|
|
ผ่าประเด็นร้อน
รู้สึกชอบใจกับคำพูดของตัวแทนญาติของคนเสื้อแดงที่สูญเสียจากเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อปี 2553 ทั้งที่ออกมาจากปากของ พะเยาว์ อัคฮาด และ พันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ ที่ย้ำให้สังคมโดยเฉพาะคนเสื้อแดงด้วยกันให้เห็นว่า การเพิ่มเติมข้อความในร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมให้ครอบคลุมช่วยเหลือ “ทักษิณ ชินวัตร” ให้พ้นผิด รวมไปถึงแกนนำคนอื่นๆ และที่สำคัญในความหมายของพวกเขา “ฆาตกร” ซึ่งก็มีทั้งอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สุเทพ เทือกสุบรรณ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารในระดับสั่งการจะพ้นผิดไปด้วย เป็นการพิสูจน์ธาตุแท้ให้เห็นชัดเจนมาตลอดเวลา 3 ปีเต็ม และยังกล่าวให้ความหมายว่า ทักษิณได้เอาตัวรอด โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึก และความเดือดร้อนของคนอื่น หรือจากคำพูดเคยกล่าวว่า “คนเสื้อแดงได้มาส่งถึงฝั่งแล้ว ต่อไปจะเดินไปเอง” พร้อมทั้งชี้ให้เห็นหากผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ก็ไม่ต่างจากการ “ยิงซ้ำคนตาย” อีกครั้งนั่นเอง ซึ่งก็ถือว่าเป็นคำเปรียบเปรยที่ถูกต้องเห็นภาพเป็นอย่างยิ่ง
ความรู้สึกดังกล่าวที่ออกมาจากบรรดาญาติของคนเสื้อแดงที่เคยต่อสู้ให้ ทักษิณ และครอบครัวทักษิณ มีอำนาจอยู่ในเวลานี้ถือว่าน่าสนใจ และน่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง เพราะนี่คือการตอกย้ำให้เห็นถึงความเข้าใจใหม่ของคนที่เคยร่วมอยู่ในเหตุการณ์ และผ่านกาาปลุกระดมจาก ทักษิณ ชินวัตร ให้เขื่อว่าเขาถูกกลั่นแกล้ง และเขาเป็นตัวแทนของประชาธิปไตย ที่ต้องช่วยกันต่อสู้เพื่อให้ได้มันมา ทำทุกทางแม้กระทั่งต้องแลกมาด้วยด้วยชีวิต เลือดเนื้อ เพื่อที่จะได้ “ไม่ต้องกลับบ้านมือเปล่า” แต่ในความหมายความเข้าใจในวันนี้ของญาติคนเสื้อแดงที่สูญเสียกลับมองว่านี่ไม่ต่างการ “ยิงซ้ำ” นั่นเอง
ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หากร่างกฎหมายนิรโทษกรรมแบบ “เลยซอย” ที่ว่าผ่านสภาเมื่อไหร่ คนที่ไม่กลับบ้านมือเปล่าก็คือ ทักษิณ ชินวัตร เพราะนอกจากจะพ้นจากความผิดทุกคดี และยุติทุกคดีที่ยังค้างคาในศาล สามารถกลับบ้านอย่างเท่ นั่นคือกลับมาสู่อำนาจทางการเมืองอย่างเปิดเผย และที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันก็คือ เขาสามารถไปร้องศาลขอคืนทรัพย์สินที่ถูกศาลสั่งยึดทรัพย์จากการ “ทุจริต” อีก 4.6 หมื่นล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย รวมแล้วก็คงเกิน 5 หมื่นล้านบาท
