไพลวรรณ สัทธานนท์ 
    41.อ.ดร.ผกามาศ พิริยะประสาธน์ 42.ผศ.ดร.เสกสรรค์ สโมสรสุข 43.อ.ดร.สุวรรณา โควะวินทวีวัฒน์  44.ศ.ดร.ประมวญ เทพชัยศรี 45.รศ.จุฑามาศ เทพชัยศรี 46.ผศ.ดร.ศุภวัฒน์ สุภัควงศ์ 47.ผศ.พญ.นรากร ลีปรีชานนท์ 48.พญ.พิกุล วิมลเฉลา 49.รศ ยุพิน โภคฐิติยุกค์ 50.รศ.ดร.สุพงศ์ ตั้งเคียงศิริสิน 
    51.ผศ.นพ.ฉัตรนรินทร์ เมธีกุล 52.ศ.ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ 53.รศ.วรภัทร ลัคนทินวงศ์
54.รศ.ดร.ดำรงค์ อดุลยฤทธิกุล 55.ผศ.ชุลีพร เกษโกวิท  56.ผศ.วรรณี สำราญเวทย์ 57.อ.ณัฐพล จันทร์แก้ว
58.อ.ดร.ปาริยา ณ นคร 59.รศ.ดร.นภาพร ยังวิเศษ  60.ผศ.ดร.สุภกร บุญยืน
    61.รศ.ดร.ไชยณรงค์ จักรธรานนท์ 62.ศ.นพ.สุรศักดิ์ บูรณตรีเวทย์ 63.ผศ.ดร.ชาญณรงค์ อัศวเทศานุภาพ 64.อ.นพ.บุญชู ศิริจงกลทอง 65.ผศ.จิณพิชญ์ชา  มะมม 66.ผศ.ดร.จีราภรณ์ กรรมบุตร 67.อ.สุภาวดี เจริญวานิช 68.นพ.เอกวิทย์ เจริญวานิช 69.อ.เกสร มุ้ยจีน 70.ดร.จุฑามณี อ่อนสุวรรณ
    71.รศ.พรชัย ตระกูลวรานนท์ 72.อ.พญ.วิศรี วายุรกุล 73.รศ.ดร.พิพัฒน์ สมภาร 74.ผศ.นพ.วีรยุทธ โถวประเสริฐ 75.ศ.ดร.อุดม รัฐอมฤต 76.ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล 77.ผศ.ดร.ชนัญ ผลประไพ 78.อ.นพ.พสิษฐ์พล วัชรวงศ์วาน 79.รศ.ดร.วริษา กมลนาวิน 80.รศ.ดร.ตรีทศ เหล่าศิริหงษ์ทอง  
    81.อ.นพ.สิระ นันทพิศาล 82.ผศ.ดร.วีรชัย อโณทัยไพบูลย์ 83.ผศ.ดร.บรรยงค์ รุ่งเรืองด้วยบุญ 84.ดร.ประวิทย์ เขมะสุนันท์ 85.ผศ.ดร.อัจฉรา ปัณฑรานุวงศ์ 86.ดร.กริช เจียมจิโรจน์ 87.ผศ.พนิดา ศิริอำพันธ์กุล
88.ผศ.ปิยะวรรณ ขนาน 89.ผศ.ดร.จันทิมา อังคพานิชกิจ 90.รศ.ดร.วิจิตรา วิเชียรชม 91.อ.ดร.อรประภา อนุกูลประเสริฐ 92.ผศ.ดร.จิรดา สิงขรรัตน์ 93.ผศ.วีระจักร์ สุเทียนทรเมธี
เครือข่ายแพทย์พรึ่บ
    ส่วนการร่วมลงชื่อคัดค้านร่างกฎหมายนิรโทษกรมในส่วนของเครือข่ายแพทย์และอาจารย์แพทย์นั้น พบว่า ยอดลงชื่อเมื่อวันเสาร์มีแล้วกว่า 400 คน จากโรงพยาบาลทั่วประเทศ อาทิ คณะแพทย์ศาสตร์ รามาธิบดี,  รพ.บ้านฉาง, รพ.มาบตาพุด, รพ.สงฆ์, รพ.ราชวิถี, รพ.ตากสิน, รพ.มหาราชนครราชสีมา, รพ.ราชธานี, รพ.อุตรดิตถ์, รพ.วชิระภูเก็ต, รพ.วชิรพยาบาล, รพ.เขาสุกิม, รพ.ชุมพร, รพ.หาดใหญ่, รพ.ราชบุรี, รพ.พญาไท 3 , รพ.พญาไท 2, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล  
    รพ.พระมงกุฎฯ, รพ.เจริญกรุงประชารักษ์, รพ.ตำรวจ, รพ.พิจิตร, รพ.รามคำแหง, รพ.รามคำแหง, รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก, รพ.มิตรภาพเมโมเรียล, ศูนย์สิรินธรการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ, รพ.ไทยนครินทร์, สถาบันประสาทวิทยา, รพ.ตรังออร์โธปติกส์ เป็นต้น 
