วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ไม่มีเหตุผลอื่นใดให้ "ยิ่งลักษณ์" อยู่ เมื่อ 18 พ.ย.56

ไม่มีเหตุผลอื่นใดให้ "ยิ่งลักษณ์" อยู่


เดี๋ยว...ย้ำไว้นิด เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ขณะนี้ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย "ยังไม่ตาย" อย่างที่บางคนเข้าใจ เป็นเพียงวุฒิสภา โดยนายนิคม ไวยรัชพานิช รีด "น้ำเชื้อชั่ว" ไปแช่แข็งเก็บไว้ ๑๘๐ วัน เท่านั้น พร้อมนำออกมาฉีดเข้า "มดลูกสภาทาส" คลอดเป็นกฎหมาย ล้างโทษ-ล้างคดี "ยกโคตร" ให้ทักษิณได้ วันไหน-ก็วันนั้น!
    ครับ...บางคนไม่แน่ใจ มาถามผม ก็ตอบให้ทราบรวมกันไปเลย ฉะนั้น ที่คุณสุเทพ ณ ราชดำเนิน จะพาเหรดส่งสังญาณถึงยิ่งลักษณ์วันนี้ (๑๕ พ.ย.) เป็นการเตือนครั้งที่ ๑ ถ้า... 
    "พ.ร.บ.นิรโทษไม่ตาย...
    ยิ่งลักษณ์...ต้องตาย! 
    ขณะเดียวกัน คปท. "เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย" ของคุณอุทัย ยอดมณี และคุณนิติธร ล้ำเหลือ ก็ "เตือนครั้งที่ ๑" ด้วยการโรดโชว์สีลม-ราชดำริเมื่อวาน ส่งสัญญาณให้ประชาชนรู้ว่า 
    "พื้นที่เล็กๆ ของพื้นที่" ตามศาลโลกระบุในคำพิพากษา ๑๑/๑๑/๑๓ ว่าเป็นพื้นที่บริเวณใกล้เคียงตัวปราสาท เป็นของเขมร ทหารไทยต้องถอยนั้น
    พี่น้องร่วมชาติ-ร่วมแผ่นดินทั้งหลาย โปรดใคร่ครวญ...
    เบื้องหลังเป็นที่มาคำพิพากษานี้ จะถ่วงน้ำหนักด้วย "ประโยชน์เชิงสัมพันธ์" ระหว่างจักรวรรดิอำนาจทุนตะวันตก-ตะวันออก อันมีเป้าหมายซ่อนเร้นตรงที่ "พื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย" ซึ่งมั่งคั่งด้วยแหล่งก๊าซและน้ำมัน
    ใช่หรือไม่?
    เราทั้งหลายต้องช่วยกันหาคำตอบ ทำไมต้องทำเช่นนั้นน่ะหรือ คำตอบก็คือ มันมีตะเข็บแห่งกาลเวลา และแรงสั่นไหวลมหายใจรัฐบาลระบอบทักษิณ ผ่านร่างทรงยิ่งลักษณ์ ให้เป็นปริศนาชวนค้นหา
    การเร่งแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๙๐ ของรัฐสภาทาส โดย "สมศักดิ์-นิคม" ชนิดปรุงสุกไว้รอล่วงหน้า โดยเฉพาะประเด็นที่ตัด "ลักษณะหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ" ที่จากเดิมต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาทิ้งไปนั้น
    เมื่อย้อนจิ๊กซอว์คิด...นั่น เท่ากับเจาะจง "เพิ่มอำนาจ" ให้ฝ่ายบริหาร คือรัฐบาล ทำหนังสือสัญญาที่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยได้ โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาอีกต่อไป
    ทักษิณ-ฮุน เซน-กลุ่มทุนตะวันตก+เอเชีย ในร่าง "เชฟรอน-โตตาล-มิตซุย" เขารวมหัวเป็นเงาทับ "ศาลโลก" หรือเปล่า?
    เพราะเนื้อแท้ของ "ศาลโลก" ก็เหมือนเฟด เหมือนยูเอ็น เหมือนแบงก์โลก เหมือน WTO มันคือ "องค์การเครือข่าย" ใต้อาณัติองค์การ Council on Foreign Relations อันรู้จักกันในชื่อย่อ CFR
    ผู้ที่จะรวมประชาคมโลกเป็น New World Order
    "อำนาจเดียวครองโลก-รัฐบาลโลก" นั่นแหละ! 
