"วรเจตน์"ชี้พลังต้านกม.นิรโทษ ปชป.ไม่มากพอให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ หัวหน้าภาควิชากฎหมายมหาชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์รายการ เจาะข่าวเด่นกับสรยุทธ โดยพูดถึงกรณีร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ผ่านวาระ 3 แล้วว่า ตกใจที่พรรคเพื่อไทยเร่งผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยรวดเร็วกว่าที่คิด คือ จบภายในวันเดียว
ทั้งนี้ เห็นว่า รัฐบาลมองว่า ต่อให้เสื้อแดงที่ไม่เห็นด้วยก็ไม่มีทางมาร่วมชุมนุมกับพรรคประชาธิปัตย์อาจทำให้พลังไม่มากพอ ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งรัฐบาลเองสามารถแจกแจงได้ว่ากระบวนการที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในนิติบัญญัติ มิใช่ฝ่ายบริหาร จึงสามารถลอยตัวได้
นอกจากนี้มองว่า รัฐบาลมั่นใจว่าคุมสถานการณ์อยู่ เพราะทหารก็รักษาบทบาทตัวเอง ส่วนการประเมินผู้ชุมนุมอาจยังไม่มากพอ
นายวรเจตน์ ให้ความเห็นว่า มีข้อตกลงเกิดขึ้นจากหลายฝ่ายที่ได้รับประโยชน์จาก มาตรา 3 ซึ่งมองว่ามีการคุยกัน แต่จะตกลงขนาดไหนไม่ทราบ
เขากล่าวย้ำประเด็นเรื่องการปรับเปลี่ยนในชั้นกมธ.ที่ขัดกับหลักการที่ส.ส.ให้ผ่านไปในวาระแรก ซึ่งการปรับมาตรา 3 ก็มิได้สอดคล้องกับ ชื่อ พ.ร.บ. ซึ่งขัดกับหลักการ
อย่างไรก็ตามการแก้ไขร่างกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย สามารถปฏิบัติได้จริงในวุฒิสภา แต่จะทำหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ต้องยอมรับว่า วุฒิสภาก็มีหลายกลุ่มก้อน สำหรับส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ที่รอชงเรื่องอยู่คือ ศาลรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ ประเมินว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ยื่นศาลรัฐธรรมนูญอาจยื่นในประเด็นขัดหลักการรัฐธรรมนูญมาตรา 309 แต่ตนมองว่าไม่น่าเกี่ยวกันในแง่หลักการ แต่ในประเด็นเกี่ยวกับความเสมอภาคของกฎหมายเรื่องความเท่าเทียมในประเด็นนิรโทษทุกคนคาดว่าจะไม่ยื่น เพราะเกี่ยวข้องกับมาตรา 112
ทั้งนี้ เห็นว่า รัฐบาลมองว่า ต่อให้เสื้อแดงที่ไม่เห็นด้วยก็ไม่มีทางมาร่วมชุมนุมกับพรรคประชาธิปัตย์อาจทำให้พลังไม่มากพอ ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งรัฐบาลเองสามารถแจกแจงได้ว่ากระบวนการที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในนิติบัญญัติ มิใช่ฝ่ายบริหาร จึงสามารถลอยตัวได้
นอกจากนี้มองว่า รัฐบาลมั่นใจว่าคุมสถานการณ์อยู่ เพราะทหารก็รักษาบทบาทตัวเอง ส่วนการประเมินผู้ชุมนุมอาจยังไม่มากพอ
นายวรเจตน์ ให้ความเห็นว่า มีข้อตกลงเกิดขึ้นจากหลายฝ่ายที่ได้รับประโยชน์จาก มาตรา 3 ซึ่งมองว่ามีการคุยกัน แต่จะตกลงขนาดไหนไม่ทราบ
เขากล่าวย้ำประเด็นเรื่องการปรับเปลี่ยนในชั้นกมธ.ที่ขัดกับหลักการที่ส.ส.ให้ผ่านไปในวาระแรก ซึ่งการปรับมาตรา 3 ก็มิได้สอดคล้องกับ ชื่อ พ.ร.บ. ซึ่งขัดกับหลักการ
อย่างไรก็ตามการแก้ไขร่างกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย สามารถปฏิบัติได้จริงในวุฒิสภา แต่จะทำหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ต้องยอมรับว่า วุฒิสภาก็มีหลายกลุ่มก้อน สำหรับส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ที่รอชงเรื่องอยู่คือ ศาลรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ ประเมินว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ยื่นศาลรัฐธรรมนูญอาจยื่นในประเด็นขัดหลักการรัฐธรรมนูญมาตรา 309 แต่ตนมองว่าไม่น่าเกี่ยวกันในแง่หลักการ แต่ในประเด็นเกี่ยวกับความเสมอภาคของกฎหมายเรื่องความเท่าเทียมในประเด็นนิรโทษทุกคนคาดว่าจะไม่ยื่น เพราะเกี่ยวข้องกับมาตรา 112
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น