    นอกจากนี้ ยังมีบุคคลที่มีชื่อเสียงด้านบันเทิง อาทิ บอย โกสิยพงษ์ นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดัง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Boyd Kosiyabong ระบุว่า "ในฐานะประชาชนคนไทยที่ทุกคนมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ผมขออนุญาตแสดงความคิดเห็นว่า ผมไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมครับ"
    ขณะที่ ครูเป็ด มนต์ชีพ ศิวะสินางกูร โพสต์ในเฟซบุ๊กครูเป็ด Moncheep ว่า "ไม่กี่ปีมานี้ก็มีผู้นำประเทศนึงโดนคล้ายๆ พี่นี่แหละ แล้วก็ได้นิรโทษ ก็กลับบ้าน ยังไม่ทันพ้นสนามบิน ก็เป็นไข้โป้งตาย
     ผมเดาว่าพี่เล็งจะเอาคืนไอ้หลายหมื่นล้านของพี่มากกว่า ถ้าได้แล้วก็คงเปิดตูดไม่กลับมาหรอก
    โหเงินหลายหมื่นล้านมันเป็นยังไงครับ นึกยังไงผมก็นึกไม่ออก มันทำให้พี่นอนหลับสบายทุกคืนหรือเปล่า
    เออแล้วกับน้องสาวพี่อะ ถูกพี่หลอกใช้ด้วยป่าว ผมเห็นบางทีก็สงสาร เมื่อก่อนทำธุรกิจอยู่ดีๆ ก็รวย ก็สวย ปูยังงั้น ปูยังงี้ ดูน่ารักดี ตอนนี้ต้องมาเก๊กมาดเข้ม พูดผิดๆถูกๆ ให้ชาวบ้านด่าค่อนขอดอยู่ทุกวัน หน้างี้แก่เชียว ลูกผัวไม่รู้มีเวลาให้รึเปล่า
    ปล่อยวางบ้างเถอะพี่ ผมขอร้องพี่อย่างจริงใจ ถ้าพี่ยังคิดอยู่ว่า กูถูกแกล้ง ต้องคืนความยุติธรรมมาให้กู ผมก็อยากสะกิดพี่ว่า แล้วที่พี่เอาเปรียบคนอื่นมาตั้งเท่าไหร่ พี่ก็รู้แก่ใจ
    ไอ้ที่ว่า set zero ผมว่าเริ่มจากพี่เองแหละ พี่สงบ ทุกอย่างก็สงบ นะพี่นะ"
    "แล้วที่สำคัญที่สุด พี่ตั้งใจฟังนะครับ คนจำนวนมาก ที่เขารักพี่ ยอมเอาตัวเข้าแลก ยอมถูกฝ่ายตรงข้ามเรียกว่าควายแดง พวกเขาบาดเจ็บล้มตายไม่น้อย เขาก็อยากให้เอาคนผิดมารับโทษ แล้วพี่มาเล่นยกเข่งให้รอดหมดทุกคนยังงี้ โห พี่ใจร้ายอะ ทิ้งเพื่อน อีกเรื่องนึง พอพี่เดินหน้าเหมาเข่งแบบนี้ เท่ากับเปิดโอกาสให้พี่มาก (มาร์ค) กับน้าเทือกแกโกยคะแนนไปเยอะ แค่แกออกมาประกาศว่า พวกผมยอมติดคุก ไม่เอานิรโทษ (ที่จริงแกก็กลัวเหมือนกันแหละ) แค่นี้แกก็ดูโคตรแมนเลย ตรงข้ามกับพี่ กลายเป็นคนหักหลังเพื่อนไปซะฉิบ ผมนับถือว่าพี่เป็นคนฉลาดนะ แต่บางครั้ง โมหะ คือความหลง หลงในอำนาจ การที่แพ้ไม่เป็น การไม่รู้จักปล่อยวาง ก็ทำให้หมดความฉลาดได้"
    ขณะที่ หนุ่ม อรรถพร ธีมากร นักแสดงหนุ่มเจ้าบทบาท ซึ่งผันตัวเองมาเป็นผู้กำกับละครชื่อดัง โพสต์ข้อความว่า "ผมไม่ได้รักสีใด ผมรักในหลวง รักแผ่นดินเกิด ผมแค่รับไม่ได้กับกฎหมายเหี้ยๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น อุดมการณ์ผมง่ายๆ แค่นี้ครับ ฉะนั้นใครจะมากวนตีนผม กรุณาไปไกลๆ ตีนครับ"