    เป็นที่รับรู้ "ด้วยใจขมขื่น" ตลอดมาว่า ศาลโลก คือธุรกิจกฎหมายที่จักรวรรดินิยมทุนใช้เป็นเครื่องมือล่าอาณานิคมและแสวงหาผลประโยชน์แฝงเร้นตามพื้นที่เป้าหมาย ผ่านเข้าไปในคำพิพากษา
    ดังนั้น ในภาวะโลกสู่ยุคขาดแคลน-แย่งชิง "พลังงาน" ใครคุมพลังงาน คนนั้น "คุมโลก"
    แหล่งพลังงานในโลก ถูกล่า-ถูกขุดขึ้นมาใช้เกือบหมดแล้ว เหลืออยู่แต่ที่อ่าวไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ "เขตทับซ้อน" ไทย-เขมรเท่านั้น เป็นที่รู้กันในวงการนักล่า-นักสำรวจมานานกว่า ๔๐-๕๐ ปีแล้วว่า
    ก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน "ชั้นดี"
    มหาศาล "ที่ซ่อนอยู่ใต้ดินดาล" อ่าวไทย!
    ฝรั่งเศสผู้เป็นเจ้าเข้าครองเขมรรู้ดี สหรัฐผู้เป็นเจ้าโลกก็รู้ดี ค่อนศตวรรษที่สงครามฆ่าชิงนัวเนียในภูมิภาคนี้ ก็เพราะลึกๆ "แย่งกัน" ไม่ลงตัว ก็ต้องใช้สงครามเพื่อกีดกัน
    ผมเอง เมื่อร่วม ๔๐ ปี ซึ่งไทย-เขมรก็หมางเรื่องอ่าวไทยอยู่แล้ว ยังเคยถูกฝากคำถามเรื่องไหล่ทวีปไปถามรัฐมนตรีต่างประเทศเขมรขณะนั้น ที่พนมเปญ ดูเหมือนจะชื่อ "นายลอง โบเรต"
    ก็เพิ่งมาถึง "บางอ้อ" ก่อนถึง "บางปู" ด้วยมานอนนึกๆ ไม่นานนี้แหละว่า ศึกชิงแหล่งน้ำมันตรงนี้ มันยื้อยุดอุตลุดแย่งมานานแล้ว กระทั่งทักษิณเอง ตอนเป็นนายกฯ เคยคุยให้ผมฟังเรื่องการขุดเจาะตรงนี้
    ก็ไม่อยากเล่าลึก เพราะทักษิณ "เล่าลึกกว่า" ว่าที่เกือบจะ..เกือบจะ..แต่ยังไม่สะเด็ดน้ำกับฮุน เซน ซักที ด้วยสาเหตุใด ทั้งที่ทักษิณบอกผมว่า ด้วยสูตรนี้..ขณะนี้ ลงตัวแล้ว
    คงด้วย เจ้าฟ้า-มหาสมุทร มีจริงนั่นแหละ สูตรที่ว่า "ลงตัว" แล้วนั้น ยังไม่ทันได้เซ็น ก็กระเด็นไปด้วยปฏิวัติ จากนายพลเส็งเคร็งซะก่อน!
    และ "พระสยามเทวาธิราช" ก็มีจริง เมื่อ (๔ พ.ย.๕๖) ที่รัฐสภาแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๙๐ ตัดสาระสำคัญทิ้งไป     
    ๑.หนังสือสัญญาที่มีบทเปลี่ยนแปลงเขตพื้นที่นอกอาณาเขตซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย หรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ
    ๒.หนังสือสัญญาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง  
    ๓.หนังสือสัญญาที่มีผลผูกพันด้านการค้าการลงทุน หรืองบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
    นั่นหมายถึงว่า ถ้าประกาศใช้ตามนี้ ต่อไปนี้หนังสือสัญญาทั้งสามประเภท ไม่ต้องเข้ารัฐสภา ครม.ไม่ต้องให้ข้อมูล และไม่ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นประชาชน 
    ทั้งรัฐบาลไม่ต้องชี้แจงรัฐสภา ไม่ต้องเสนอกรอบการเจรจากับรัฐสภา และทั้งก่อนลงนามในหนังสือสัญญา รัฐบาลไม่จำเป็นต้องบอกรายละเอียดใดๆ กับประชาชน
    ประเทศไทยกลายเป็น "สาธารณรัฐทักษิณ" อย่างที่นักข่าวบลูมเบิร์กเขาเขียนแดกไปในบัดดล!
    แต่ก็ด้วยพระสยามเทวาธิราชมีจริงนั่นแหละ นายวิรัติ กัลยาศิริ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ไปยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๖๘ ว่าเป็นการแก้ไขที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
    และศาลพิจารณาแล้วด้วยเสียง ๖:๓ ว่ากรณีมีมูล รับคำร้องไว้ตีความ เมื่อ ๘ พ.ย.๕๖ หมายความว่า ใบเตยที่กำลังจะเข้าปากแม้ว ถูกดึงออกมากระแด่วๆ ชนิด...