เป็นคำพูดยืนยันของบรรดากรรมาธิการที่เป็นลิ่วล้อรับงานโดยตรง ยอมรับว่าในร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวมีผลให้ ทักษิณ พ้นจากความผิด พร้อมทั้งเปิดทางให้ไปร้องศาลขอคืนทรัพย์สินที่ถูกยึดไปในภายหลังได้ และก็คงไม่มีปัญหา เพราะในเมื่อมีคำว่า “เสมือนไม่เคยทำความผิด” เมื่อไม่เคยทำความผิดก็ไม่ต้องยึดทรัพย์ต้องคืนเงินพร้อมดอกเบี้ย มันชัดยิ่งกว่าชัด ว่านี่แหละคือเป้าหมายที่แท้จริงที่จงใจซ่อนเอาไว้ตั้งแต่ต้น และใช้พวกหัวโจกเสื้อแดง ที่ได้ประโยชน์จากอำนาจในระบอบทักษิณ เล่นละครตบตาให้ช่วยกันเสนอร่างกฎหมายที่ให้นิรโทษกรรมเฉพาะพวกคนเสื้อแดงระดับชาวบ้านรากหญ้าเท่านั้น เหตุผลก็เพื่อลดแรงต้านจากสังคม โดยให้ไปคาอยู่ในสภาเอาไว้ก่อน เมื่อสังคมเผลอ ก็ค่อยดันมาให้เลยซอยอย่างที่เห็น
อย่างไรก็ดี สิ่งน่าสังเกตก็คือ งานนี้เชื่อว่าบรรดาคนเสื้อแดงทั้งหลายคงได้เห็นธาตุแท้ของทั้ง ทักษิณ รัฐบาลหุ่นเชิดในครอบครัวที่นำโดยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมไปถึงแกนนำคนเสื้อแดง ที่กำลังตั้งตารอรับอานิสงฆ์ จากการแก้ไขร่างกฎหมายนิรโทษกรรม และที่น่าสมเพชกับมุกตลกของบรรดาแกนนำที่ประกาศว่าไม่ขอรับ “ประโยชน์” จากร่างกฎหมาย ก็เป็นเพียงคำพูดเอาเท่หลอกต้มคนเสื้อแดงไปเรื่อยๆ เพราะในความเป็นจริงมันย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะแม้จะประกาศไม่ยอมรับแต่เมื่อกฎหมายยกเว้นความผิดให้ มันก็ไม่ต้องรับโทษ ไม่ต้องถูกดำเนินคดีไปโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว ซึ่งฟังดูแล้วก็ยิ่งน่าสมเพชทั้งคนพูดและคนที่เชื่อคนพวกนี้
อย่างไรก็ดี อีกด้าหนึ่งเราก็ได้เห็นความเคลื่อนไหวของพลังมวลชนที่เป็น “ปรากฏการณ์ใหม่” ที่ถือว่าเข้มข้นมากกว่าเดิมอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในรอบ 3 ปี เกิดการรวมพลังต่อต้าน “ระบอบทักษิณ” มากขึ้น เป็นลักษณะของ “คนหน้าใหม่” เกิดกลุ่มใหม่หลากหลายมากขึ้น โดยคนพวกนี้เกิดขึ้นพร้อมกับความล้มเหลว ได้เห็นการทุจริต การเอาเปรียบคดโกงของรัฐบาลมากขึ้นทุกวัน เพราะทุกอย่างล้วนตรงข้ามกับคำพูดที่เคยโม้เอาไว้ก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง
ขณะเดียวกัน สิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมีต้นตอมาจาก ทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียว เกิดจากความโลภ ความเห็นแก่ตัวของเขา แต่อีกด้านหนึ่งการที่เขาสามารถทำได้ทุกอย่างตามอำเภอใจแบบนี้ได้ ส่วนสำคัญที่สุดเป็นเพราะความ “ไม่รู้เท่าทัน” หลงใหลเสพติดอยู่กับนโยบายประชานิยมที่ใช้งบประมาณรัฐมาแจกจนเสพติด แต่ขณะเดียวกันสิ่งดังกล่าวล้วนได้ผลแค่เฉพาะหน้าชั่วคราวเท่านั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็จะเกิดกระทบ เกิดผลเสียตามมา และในเวลากำลังส่งผลเสียสะทือนกลับมาในทุกด้าน และจากความล้มเหลวดังกล่าวทำให้เกิดความเดือดร้อนไปทั่วแผ่นดิน จากปัญหาของแพง ผลผลิตทางการเกษตรราคาตกต่ำ หนี้สิน ขณะที่คนในรัฐบาลและครอบครัวของ ทักษิณ ชินวัตร มีแต่ได้ประโยชน์ อย่าได้แปลกใจที่กำลังเกิดการเคลื่อนไหวต่อต้านมากขึ้นทุกวัน และหาก ทักษิณ ไม่ถอย ยังตั้งใจเดินกร่างเลยซอยอยู่แบบนี้แน่นอนว่าต้องเกิดหายนะแน่!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น