    ด้าน "เดือน" ไปรมา รัชตะ โพสต์อินสตาแกรม เมื่อวันศุกร์ว่า 
    "หนูดี หลานรัก
    ที่ป้าคอยเตือนพร่ำสอนหนูแต่เด็กว่าให้หนูเป็นคนดี เป็นเด็กดีนั้น ไม่ต้องแล้วค่ะลูก ตอนนี้หนูสามารถคอร์รัปชันก็ได้ เผาบ้านเผาเมืองก็ได้ ปล้นทรัพย์ก็ได้ ฆ่าทหารก็ได้ บุก รพ.ก็ได้ โกงกินได้อย่างเต็มที่เลยลูก แล้วก็เลวให้เต็มตัว เพราะตอนนี้เรามี พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแล้ว ทำอะไรผิดๆ เลวๆ พ.ร.บ.นี้ช่วยเราได้ค่ะ
    หนูจงภูมิใจลูก Thailand Only ค่ะ ประเทศแรกและประเทศเดียวในโลก ที่คนชั่วกลายเป็นคนดี...ประเทศเดียวในโลกที่ฝ่ายนิติบัญญัติสนับสนุนการคอร์รัปชัน"
    ส่วน โย ยศวดี โพสต์ในอินสตาแกรมว่า "อำนาจมีไว้ก็ดี แต่ถ้านำมาใช้แบบผิดวิธีบ้านเมืองบรรลัยแน่!!!
    วันเดียวกันนี้ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติออกแถลงการณ์ หยุดทำร้ายประเทศชาติ ระบุว่า การผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งมิได้เป็นไปตามหลักการ มีลักษณะขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม เป็นช่องทางให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันมากขึ้นในสังคมไทย อีกทั้งเป็นการบั่นทอนกำลังใจคนดีมีคุณธรรม และลดทอนคุณค่าของคุณงามความดี นับเป็นภัยร้ายแรงอย่างยิ่งสำหรับประเทศชาติในอนาคต สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ อันเป็นองค์กรอิสระ มีหน้าที่ในการควบคุมกันเอง ส่งเสริมให้หนังสือพิมพ์ทำหน้าที่ให้การศึกษาแก่ประชาชน ยึดถือความยุติธรรมและความเที่ยงธรรมเป็นหลักในการประกอบวิชาชีพ ได้ตระหนักถึงภาระหน้าที่ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนี้ ที่จะส่งเสริมและสนับสนุนความดีและคนดี ภายใต้รัฐและผู้ปกครองที่ดี และแสดงให้เห็นประจักษ์แก่สังคมทั่วไป
        รัฐที่ดีจะต้องปกครองด้วยกฎหมายมิใช่มนุษย์ และไม่ใช่ปกครองด้วยกฎหมายซึ่งมาจาก “เสียงข้างมาก” ที่ไม่ได้สะท้อนผลประโยชน์ของชาติและประชาชนอย่างแท้จริง หากมุ่งหมายเพื่อตนเองและพวกพ้อง ในขณะเดียวกัน อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติก็ไม่สามารถถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหารตามหลักการที่ถูกต้องได้ ในแง่ของความเป็นธรรม หรือหลัก “นิติธรรม” ซึ่งหมายถึงความเป็นธรรมที่มีอยู่ในกฎหมาย เป็นกฎ ระเบียบ แบบแผนที่สังคมยอมรับ และยินยอมพร้อมใจปฏิบัติตาม เมื่อพิจารณาประกอบกับเนื้อหาและเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้แล้ว เห็นว่าขัดกับหลักการทั้งเรื่องนิติรัฐ และนิติธรรมอย่างสิ้นเชิง
