จากเหตุการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศและความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยต่างได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก การแก้ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาลก็ยังคงเป็นเรื่องที่ประชาชนยังคาดหวังและอยากให้แก้ปัญหาได้สำเร็จในเร็ววัน เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน “สวนดุสิตโพล” เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาลก็ยังคงเป็นเรื่องที่ประชาชนยังคาดหวังและอยากให้แก้ปัญหาได้สำเร็จในเร็ววัน โดยสอบถามความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,454 คน ระหว่างวันที่ 29 กันยายน - 3 ตุลาคม 2556 สรุปผลดังนี้
ประชาชนคิดอย่างไร กับ "สถานการณ์น้ำท่วม" ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ร้อยละ 32.39 เป็นปัญหาที่มีมานานโดยเฉพาะช่วงหน้าฝน รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาให้ดีขึ้นได้ ร้อยละ 28.61 รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีมาตรการป้องกันที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ร้อยละ 22.01 รู้สึกสงสารและเห็นใจผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน บ้านเรือน ไร่นา ที่ทำกินต้องเสียหาย ร้อยละ 10.69 มีความวิตกกังวล กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เหมือนที่ผ่านมา ร้อยละ 06.30 เป็นภัยธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แต่อีกส่วนหนึ่งก็เกิดจากฝีมือมนุษย์ที่ตัดไม้ทำลายป่า
จาก "สถานการณ์น้ำท่วม" ประชาชนคิดว่าใครหรือหน่วยงานใด ที่ควรเข้ามาช่วยเหลือ ร้อยละ 52.11 ฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ร้อยละ 16.58 หน่วยงานต่างๆของรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข คมนาคม ทหาร ตำรวจ ร้อยละ 11.84 ประชาชนทุกคนโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำท่วม ร้อยละ 10.79 หน่วยงานเอกชน ภาคธุรกิจ สถานประกอบการ ร้อยละ 08.68 ผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานในท้องถิ่น เทศบาล อบต. อบจ.
จาก "สถานการณ์น้ำท่วม"ในช่วงนี้ ทำให้ประชาชนวิตกกังวล กลัวว่าจะกลายเป็นน้ำท่วมใหญ่ เหมือนปี 2554 ที่ผ่านมาหรือไม่ ร้อยละ 64.95 วิตกกังวลกลัวน้ำจะท่วมใหญ่ เพราะ จากข่าวต่างๆที่นำเสนอจะเห็นได้ว่ามีหลายจังหวัดที่เคยถูกน้ำท่วมก็กำลังประสบหาอย่างหนัก ในขณะนี้ อีกทั้งในช่วงนี้ยังมีฝนตกหนักอยู่ทั่วประเทศ ระดับน้ำในแม่น้ำ ลำคลองน่าเป็นห่วง ฯลฯ ร้อยละ 35.05 ไม่วิตกกังวล เพราะ เคยมีบทเรียนจากน้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา ภาครัฐน่าจะมีมาตรการป้องกันที่ดีขึ้น คิดว่าปี 54 ที่ผ่านมาน่าจะหนักที่สุดแล้ว ฯลฯ
จาก "สถานการณ์น้ำท่วม" ในช่วงนี้ กระทบต่อความนิยมของประชาชนที่มีต่อ "รัฐบาล" มากน้อยเพียงใด ร้อยละ 56.89 กระทบทำให้ความนิยมต่อรัฐบาลลดลง เพราะ แสดงให้เห็นถึงการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่เอาจริงเอาจังในการแก้ปัญหาของรัฐบาล เมื่อประชาชนได้รับความเดือดร้อนก็จะส่งผลให้เกิดความไม่พึงพอใจ และความเชื่อมั่นที่มี ต่อรัฐบาลก็จะลดลง ฯลฯ ร้อยละ 33.92 ไม่กระทบต่อความนิยมของรัฐบาล เพราะ น้ำท่วมเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นภัยธรรมชาติที่มีขึ้นทุกปี ยังมีผลงานอื่นๆ ที่รัฐบาลสามารถทำได้และทำตามนโยบายที่พูดไว้กับประชาชน ฯลฯ ร้อยละ 09.19 กระทบทำให้ความนิยมต่อรัฐบาลเพิ่มขึ้น เพราะ รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาและให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ จากบทเรียนที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายมีการเตรียมพร้อมที่ดีขึ้น ฯลฯ
จาก "สถานการณ์น้ำท่วม" ในช่วงนี้มีผลทำให้ประชาชนให้ความสำคัญและเห็นด้วยกับโครงการบริหารจัดการน้ำที่รัฐบาลจะลงทุน 3 แสนห้าหมื่นล้านบาทที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้หรือไม่ ร้อยละ 38.95 เห็นด้วยและควรเร่งดำเนินการ เพราะ เป็นโครงการที่ดี เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ เป็นการแก้ปัญหาระยะยาว เชื่อมั่นในทีมงานเนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญและเป็นผู้มีความรู้ความสามารถหลายคน ฯลฯ ร้อยละ 36.49 ไม่เห็นด้วยที่จะเร่งดำเนินการ เพราะ ควรพิจารณาศึกษาผลดี ผลเสียอย่างละเอียดรอบคอบ ต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาล เป็นช่องทางในการทุจริตคอรัปชั่น สถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอนในช่วงนี้อาจส่งผลต่อการดำเนินโครงการ ฯลฯ ร้อยละ 24.56 เฉยๆ เพราะ รัฐบาลมีโครงการต่างๆที่ต้องดำเนินการอยู่มาก และต้องใช้งบประมาณในการบริหารจัดการเหมือนกัน โครงการนี้เป็นโครงการสำคัญที่มีหลายฝ่ายให้ความสนใจและจับตามอง โดยเฉพาะสื่อมวลชนจะเป็นผู้ตรวจสอบและนำเสนอข่าวให้ประชาชนได้ทราบเอง ฯลฯ
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น