วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อีกหนึ่ง...ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยวันอังคาร ที่ 12 พฤศจิกายน 2556

วันอังคาร ที่ 12 พฤศจิกายน 2556

“ผมไปชุมนุมครั้งนี้ด้วยใจ...โดยไม่ต้องมีใครจ้าง”...และประชาชนที่ไป คือประชาชนที่...ใจถึงใจ ...เป็นประชาชนคนไทย ที่มีหัวอกเดียวกัน คือออกไปเรียกร้องหาความยุติธรรม ความถูกต้อง ชอบธรรม ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย...ผมไม่อยากเห็นลูก เห็นหลาน...ในภายภาคหน้าต้องตกเป็นทาสของนักการเมือง ที่เห็นประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ของชาติ และ ประชาชนคนไทย...
ผมมองการเมืองไทย ตั้งแต่เด็กจนโต  เฝ้ามอง... เฝ้ารอ รัฐบาล หลายรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศ  รอว่าจะมีรัฐบาลไหนจัดสรร สวัสดิการ ให้คนไทยกินดีอยู่ดี การศึกษาเยี่ยม ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า ...เปลี่ยนจากประเทศที่ได้ชื่อว่ากำลังพัฒนานำไปสู่ ประเทศที่พัฒนาแล้ว... แต่ความหวังที่จะได้เห็นนักการเมืองไทยทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชน อย่างจริงจังช่างริบหรี่ ...เพราะเท่าที่ผ่านมา ท่าน ส.ส. ที่ได้รับเลือกเข้าไปเป็นตัวแทนของปวงชนในสภา (บางคน) เมื่อได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี  ก็หาช่องทางที่จะโกงกินงบประมาณของประเทศซึ่งเป็นเงินภาษี ของประชาชนคนไทยทุกคน ที่ยินยอมจ่ายเพื่อให้นำไปใช้ในการพัฒนาในทุกๆด้าน เพื่อประชาชนคนไทยจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ...จนนำมาถึงการกล่าวอ้างในการทำรัฐประหาร ครั้งแล้วครั้งเล่า
ตลอดระยะทาง ของการเฝ้ามองการเมืองของผม ก็ได้มีบุคคลหนึ่ง ตั้งพรรคหนึ่งขึ้นมา มีแนวคิด นโยบายที่โดนใจ ไม่เฉพาะแต่เพียงผมเท่านั้น แต่โดนใจประชาชน ค่อนประเทศ โดยมีแนวทาง..."คิดใหม่...ทำใหม่" แต่บุคคลผู้ที่ประชาชนฝากความหวังช่วยกันเลือกตั้งเข้ามาบริหารไม่เท่าไหร่...ก็โดนคดีซุกหุ้น และอีกหลากหลายคดี ที่ตามมา ...อีกหลายเรื่องราว ของการฉ้อฉล โกงกิน...พลิกแพลง แยบยล จนทำให้คนไทยที่รักความสงบ แตกความสามัคคี...จนมาถึงทุกวันนี้
เมื่อวาน เป็นวันที่มวลมหาประชาชนพากัน ...ออกมาต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ...พ.ร.บ. ล้างผิดคนโกง ล้างผิดคนสั่งฆ่าประชาชน จากหลายๆเหตุการณ์ ต่อเนื่องกันมา ถนนทุกสายที่ประชาชนออกมาต่อสู้ เพื่อความถูกต้อง ยุติธรรม... สงบ อหิงสา ปราศจากอาวุธ ประชาชนหลั่งไหลดุจสายน้ำ มารวมตัวกัน ยัง ถนนราชดำเนิน...ถนนแห่งการต่อสู้ ของวีรชน เมื่อครั้งอดีต

มวลมหาประชาชน ไปกันด้วย ใจ...เพราะมีความรู้สึกอัดอั้น กับรัฐบาลนี้ ...ตะกูลนี้ จริงๆ...ไม่ได้ไปเพราะโดนหลอกให้ไปเหมือนประชาชน บางกลุ่ม...เวลาแค่เที่ยงกว่าๆ ผู้คน ก็เนืองแน่น ถนนราชดำเนิน กันแล้ว... ประชาชนที่ไปยิ้มแย้มแจ่ม มีน้ำแบ่งน้ำ มีข้าวแบ่งข้าว...มีขนมแบ่งขนม มีที่นั่งแบ่งที่นั่ง ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกัน...หนุ่มสาว ชาวเมืองกรุง ยื่นร่ม ให้ผู้เฒ่า ผู้แก่ ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด...เมื่อแดดร้อน

ทั้งข้าว...ทั้งน้ำ ที่มีผู้นำไปบริจาค ถูกส่งต่อๆ กันไปแจกจ่าย ให้ประชาชน (หนึ่งหมื่นสองแสนคน)...คนที่อิ่มแล้ว ก็ส่งให้คนไม่ได้กินที่เดินทางมาใหม่ ไม่มีเก็บกักตุน...ผมเห็นภาพ ผู้คนที่แออัดยัดเยียด ที่นั่งอยู่แถวหน้าเวที อนุญาต ให้ เดินผ่าน เดินข้ามด้วยรอยยิ้ม ไม่นึกบ่น ไม่ด่า...เพราะทุกคนมาเพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือต้องการความยุติธรรม ความถูกต้อง เกิดขึ้นในแผ่นดินไทย 