วอนวุฒิสภาเห็นแก่ชาติ
      เมื่อกฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ คนทำผิดกฎหมาย ทั้งที่มีคำพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้ว หรืออยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณา สามารถที่จะยกเลิกเพิกถอนคำพิพากษานั้นได้ในภายหลัง หรือพ้นไปจากข้อกล่าวหาโดยยังไม่มีการพิสูจน์ความผิดใดๆ การปฏิบัติตามกฎหมายก็จะไม่สำคัญอีกต่อไป อำนาจตุลาการ ซึ่งเป็นอำนาจสูงสุดโดยหลักการ ที่จะเป็นหลักประกันว่า บุคคลทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน และหากกระทำความผิดไม่ว่าคดีแพ่ง หรืออาญา ก็จะต้องได้รับการพิจารณาพิพากษาโดยศาลเดียวกัน อย่างเสมอหน้ากัน ก็จะไม่สามารถเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนได้อีก
       เราเห็นว่า มติจากเสียงข้างมาก หากมิได้อยู่บนหลักการและพื้นฐานเพื่อประโยชน์สาธารณะ ก็ไม่สามารถรับรองความถูกต้องตามหลักการของการตรากฎหมาย ที่จะต้องคำนึงถึงหลักนิติธรรม และไม่สามารถที่จะอ้างความชอบธรรมได้ เราขอคัดค้านการบังคับใช้ให้เป็นไปตามร่างกฎหมายที่ไม่ชอบธรรมนี้ ขอสนับสนุนบุคคล กลุ่มบุคคล รวมทั้งกระบวนการอันชอบธรรมที่จะคัดค้านร่างกฎหมายนิรโทษกรรมอย่างถึงที่สุด และขอเรียกร้องให้วุฒิสภา อันประกอบด้วย ผู้ทรงเกียรติทั้งหลาย ได้ใช้วิจารณญาณในการพิจารณากฎหมายฉบับนี้อย่างรอบคอบ ถี่ถ้วน เพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติ และเพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญในคุณค่าของความดีและคนดีของสังคมนี้
    ขณะที่สวนดุสิตโพล สอบถามความคิดเห็นของประชาชนที่อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 1,134 คน ระหว่างวันที่ 29-31 ตุลาคม 2556 สรุปผลดังนี้  
    จากกระแสความขัดแย้งเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ประชาชนคิดว่าการนิรโทษกรรมควรจะเป็นรูปแบบใด
อันดับ 1    ไม่มีการนิรโทษกรรม 57.63%, อันดับ 2 นิรโทษกรรมเฉพาะกับประชาชนผู้ที่เกี่ยวข้องหรือถูกชักจูงทางการเมือง ซึ่งไม่รวมผู้สั่งการ 19.77%, อันดับ 3 นิรโทษกรรมทุกคนทุกฝ่ายโดยไม่มีเงื่อนไข 11.30%, อันดับ 4 นิรโทษกรรมประชาชนผู้ที่เข้าร่วมทางการเมืองและผู้ที่สั่งการโดยที่เป็นข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติตาม 6.78%, อันดับ 5 นิรโทษกรรมทั้งหมดทุกคนแต่ไม่รวมเรื่องของการเงิน เช่น การคืนเงินของอดีตนายกฯ ทักษิณ 4.52%.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น