| พ่วงบรรทุกปุ๋ยหลุดพลิกคว่ำทับเก๋ง ผจก.หนุ่ม-เพื่อนสาวชะตาขาดดับสยองทั้งคู่ |
| |
 |
|
เมื่อเวลา 20.50 น.วันที่ 12 พ.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พ.ต.ท.บัญชา คงมั่น สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี
ได้รับแจ้งเกิดเหตุส่วนท้ายของพ่วงรถบรรทุกปุ๋ยอินทรีย์ หลุดทับรถเก๋งตกลงไปในคลองข้างทางถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว หน้าบริษัทเจวีเอจำกัด หมู่ 4 ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบท้ายพ่วงรถบรรทุกปุ๋ยอินทรีย์ หมายเลขทะเบียน 82-6167 ขอนแก่น พลิกคว่ำลงในคูคลองข้างทาง
โดยทับรถเก๋งมิตซูบิชิ สีแดง หมายเลขทะเบียน 2182 กรุงเทพมหานคร โดยมีถุงปุ๋ยกองทับมิดทั้งคัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันรื้อกองปุ๋ยออกยกรถขึ้นมา ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง พบผู้เสียชีวิตเป็นชายหนึ่งรายทราบชื่อนายพิศาล ป่าไลย์ อายุ 39 ปี ทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัทไทยสแตนเลย์การไฟฟ้าจำกัด (มหาชน) เสียชีวิต และพบศพเพื่อนสาวทราบชื่อนางสาวปวีณา พูลสวัสดิ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/8 หมู่ 2 ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ออฟฟิศที่เดียวกันเสียชีวิตทั้งคู่
จาการสอบสวนทราบว่า ผู้ขับขี่รถบรรทุกปุ๋ยที่เกิดเหตุ ชื่อนายศรีสมรักษ์ วังหล้า อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112/14 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองได้ขับรถบรรทุกปุ๋ยคันดังกล่าวจากกาญจนบุรีเพื่อไปส่งปุ๋ยที่จังหวัดอำนาจเจริญ แต่รถเกิดมีปัญหาที่สลักเชื่อมต่อรถพ่วงได้จอดเพื่อซ่อมแซมที่ร้านใกล้แยกนพวงศ์ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 4-5 กม. จนมาถึงจุดเกิดเหตุได้แซงรถเก๋งคันดังกล่าวแล้วพ่วงท้ายเกิดหลุดไปฟาดกับรถเก๋งลากตกข้างทางไปด้วยกัน ก่อนที่ตนเองจะจอดรถลงไปดูโดยไม่เห็นคนขับรถเก๋งเลย
พ.ต.ท.บัญชา เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นญาติของนางสาวปวีณา หนึ่งในผู้เสียชีวิต
ทราบว่านางสาวปวีณาได้เดินทางกลับบ้านพัก โดยมีเพื่อนหนุ่มที่เสียชีวิตขับรถมาส่งเป็นประจำหลังเลิกงาน ซึ่งบ้านพักอยู่ใกล้กับจุดที่เกิดเหตุห่างกันไม่มากนัก แต่มาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน จึงได้มอบศพให้ญาติรับดำเนินการตามประเพณีต่อไป ส่วนผู้ขับขี่รถบรรทุกปุ๋ยคันที่เกิดเหตุได้ควบคุมตัวเพื่อตรวจสอบแอลกอฮอล์พร้อมแจ้งข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป |
|
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น