    เสียวสะดือ!
    ๔ พ.ย. รัฐบาลระบอบทักษิณแก้มาตรา ๑๙๐ รอท่า ๑๑ พ.ย. ศาลโลกตีความคำพิพากษาเดิมออกมาเป็นคำพิพากษาใหม่ว่า "พื้นที่เล็กๆ ของพื้นที่" ตรงเขาชะโงกปราสาทพระวิหารเป็นของเขมร 
    ทหารไทยต้องถอยไป!?
    แต่ทั้งหลาย-ทั้งปวง ศาลโลกบอกว่า...ขณะนี้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว ปราสาทพระวิหาร รวมถึง "เจ้าพื้นที่เล็กๆ ของพื้นที่" ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลก 
    กัมพูชาและไทยจะต้องคุยกันเอง หารือกันเองภายในประเทศ โดยที่ยูเนสโกจะต้องควบคุมและดูแล ในฐานะที่เป็นมรดกโลก!
    เมื่อเป็นเช่นนี้ ใช้สติเข้ารับปัญหา พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสเสียว่า ไอ้ "พื้นที่เล็กๆ" นั่นน่ะ เขมรก็ไม่ได้ ไทยก็ไม่ได้ 
    เพราะมันเป็นทองในเรือ แล้วเรือนั้นก็ "ล่มในหนองไทย-เขมร" ทองมันก็ไม่ได้ไปเป็นของใคร และไม่ได้ไปทางไหน มันอยู่ในหนองเจ้าของร่วมกัน บนความเป็น "มรดกโลก" ที่ต้องให้ยูเนสโกประกาศใหม่ให้ชัดว่า
    "ด้วยคำพิพากษาศาลโลก ปราสาทพระวิหารแห่งนี้ ไทย-กัมพูชา ได้นำขึ้นทะเบียนเป็น "มรดกโลก" ร่วมกัน"!
    แต่ภูมะเขือก็ดี พื้นที่ ๔.๖ ตารางกิโลเมตรก็ดี ไม่เกี่ยว จากคำพิพากษานี้ เป็นพื้นที่ของประเทศไทยสมบูรณ์!
    ในขั้นต้น ก่อนมีบทปฏิบัติการในเรื่องที่ยากแก้ไขแล้ว เพราะศาลโลกตัดสินแล้ว ก็มีแนวนี้แหละที่ "สังคมชาติ" พอจะได้ประโยชน์ 
    แต่ลึกลงไปในซอกหัวใจยิ่งลักษณ์-ทักษิณ จากคำพิพากษา โปรโมตให้ ๒ ประเทศจูบปากพันลิ้นกันนี้ เท่ากับเชื่อมเทอร์มินอลวัน แก้รัฐธรรมนูญ ม.๑๙๐ เข้ากับเทอร์มินอลทู  
    เปิดประตูให้รัฐบาลระบอบทักษิณเซ็นสัญญากับรัฐบาลระบอบฮุน เซน ด้วยมาตรา ๑๙๐ ที่แก้แล้วชนิด....."กูไม่ต้องบอกใคร"
    ให้ "เชฟรอน" ที่ได้สัมปทานไปนานแล้ว ลงมือขุด "น้ำมัน-ก๊าซ" ในอ่าวไทยได้เลย 
    ยกโคตร-ยกตระกูล รวยกันตายไปเลย!
    ทำไมผมจึงตามรอย ๑๙๐ มาบรรจบคำพิพากษา ๑๑/๑๑/๑๓ แบบนี้ เหตุผลหนึ่งง่ายๆ เพราะโฆษณาเชฟรอนเต็ม ๒ หน้าในสื่อหนังสือพิมพ์เครือข่ายระบอบทักษิณหลายวันซ้อน
     สะดุดตาตรงที่ว่า เป็นโฆษณาแบบไร้สาเหตุ ไม่ประสงค์ผลทางการขายสินค้า แต่บ่งเจตนา...เก็บอาการไม่อยู่ เริงร่า และซื้อใจสมนาคุณ!
    ด้วยเหตุบนเงื่อนงำดังกล่าว เพื่อเป็นการ "ตัดก่อนตาย-ปลอดภัยก่อนวอด" ต้องกำจัดยิ่งลักษณ์ "ร่างทรงทักษิณ" ออกไป เพราะนางคือรัฐมนตรีกลาโหม 
    มีอำนาจ "สั่งทหาร"
    ซึ่งปฏิบัติการ "ทหาร" เท่านั้น เป็นตัวชี้ขาดว่า คำพิพากษาศาลโลก "ไทยเหนือกว่า" หรือว่า จากคำพิพากษา จะทำให้...ใครเหนือ?.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น