เสียงโห่ร้อง เสียงเป่านกหวีด ต้อนรับ เมื่อมีประชาชนเดินเท้าเข้ามายังที่ชุมนุมเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ...การปราศรัยให้ข้อมูลแก่ประชาชน สลับกับการแสดงดนตรีของศิลปิน ทำให้การชุมนุมคึกคัก คึกครื้น
ภาพกร์าดอาสา ในที่ชุมนุม ยิ้มแย้ม...ไม่บึ่งตึง คอยบริการ พูดจาสุภาพ กับมวลชน เป็นที่ประทับใจกับหลายๆคน ที่ไปชุมนุม

แกนนำเสื้อแดง บอกว่า คนที่ไปชุมนุม รับเงินคนละ 500 บาท ผมเดินทางไปจากพัทยา ค่ารถตู้ ค่ารถเมล์...ค่ามอเตอร์ไซด์ เข้าไปสู่ที่ชุมนุม ก็จะ 500 บาท อยู่แล้ว ไหนจะต้องเสียโอกาส ในการทำมาค้าขายอีก ผมว่า 500 บาทคงไม่พอ เพราะม๊อบ ที่ราชดำเนิน ไม่ใช่ม๊อบ ยาดอง เหมือนที่แกนนำเสื้อแดงเห็นมาจนชินตา...ผมเห็นร้านอาหาร ไฮโซ ที่ตั้งอยู่ในระแวกนั้น แน่นขนัดไปด้วยประชาชน ที่เข้าไปใช้บริการ...ที่ต่อคิวรอก็ยาวเหยียด

 แล้วเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง ...มวลมหาประชาชน ส่งเสียงร้องกึกก้อง พิพากษา  ว่าไม่เอา นิรโทษกรรม ที่ยังไม่ตายไปจากสภา แล้วลงความเห็นที่จะชุมนุมกันต่อ จนกว่าจะได้รับชัยชนะ จนถึงที่สุด แกนนำ นาย สุเทพ เทือกสุบรรณประกาศลาออก จากการเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย ส.ส. ในพรรคอีก 8 ท่าน...เดินหน้าสู้กับประชาชน อย่างถึงที่สุด
และได้ประกาศเชิญชวนประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศร่วมกันกระทำอารยะขัดขืนอย่างเข้มแข็ง...ดังนี้
"เราจะยึดถนนราชดำเนินเป็นชัยภูมิในการต่อสู้จนกว่าเราจะชนะ โดยไม่ใช้กำลังและปราศจากอาวุธ มติกรรมการแกนนำ ขอให้ทุกเครือข่ายได้ปฏิบัติให้สอดคล้องโดยจะยกระดับการต่อสู้ แบบคนดี ผู้มีอารยะ โดยการเชิญชวนกระทำอารยะขัดขืนอย่างเข้มแข็งทั่วประเทศ

1. วันที่ 12 พ.ย. ให้ทุกคนทุกบริษัท ทุกหน่วยงานราชการ สะสางงานของตัวเอง 1วัน จากนั้น วันที่ 13 -15 พ.ย. เป็นวันหยุดงาน หยุดการเรียนการสอน ทั่วประเทศ ขอความร่วมมือเจ้าของกิจการโปรดสั่งพนักงานของท่านให้หยุดงานและมาร่วมชุมนุมกับเราทั่วประเทศ ไปเวทีไหนก็ได้ หน่วยงานไหนบริษัทเอกชนไหน จำเป็นจริงหยุดงานไม่ได้ให้ชะลอความรวดเร็วในการทำงานลง สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยทุกแห่งให้อาจารย์และนักศึกษาไปให้ขึ้นป้ายได้ว่า 13-15 หยุดเรียน หยุดสอน โรงเรียนทุกแห่งทั้งมัธยม ประถม อนุบาล หยุดเรียนหยุดสอนทั่วประเทศ

2.ขอให้บรรดาพ่อค้านักธุรกิจช่วยกรุณาไปปรึกษากันว่าวิธีปฏิบัติในการชะลอการชำระภาษี อย่าให้รัฐบาลมีเงินภาษีออกมาใช้ หยุดให้มันเขาเอาเงินภาษีของเราไปโกงกิน

3.ต่อสู้ด้วยสัญญาลักษณ์ สัญญาลักษณ์ของเราคนไทยคือธงชาติ ขอให้ทุกบ้าน ทุกสำนักงาน ชักธงชาติขึ้นทั่วประเทศ ติดธงชาติไว้บนเสื้อผ้า ร่างกาย รถยนต์ แขวนคอด้วยนกหวีด ไปไหนมาไหนพกไป 2 อย่างคือนกหวีดและธงชาติ

4.ตั้งแต่นาทีนี้ ถ้าประชาชนพบเห็นนายกฯ รองนายกฯ รัฐมนตรี และ ขี้ช้าลิ่วล้อไม่ต้องพูดกับมัน ไม่ต้องทำอะไร หยิบเป่านกหวีดอย่างเดียว เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราไม่เอากับมัน!

ขอให้ทุกฝ่ายได้เข้าใจว่านี่คือการกระทำอารยะขัดขืนของพลเมืองดี เพื่อประวัติศาสตร์จะได้จารึก"

ประเทศไทยต้องเดินหน้า ปฎิรูปกันใหม่...ในหลายๆด้าน เพื่อความ ถูกต้อง ยุติธรรม กินดี อยู่ดี ฯลฯ ของประชาชนในชาติ...คำตอบอยู่ที่ มวลมหาประชาชน คนไทย เท่านั้น ที่ตัดสินใจ ว่าจะเลือกอยู่แบบไหน ระหว่าง อยู่เป็นทาสนักการเมือง ตลอดไป ...หรือ เป็นนายนักการเมืองกันสักที...อยู่ที่พวกเราทุกคนเท่านั้น ว่าจะเอาอย่างไร

รักเธอประเทศไทย - หรั่ง ร็อกเคสตร้า  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น